การเคลื่อนไหวของแดนกษิติครรภ์ไวมาก เพียงแค่วันเดียว ในอาณาเขตอันกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งยวดอย่างแคว้นเรืองเมฆา ผู้สืบทอดแดนกษิติครรภ์ที่กระจัดกระจายอยู่ในทุกเมืองล้วนเคลื่อนไหว
เป้าหมายคือจับกุมหลินสวินผู้สืบทอดคีรีดวงกมล!
ชั่วขณะหนึ่งคลื่นลมพลุ่งพล่าน ดึงดูดสายตาไม่รู้เท่าไหร่
ควรรู้ว่าสิบวันหลังจากนี้งานชุมนุมบัวเลิศก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ในแคว้นเรืองเมฆาตอนนี้รวบรวมขุมอำนาจเก่าแก่มากมายที่มาจากทั่วหล้าฟ้าดารา
อย่างเช่นหกเรือนมรรคใหญ่ สิบเผ่านักรบใหญ่ เผ่าจักรพรรดิดึกดำบรรพ์…
ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ หลินสวินผู้สืบทอดคีรีดวงกมลกลับปรากฏตัวที่แคว้นเรืองเมฆา นี่ย่อมทำให้อดคิดเชื่อมโยงไม่ได้
เจ้าหมอนี่มาเยือน หรือจะเพื่อเข้าร่วมงานชุมนุมบัวเลิศ
เขาคิดจะทำอะไร
แต่ทุกคนกล้ามั่นใจ ว่าการปรากฏตัวของหลินสวินไม่ใช่เรื่องดีแน่
คนที่ถูกทั่วหล้าตามจับ เรียกได้ว่าเป็นศัตรูของทั้งโลก ไปถึงที่ไหนก็จะต้องนำพาลมคาวฝนเลือด!
การเคลื่อนไหวของแดนกษิติครรภ์ดุดันเกรียงไกร ทั้งแคว้นเรืองเมฆาล้วนปกคลุมด้วยบรรยากาศอันตราย
ทุกคนล้วนกำลังจับตามอง
……
เพียงแต่น่าเสียดาย ทุกคนล้วนเดาผิด ที่หลินสวินปรากฏตัวในแคว้นเรืองเมฆาก็แค่ทางผ่านเท่านั้น
อีกอย่าง เขาไม่ได้สนใจงานชุมนุมบัวเลิศ และก็ไม่ได้บ้าถึงขั้นกล้ามองข้ามระดับจักรพรรดิที่ทรงพลังทั้งกลุ่ม
ในเวลาต่อมา เมื่อหลินสวินเดินทางอยู่ในแคว้นเรืองเมฆา ก็ได้รู้ข่าวที่แดนกษิติครรภ์ระดมกำลังค้นหาตน
ตอนนี้สิ่งที่ทำให้ฐานะเขาเปิดเผยง่ายที่สุดก็คือกล่องกระบี่สำริดที่สะพายอยู่ข้างหลัง สมบัตินี้ไม่สามารถถูกเก็บได้ เพียงแค่สะพายไว้ก็ดูสะดุดตาอย่างที่สุดแล้ว
ทว่าหลินสวินไม่ได้เกรงกลัวอะไร
ต่อให้อานุภาพของแดนกษิติครรภ์จะน่ากลัวเพียงใด ทว่าผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิที่มีก็มีจำกัด ไม่มีทางปรากฏตัวออกมาเป็นกลุ่มใหญ่ง่ายๆ
นี่ก็เป็นการกำหนดแล้วว่า แม้ฐานะเปิดเผย ศัตรูทั่วไปก็ไม่สามารถขวางเขาได้!
วู้ม!
วันนี้หลินสวินมาถึงในเทือกเขาที่เปล่าเปลี่ยวแถบหนึ่ง เมื่อยกมือขึ้นพลิก แท่นบัวสีดำอันหนึ่งพลันปรากฏ
ในแท่นบัวสีดำแห่งนี้รวบรวมแรงปรารถนามหามรรคปานสายธาร เดิมทีจักรพรรดิธรรมตู้ผิงมอบให้กับเฒ่าชราผมขาวซวีอู๋เหิง
ตอนนี้กลับกลายเป็นทรัพย์หลังศึกของหลินสวิน
เขามองดูอย่างละเอียดครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็นึกถึงเรื่องที่บันทึกในคัมภีร์มหาครรภ์จุติ
มรดกชั้นสูงของแดนกษิติครรภ์ก็คือคัมภีร์มหากษิติครรภ์ เป็นคัมภีร์มรรคขั้นสูงที่จอมจักรพรรดิกษิติครรภ์บรรพจารย์ผู้บุกเบิกสำนักสร้างขึ้น
ในข่าวลือบนโลกกล่าวว่า ช่วงต้นยุคดึกดำบรรพ์ หลังจากจอมจักรพรรดิกษิติครรภ์สร้างคัมภีร์นี้ก็ไปจากทางเดินโบราณฟ้าดารา มุ่งหน้าไปเสาะหาเส้นทางแห่งมหามรรคที่สูงยิ่งขึ้นยังฟากฝั่งฟ้าดารา
ทว่าอิงตามที่บันทึกในคัมภีร์มหาครรภ์จุติ จอมจักรพรรดิกษิติครรภ์ไม่ได้จากไป แต่เลือกจะเก็บตัวหลับใหลในแดนหวงห้ามแห่งหนึ่งของแดนกษิติครรภ์!
การเก็บตัวเช่นนี้เหมือนการปิดผนึกตัวเองแบบหนึ่ง ว่ากันว่าเพื่อวิชาลับชั้นเลิศที่ทะลวงระดับจักรพรรดิวิชาหนึ่ง
และหากคิดจะปลุกจอมจักรพรรดิกษิติครรภ์ให้ตื่นจากการหลับใหลในกาลเวลาไร้สิ้นสุด จะต้องใช้แรงปรารถนามหามรรคเป็นแหล่งพลังงาน ดำเนินการสังเวย!
เมื่อก่อนหลินสวินมองเรื่องนี้เป็นเพียงข่าวลับหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ใส่ใจ
แต่ตอนนี้หลังจากเห็นแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอารามกษิติครรภ์เมืองรวมเมฆา หลินสวินก็รับรู้ได้ว่า ที่แท้หลายปีมานี้แดนกษิติครรภ์ใช้วิชาลับรวบรวมแรงปรารถนามหามรรคมาโดยตลอด!
เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ต้องการการคุ้มครองในอาณาเขตของพวกเขา ก็เหมือน ‘ผู้สังเวยตน’ ที่มีไม่ขาดสาย ตอนที่คุกเข่าลงกราบไหว้บนพื้น ก็จะถูกดูดแรงปรารถนามหามรรคบนร่างไปอย่างไร้สุ้มเสียง สุดท้ายล้วนตกอยู่ในมือแดนกษิติครรภ์
ก็เหมือนแท่นบัวสีดำในมือของหลินสวิน เป็นสมบัติที่มหัศจรรย์ชิ้นหนึ่งนามว่า ‘แท่นบัวแรงปรารถนา’ เป็นสมบัติที่สั่งสมและปิดผนึกแรงปรารถนามหามรรคอย่างหนึ่ง
หลังสังเกตดูคร่าวๆ หลินสวินก็มองออกว่า แรงปรารถนามหามรรคที่สั่งสมอยู่ในแท่นบัวแรงปรารถนา อย่างน้อยก็มากถึงหมื่นชนิด ทุกชนิดล้วนครอบครองโดยผู้ฝึกปราณที่แตกต่างกัน
คิดๆ แล้วในอาณาเขตที่แดนกษิติครรภ์ครอบครองมีเมืองกระจายอยู่ไม่รู้เท่าไหร่ ทุกเมืองจะดำเนินการ ‘สังเวย’ ทุกเจ็ดวัน เช่นนี้แรงปรารถนามหามรรคที่เก็บรวบรวมได้จะน่ากลัวเพียงใด
‘หากเพื่อปลุกจอมจักรพรรดิกษิติครรภ์ที่หลับใหลอยู่จริง… เช่นนั้นแผนของแดนกษิติครรภ์ก็น่ากลัวเกินไปแล้ว…’
ในใจหลินสวินหนาวเยือกขึ้นมาคราหนึ่ง
จอมจักรพรรดิกษิติครรภ์ บุคคลที่เรียกได้ว่าเลิศล้ำตั้งแต่ยุคต้นดึกดำบรรพ์ มีมรรควิถีน่ากลัวถึงขั้นไม่สามารถจินตนาการได้อย่างแน่นอน
ผู้ที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นจอมจักรพรรดิในโลกมืด หากตื่นขึ้นจากการหลับใหลมาหมื่นกาล จะต้องเป็นเรื่องที่ทำให้ใต้หล้าตะลึงอย่างแน่นอน
ถึงตอนนั้นเกรงว่าทั้งโลกมืดคงมีแดนกษิติครรภ์ปกครอง!
‘จนถึงวันนี้แดนกษิติครรภ์ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรออกมา เช่นนี้ดูท่าว่า หากพวกเขาอยากใช้แรงปรารถนามหามรรคปลุกจอมจักรพรรดิกษิติครรภ์จากการหลับใหลจริงๆ คงไม่ใช่เรื่องง่าย’
หลินสวินพินิจแท่นบัวสีดำในมือ จมสู่ภวังค์ความคิด
แรงปรารถนามหามรรคเป็นพลังที่มหัศจรรย์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้อย่างหนึ่ง ยากจะคาดเดาเหมือนโชคชะตา เลื่อนลอยว่างเปล่าเหมือนกาลเวลา
ตอนนี้หลินสวินมีคัมภีร์ชั้นเลิศมากมาย ย่อมรู้ดีว่าในการบำเพ็ญมรรคจักรพรรดิ แรงปรารถนามหามรรคก็มีประโยชน์สำคัญที่ไม่สามารถแทนที่ได้!
อย่างเช่นก่อนหน้านี้ที่จักรพรรดิธรรมตู้ผิงมอบแท่นบัวแรงปรารถนาชิ้นหนึ่งให้กับเฒ่าชราผมขาวซวีอู๋เหิง ย่อมต้องรู้ดีว่าแรงปรารถนามหามรรคในแท่นบัวแรงปรารถนานี้ สามารถช่วยในการฝึกปราณของระดับจักรพรรดิได้
เพียงแต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หลินสวินยังไม่ก้าวสู่ระดับจักรพรรดิ แม้รู้ถึงความมหัศจรรย์ของแรงปรารถนามหามรรคอยู่บ้าง ทว่าประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมคืออะไรกลับไม่รู้ชัด
แต่หลินสวินกล้ามั่นใจ ว่าแดนกษิติครรภ์เก็บรวบรวมแรงปรารถนามหามรรคอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ จะต้องเป็นมีแผนการยิ่งใหญ่แน่!
‘คิดว่าข้าคนแซ่หลินรังแกได้ง่ายๆ หรือ… ก่อนไปจากแคว้นเรืองเมฆาจะเล่นกับพวกเจ้าให้สาสมสักหน่อย’
ดวงตาดำของหลินสวินลึกล้ำ ความเย็นเยียบวาบผ่าน
เมื่อนานมาแล้วเขาเคยถูกแดนกษิติครรภ์ตามฆ่า หลังจากมาถึงโลกมืด แดนกษิติครรภ์ยิ่งเป็นเหมือนสุนัขเชื่องตัวหนึ่ง ออกประกาศจับเขา
ถึงขั้นที่ตอนนี้เพราะเขาปรากฏตัวในแคว้นเรืองเมฆา แดนกษิติครรภ์จึงเคลื่อนไหวออกตามหาร่องรอยอย่างหนัก!
หากเป็นเมื่อก่อน หลินสวินจะต้องออกจากสถานที่อันตรายนี้ทันทีอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้เขาไม่กลัวนานแล้ว จะจากไปเหมือนเมื่อก่อนได้อย่างไร
……
เมืองผาเขียว
เมืองที่อาณาเขตกว้างใหญ่แห่งหนึ่งในแคว้นเรืองเมฆา อารามกษิติครรภ์ในเมืองสร้างอย่างงดงามโอ่อ่า สง่างามศักดิ์สิทธิ์
นอกเมือง
ผู้สืบทอดแดนกษิติครรภ์ทำตัวเป็นผู้คุ้มกัน หลังจากตรวจสอบผู้แข็งแกร่งทุกคนที่เข้าเมืองอย่างเข้มงวดเป็นที่สุดถึงอนุญาตให้เข้าไป
บนหอกำแพงเมืองสูงใหญ่ยิ่งติดข่าวประกาศจับและภาพวาดที่เกี่ยวกับหลินสวินเต็มไปหมด ราวกับกลัวคนไม่รู้ว่าหลินสวินเป็นคนร้ายอันดับหนึ่งของฟ้าดาราอย่างไรอย่างนั้น
แต่ก็น่าเสียดาย การตรวจสอบจะเข้มงวดเพียงใด ก็ไม่สามารถขวางการเข้าไปของคนอย่างหลินสวินได้
อันที่จริงตอนที่หลินสวินเข้าเมืองผาเขียว ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้ดึงดูดความสนใจใดๆ สักนิด
ไม่ทันไรเขาก็มาถึงอารามกษิติครรภ์
ภาพอันคุ้นเคยกำลังเกิดขึ้นในอาราม เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ต้องการการปกป้องในเมืองกำลังคุกเข่ากราบไหว้บนมรรคสถานใหญ่อย่างศรัทธา
ในกระถางธูปที่อยู่ตรงหน้า ธูปที่จุดอยู่กำลังดึงแรงปรารถนามหามรรคบนร่างพวกเขาทุกอย่างเงียบๆ และพวกเขาล้วนไม่รู้ตัวเลย
‘พวกเขาอยากปลุกเจ้าที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นมาจริงหรือ…’
สายตาหลินสวินมองไปยังซุ้มธรรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในมรรคสถาน ในซุ้มธรรมมีสัตว์เทพเก้าไม่เหมือนตัวหนึ่งตั้งอยู่ มองสรรพชีวิตอย่างเย่อหยิ่ง ราวกับเทพที่ปกครองในความมืด
“เจ้าเป็นใคร ถึงกับกล้ามองรูปปั้นเทพของบรรพจารย์สำนักข้าอย่างไร้มารยาท” ภิกษุชุดดำคนหนึ่งเดินมาต่อว่าหลินสวิน
“พวกเจ้าเก็บรวบรวมแรงปรารถนามหามรรคเพื่อปลุกมันหรือ” หลินสวินชี้รูปปั้นเก้าไม่เหมือนในซุ้มธรรมที่อยู่ไกลออกไป
ภิกษุชุดดำอึ้งงัน สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เอ่ยอย่างเดือดดาล “กำเริบ! ใครก็ได้ มาจับคนผู้นี้ไว้!”
ฮูม…
ภิกษุชุดดำกลุ่มหนึ่งพุ่งออกมา
หลินสวินยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ บนร่างเขากลับมีปราณกระบี่พร่างพราวนับไม่ถ้วนทะยานออกมา ราวกับแสงเทพที่พาดขวางตัดสลับแผ่กระจายออกมา
พรูดๆๆ!
ภิกษุชุดดำแต่ละคนยังไม่ทันมาถึง ก็ถูกปราณกระบี่ฟันศีรษะลงมา ชั่วขณะหนึ่งในอากาศเต็มไปด้วยศีรษะลอยคว้าง เลือดสดสาดกระเซ็นออกมาราวกับตาน้ำนับไม่ถ้วน
“เจ้า… เจ้าเป็นใครกันแน่ ถึงกับกล้ามาก่อเรื่องกับแดนกษิติครรภ์ของข้า” ภิกษุชุดดำที่ด่าทอหลินสวินก่อนหน้านี้สีหน้าเขียวคล้ำ ตาเบิกถลน
“พวกเจ้ากำลังตามหาข้าไม่ใช่หรือ” หลินสวินสีหน้าราบเรียบ
ภิกษุชุดดำราวกับถูกฟ้าผ่า กระจ่างแจ้งอย่างสิ้นเชิง เพียงแต่ครู่ต่อมาศีรษะของเขาก็ร่วงหลุด ตายคาที่
ตอนที่หลินสวินเดินออกจากอารามกษิติครรภ์แห่งนี้ ผู้สืบทอดแดนกษิติครรภ์ทั้งหมดล้วนตายอยู่ในนั้น
แท่นบัวแรงปรารถนาที่ใช้รวบรวมแรงปรารถนามหามรรคถูกหลินสวินเก็บไป
หลังจากหลินสวินออกจากเมืองผาเขียว เมืองที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดนี้ถึงตกอยู่ในความลนลานและอลหม่านครั้งใหญ่
ยามมาเหมือนเข้าสู่แดนไร้คน เสร็จเรื่องก็สะบัดแขนเสื้อจากไป!
……
ข่าวกระจายออกไปทันที
แต่ตอนที่เหล่าผู้ยิ่งใหญ่แดนกษิติครรภ์มาถึงเมืองผาเขียวก็ไม่เห็นร่องรอยของหลินสวินนานแล้ว ทำเอาพวกเขาโมโหจนแน่นอก ไม่สามารถระบายได้ แทบจะกระอักเลือดแล้ว
ใครก็คิดไม่ถึงว่าในสถานการณ์ที่ตามจับเต็มกำลัง หลินสวินกลับกล้าทำเช่นนี้ อาละวาดโดยไม่เกรงกลัวอะไร!
และหลังจากนั้นเงาร่างของหลินสวินเริ่มปรากฏตัวในเมืองต่างๆ ขอเพียงปรากฏตัว อารามกษิติครรภ์ก็จะต้องถูกทำลาย แท่นบัวแรงปรารถนาถูกชิงไป
การเข่นฆ่าตลอดทางนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีใครห้ามได้ ไร้คนขวาง พังทลายในทุกที่!
ข่าวก็ปิดไม่อยู่ การสังหารที่ดุจผ่าลำไผ่ของหลินสวินประหนึ่งพลังเรืองรองลุกโชน ทำให้ทั้งแคว้นเรืองเมฆาปั่นป่วน เกิดคลื่นลมทั่วฟ้า
เสียงฮือฮา ตกใจ สะท้านไหวไม่รู้เท่าไหร่ดังขึ้น ทั้งโลกมืดล้วนตกตะลึงไม่กล้าเชื่อ
ตอนที่ข่าวนี้แพร่มาถึงเมืองหมื่นดารา เหล่าขุมอำนาจใหญ่ที่มาจากทั่วหล้าฟ้าดาราต่างสูดหายใจสะท้าน จิตใจสั่นไหว
นี่ทำให้คนรู้สึกเหลือเชื่อจริงๆ หลินสวินเป็นศัตรูของคนทั้งโลกแล้ว ในสถานการณ์ที่ถูกทั่วหล้าตามจับ แต่เขากลับเหมือนไม่กลัวเลยสักนิด ใช้พลังของตนเพียงคนเดียว ก็สร้างลมคาวฝนเลือดในเมืองมากมายในอาณาเขตของแดนกษิติครรภ์!
ตอนที่ภิกษุเฒ่าตู้หมิงรู้เรื่องทั้งหมดนี้ก็โกรธจนแทบระเบิดเช่นกัน
ยามที่งานชุมนุมบัวเลิศกำลังจะเริ่มขึ้น กลับเกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่เช่นนี้ในอาณาเขตของพวกเขา นี่ต้องทำให้คนทั่วหล้าหัวเราะเยาะแดนกษิติครรภ์ของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย!
…………………..