เย่เฉินพยักหน้า กล่าวว่า “ครับ คุณแม่ คุณแม่มีธุระก็ไปทำก่อนเถอะ”
หม่าหลันรีบยิ้มเอ่ยว่า “เอาล่ะๆ! งั้นแม่ออกไปก่อนนะ มีเรื่องอะไรก็โทรหาแม่แล้วกัน!”
“ครับ”
เย่เฉินไม่ได้คิดอะไรมาก อย่างไรหม่าหลันก็เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ออกไปข้างนอกก็เป็นเรื่องปกติทั่วไป
…
เวลานี้เซียวฉางเฉียนที่อยู่บนระเบียงห้องของตัวเองมาตลอด ก็จ้องเขม็งไปที่หน้าประตูบ้านของเย่เฉิน
พอเห็นหม่าหลันออกจากบ้านอย่างรีบร้อน มุมปากเขาก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชาสายหนึ่ง
ทันใดนั้น เขาก็รีบเดินลงมาชั้นล่าง พูดกับเซียวไห่หลงว่า “ไห่หลง หม่าหลันออกจากบ้านแล้ว! พวกเพื่อนของแกเตรียมการไปถึงไหนแล้ว?”
เซียวไห่หลงยิ้มกล่าวว่า “พ่อ ผมทำอะไรพ่อวางใจได้เลย ผมเตรียมพร้อมเสร็จแล้ว รับรองเลยว่าหม่าหลันไปได้แต่ไร้ทางกลับ!”
เซียวฉางเฉียนรีบกล่าวว่า “มาๆๆ แกมาทวนแผนการทั้งหมดกับพ่ออีกที พ่อจะดูว่ามีอะไรผิดพลาดหรือไม่!”
เซียวเวยเวย นายหญิงใหญ่เซียวก็เข้ามาสมทบด้วย รอคำพูดต่อไปของเซียวไห่หลงด้วยสีหน้าคาดหวัง
เซียวไห่หลงกล่าวด้วยสีหน้าลำพองใจ “ก่อนอื่น เมื่อกี้ที่ให้บริการขนส่งส่งบัตรเสริมความงามใบนั้นให้หม่าหลัน สถานเสริมความงามแห่งนั้นไม่ได้ชื่อว่าRitz Beauty Salonหรอก เจ้าของสถานเสริมความงามแห่งนี้เมื่อก่อนเป็นเพื่อนคนหนึ่งของผม ตอนนี้ธุรกิจเขาประสบความลำบาก อยากจะส่งต่อสถานเสริมความงามนี้มาตลอด แต่ระยะนี้สภาพเศรษฐกิจไม่ดีไม่ใช่เหรอ ดังนั้นจึงส่งต่อไม่ได้มาตลอด”
เซียวฉางเฉียนโบกมือ “พูดเข้าเรื่อง!”
เซียวไห่หลงรีบกล่าวว่า “อย่าใจร้อนสิพ่อ! ผมต้องบอกแผนการทั้งหมดกับพวกคุณให้ชัดเจน!”
เซียวฉางเฉียนพยักหน้า “ได้ๆๆ แกพูดมา”
เซียวไห่หลงถึงค่อยพูดต่อว่า “เพื่อนคนนี้ของผมตอนนี้ประคองต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงคิดจะอาศัยวันปีใหม่ที่สมาชิกในร้านค่อนข้างมาก ไม่ทำเสริมความงามเสียเลย ฉวยโอกาสม้วนเสื่อชิ่งหนีแทน ผมบอกกับเขาว่า ขอเพียงเขาร่วมมือเล่นละครฉากนี้กับผมดีๆ ก็จะให้เขาสองแสน อย่างไรเขาก็จะชิ่งหนีอยู่แล้ว ดังนั้นย่อมหวังให้ก่อนชิ่งหนี ได้กำไรมากหน่อย”
เซียวเวยเวยที่อยู่ด้านข้างรีบร้อนถามว่า “พี่ พี่ล่อให้หม่าหลันไปเสริมความงาม เพราะคิดจะจับเธอที่สถานเสริมความงามใช่ไหม?”
“ใช่!” เซียวไห่หลงพยักหน้า กล่าวว่า “สถานเสริมความงามนั่นยังมีประตูหลังอีกบาน รอตอนที่หม่าหลันเข้าไปทำSPA ฉันจะให้ช่างเทคนิครมยาสลบเธอในน้ำ รอเธอสลบไปแล้ว พวกเราก็จะขับรถมายังประตูหลังของสถานเสริมความงาม จากนั้นก็มัดหม่าหลันพามาจากประตูหลัง แบบนี้ก็เทพไม่รู้ผีไม่เห็นแล้ว!”
เฉียนหงเย่นฟังถึงตรงนี้ ก็รีบร้อนเอ่ยปากถามว่า “ไห่หลง หลังลูกทรมานหม่าหลันเสร็จแล้ว คิดจะจัดการเธอยังไง?”
เซียวไห่หลงพูดว่า “อันนี้ผมยังไม่ได้คิด พวกคุณคิดว่าไงล่ะ?”
เฉียนหงเย่นพลันเอ่ยขึ้นอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “หาเหมืองถ่านหินสักแห่ง แล้วส่งเธอไปขุดเหมือง!”
เซียวไห่หลงพูดอย่างกระอักกระอ่วนว่า “ผมเองก็ไม่รู้จักใครที่ทำเหมืองถ่านหินเลย!”
เซียวเวยเวยพูดโพล่งขึ้นมาว่า “งั้นก็ส่งเธอไปปลูกอ้อยที่แอฟริกา! ฉันได้ยินว่าที่นั่นมีต่างด้าวผิดกฎหมายไม่น้อยเลย ตลอดชีวิตได้แต่ก้มหน้าก้มตาฟันอ้อยอยู่ในไร่อ้อย ออกไปจากแผ่นดินแอฟริกาไม่ได้ตลอดชีวิต!”
เซียวไห่หลงกระแอมออกมาเสียงหนึ่ง พูดอย่างกระอักกระอ่วนว่า “เวยเวย ที่เธอพูดมาเป็นการลักลอบขนส่งผิดกฎหมาย ฉันจะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนั้นได้ที่ไหนกัน!”
เฉียนหงเย่นร้อนใจ พูดโพล่งออกมาว่า “ไห่หลง หรือว่าหลังลูกหาคนมาหลับนอนกับหม่าหลัน แล้วถ่ายรูป จากนั้นก็จะปล่อยเธอไป?! แบบนี้มันก็สบายเธอเลยสิ?!”
แม้เซียวฉางเฉียนจะรังเกียจเฉียนหงเย่นเป็นอย่างมาก แต่พอได้ยินเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเห็นด้วย “นั่นสิ! แค่หาคนมาหลับนอนกับหม่าหลัน อาจจะเป็นการทำให้หม่าหลันได้เปรียบแทน!”
นายหญิงใหญ่เซียวไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่ ก็เอ่ยปากขึ้นว่า “พวกเราจัดการหม่าหลัน ถือเป็นการช่วยประธานอู๋ระบายความโกรธ ถ้าอย่างนั้นฉางเฉียนลูกลองโทรถามประธานอู๋ดูก่อนดีไหม ดูว่าเขามีเพื่อนที่ทำเหมืองถ่านหินหรือไม่ ถึงเวลาก็จัดให้หม่าหลันไปขุดเหมืองที่นั่น!”