บทที่ 1881

The king of War

หยุดยั้งหม่าชาว

ดูเหมือนหยางเฉินจะรู้สึกได้ถึงความคิดที่จะล่าถอยของ ไป๋หลี่ซวน เขาพูดอย่างเย็นชา “ขอโทษมา! นายดูถูกมารดาของพี่น้องฉัน นายจะต้องเอ่ยขอโทษ!”

“อย่ารังแกกันให้มากไป!”

ไป๋หลี่ซวน กัดฟัน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ

ในฐานะอดีตเจ้าบ้านของบ้านที่สามตระกูลบู๊โบราณไป๋หลี่ ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง อีกทั้งลูกชายและหลานชายของเขาก็ล้วนมีตำแหน่งสูงในตระกูลไป๋หลี่ คนหนึ่งเป็นเจ้าบ้านของบ้านที่สาม อีกคนหนึ่งเป็นทายาทของเจ้าบ้านบ้านที่สาม

แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะยังไม่ถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด แต่เขาก็ยังเป็นผู้มีเกียรติในตระกูลไป๋หลี่เพราะมีลูกชายและหลานชายที่ยอดเยี่ยม

แต่ตอนนี้ ในโลกฆราวาส เขากลับถูกคุกคามโดยนักบู๊คนหนึ่งที่มีความแข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางเท่านั้น

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถทำอะไรหยางเฉินได้ หลังจากที่หยางเฉินนำมีดโลหิตออกมา โอกาสในการชนะของเขาก็ลดต่ำลงไปอีกแล้ว

หยางเฉินมองไปที่ ไป๋หลี่ซวน อย่างเย็นชาและพูดว่า “ฉันให้เวลานายคิดแค่หนึ่งนาทีเท่านั้น จะขอโทษมา หรือว่าให้ฉันส่งนายไปตายตอนนี้!”

ไป๋หลี่ซวน โกรธจัด แต่เมื่อมาถึงจุดนี้เขาก็ทำได้แค่กล้าที่จะโกรธแต่ไม่กล้าพูด

สมาชิกทุกคนในสมาพันธ์บูโดต่างก็ตื่นเต้น หยางเฉินปราบได้แม้กระทั่งผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายของตระกูลไป๋หลี่

มีผู้นำที่แข็งแกร่งเช่นนี้ สมาพันธ์บูโดในอนาคตจะต้องมีแต่แข็งแกร่งขึ้นไปอย่างแน่นอน

จู่ๆ พวกเขาก็สงสัยว่าต่อให้มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดปรากฏอยู่ในที่นี้ หยางเฉินก็คงไม่กลัวเลยแม้แต่น้อยและอาจถึงกับสามารถจัดการได้อย่างใจเย็นด้วย

หม่าชาวจ้องไปที่ ไป๋หลี่ซวน พร้อมเจตนาฆ่าบนใบหน้า แม้ว่าเขาต้องการจะฆ่าไอ้คนที่ดูหมิ่นแม่ของเขาอย่างยิ่ง แต่กลับต้องระงับความโกรธของตนเอาไว้

เนื่องจากเขาฉีกรอยร้าวของผนึกลูกแก้วดูดเลือดให้เปิดออก มาตอนนี้จึงเป็นเรื่องง่ายดายมากที่จะถูกพลังของลูกแก้วดูดเลือดสะท้อนกลับ

พลังนี้แข็งแกร่งเกินไป เขาจำเป็นต้องผนึกมันลงไป หากประมาทก็อาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากพลังสะท้อนกลับของลูกแก้วดูดเลือด

แม้ว่าอยากจะแก้แค้นก็ต้องไม่ใช่ตอนนี้ ส่วนไป๋หลี่ซวนก็เป็นแค่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายและไม่ได้มีอำนาจอะไรในตระกูลไป๋หลี่

เวลาผ่านไปทีละวิทีละวิ ชั่วพริบตา หนึ่งนาทีก็มาถึง

หยางเฉินกล่าวอย่างเย็นชา “เวลาของนายหมดลงแล้ว บอกทางเลือกของนายมา!”

ไป๋หลี่ซวน สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “ขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรดูถูกไป๋หลี่ชิวเหว่!”

หยางเฉินเลิกคิ้วและกล่าวอย่างเย็นชา “ฉันต้องการให้นายขอโทษน้องชายของฉัน ไม่ใช่ฉัน”

ไป๋หลี่ซวน พูดอย่างโกรธเคือง “นายอย่าได้รังแกกันให้มากเกินไปนัก ฉันสัญญาว่าจะขอโทษก็เพราะความแข็งแกร่งของนายควรค่ากับคำขอโทษของฉัน แต่เขานับเป็นตัวอะไร? ก็แค่เศษขยะแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าชั้นต้น แบบนี้จะให้ฉันไปขอโทษ?”

หยางเฉินเอ่ย “ในเมื่อไม่ยินยอม อย่างนั้นฉันก็จะส่งนายไปตายเดี๋ยวนี้!”

เมื่อพูดจบ ออร่าบู๊บนตัวของเขาก็ระเบิดออกทันที

“ขอโทษ!”

ไป๋หลี่ซวนตื่นตระหนกทันทีและตะโกนใส่หม่าชาว “ฉันขอโทษนาย ฉันไม่ควรดูถูกแม่ของนาย ฉันขอโทษ! ฉันผิดไปแล้ว!”

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอัปยศ และการแสดงออกบนใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวไปเพราะความโกรธ

ในฐานะอดีตเจ้าบ้านของบ้านที่สามตระกูลบู๊โบราณไป๋หลี่ ถูกบีบคั้นจนถึงขั้นนี้ นี่แทบจะเป็นมลทินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา

ในใจของเขาไม่ยินยอมอย่างยิ่งแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ไป๋หลี่ซวน จ้องไปที่หยางเฉินอย่างโกรธเคืองและพูดว่า “ตอนนี้นายปล่อยฉันไปได้แล้วใช่ไหม?”

หยางเฉินไม่พูดอะไรและไม่ลงมือใดๆ

ไป๋หลี่ซวนคิดไปเองว่าหยางเฉินตกลงที่จะปล่อยเขาไปและหันหลังจากไป

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาเพิ่งเดินออกไปไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นก็มีเจตนาฆ่าที่น่าสยดสยองส่งตรงมาอยู่ข้างหลังเขา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันทีและคำรามลั่น “หยางเฉิน นายหลอกฉัน!”

“พรูด!”

ทันทีที่เสียงของเขาจบลง มีดโลหิตก็พุ่งเข้าใส่หลังของเขาทันที ไป๋หลี่ซวนไม่มีแม้แต่โอกาสจะหลบเลี่ยง มีดโลหิตทะลุเข้าไปยังตำแหน่งหัวใจหลังของเขา

ทั้งสถานที่เกิดเป็นความเงียบสงัด ทุกคนต่างมองไปยังศพที่นอนอยู่บนพื้นด้วยความตะลึงตาค้างไม่อยากจะเชื่อ

ครั้งหนึ่ง ในสายตาของนักบู๊โลกฆราวาสเหล่านี้ ความแข็งแกร่งของตระกูลบู๊โบราณเทียบเท่าได้กับเทพเจ้า อีกทั้งยังไม่อาจไปหาเรื่องด้วยได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการที่ผู้แข็งแกร่งโลกฆราวาสสามารถฆ่าผู้แข็งแกร่งของตระกูลบู๊โบราณได้

แต่ตอนนี้ ภายใต้จมูกของพวกเขา ผู้แข็งแกร่งจากตระกูลบู๊โบราณไป๋หลี่ ไม่เพียงถูกบังคับให้ต้องขอโทษแต่ยังถูกฆ่าตายด้วย

นั่นเป็นถึงผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายเชียวนะ!

ถึงกับตายไปแบบนี้?

ทุกคนล้วนรู้สึกเหลือเชื่อ

นักบู๊สามสิบคนที่ติงเหวินจัวนำตัวมาก่อนหน้านี้ ในเวลานี้แต่ละคนล้วนตัวสั่นและเต็มไปด้วยความกลัว

พวกเขาไม่รู้ว่าหยางเฉินจะทำอะไรกับพวกเขา แต่พวกเขารู้ดีว่าถ้าหยางเฉินต้องการ การฆ่าพวกเขาทั้งสามสิบคนก็เป็นแค่เรื่องง่ายดาย

ในเวลานี้ หยางเฉินเก็บมีดโลหิตที่ไม่ได้เปรอะเปื้อนเลือดเลยสักหยดขึ้น ครู่ต่อมา พลังความกดดันบู๊ที่น่าสะพรึงกลัวก็สลายหายไป

ผู้คนในที่เกิดเหตุถึงค่อยรู้สึกว่าแรงกดดันลดลงไปอย่างมาก

หม่าชาวมองหยางเฉินด้วยใบหน้าขอบคุณ
หยางเฉินเองก็มองมาที่หม่าชาวและพูดอย่างจริงจังว่า “สักวันหนึ่ง ฉันจะพานายไปที่ตระกูลไป๋หลี่ ฉันจะให้พวกเขารู้ว่าทารกที่พวกเขาเคยไล่ฆ่านั้นเติบโตขึ้นแล้วอีกทั้งยังมีศักยภาพที่จะล้มล้างตระกูลบู๊โบราณไป๋หลี่ด้วย!”

หม่าชาวพยักหน้าอย่างหนักและพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “พี่เฉิน ผมจะพยายามทำให้วันนั้นมาถึงเร็วขึ้น”

หยางเฉินพยักหน้า “ฉันเชื่อนาย!”

จู่ๆ หม่าชาวก็ดูเหมือนอยากจะคุยแต่กลับหยุดไป

หยางเฉินขมวดคิ้ว “นายมีอะไรจะพูดก็พูดมา”

หม่าชาวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “พี่เฉิน ผมฉันอยากไปภูเขาวมาร!”

ภูเขาวมารถูกเรียกว่าเป็นพื้นที่ต้องห้ามของสนามรบนอกอาณาเขต

อีกทั้งภูเขาวมารยังเป็นสถานที่แห่งความวุ่นวายเพียงแห่งเดียวในสนามรบนอกอาณาเขต ที่นั่นมีผู้แข็งแกร่งอันดับต้น ๆ จากโลกอยู่และผู้แข็งแกร่งจำนวนมากเสียชีวิตไปทุกวัน

ที่แห่งนี้เป็นสถานที่อันน่าสยดสยองที่อันตรายกว่าสนามรบถึง 100 เท่า แม้แต่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดก็ยังอาจตายได้ทุกเมื่อ

ทุกวัน ล้วนมีการต่อสู้นับไม่ถ้วนเกิดขึ้นในภูเขาวมาร

อย่างไรก็ตาม ผู้แข็งแกร่งที่สามารถเดินออกจากภูเขาวมารได้ก็ล้วนกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้อย่างไม่มีข้อยกเว้น

ในอดีต หยางเฉินก็เคยไปที่ภูเขาวมารด้วยเช่นกัน เพียงแต่ในขณะนั้น พลังของเขาอ่อนแอเกินไปและอยู่ได้เพียงไม่นานก็เป็นฝ่ายจากมา

หม่าชาวอยากไปยังภูเขาวมาร แน่นอนว่าไม่เหมือนกับที่หยางเฉินเคยเป็นที่เป็นเพราะอ่อนแอเกินไปจึงเป็นฝ่ายจากมา แต่ที่เขาอยากไปก็เพราะการเดินบนถนนแห่งการฆ่าฟันและผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดเท่านั้นจึงจะสามารถบีบคั้นเขาให้พัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว

“ไม่ได้!”

หลังจากเงียบไปนาน หยางเฉินก็ปฏิเสธทันทีและเอ่ยตำหนิว่า “นายเป็นลูกผู้ชาย! เป็นสามี และเป็นพ่อคนด้วย!”

“ฉันรู้ว่านายเกลียดชังตระกูลไป๋หลี่ แต่นายควรรู้ไว้ว่าลูกผู้ชายสิบปีไม่สายที่จะแก้แค้น! และไม่ใช่มีแค่การไปที่ภูเขาวมารถึงจะทำให้นายแข็งแกร่งขึ้นมาได้”

“อย่าลืมว่า ข้างกายพวกเรายังมีเฝิงเสียวหว่าน ทักษะทางการแพทย์ของเธอนั้นไม่มีใครเทียบได้ อีกทั้งยังมีทักษะการปรุงยา ด้วยความช่วยเหลือของเธอ พวกเราทุกคนล้วนพัฒนาความแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็ว”

“ภูเขาวมารเป็นสถานที่แบบไหน นายเองก็รู้ดี เมื่อนายก้าวเท้าเข้าไป ก็เท่ากับตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง หากนายตายจริงๆ แล้วยังจะต้องมาพูดเรื่องการแก้แค้นอะไรกันได้อีก?”

“ถ้านายตาย อ้ายหลินจะทำยังไง? หม่าจิ้งอันจะทำอย่างไร?”