เซียวไห่หลงถามอีกครั้ง:”ในรถตู้ยังมีผู้หญิงอีกหนึ่งคนจะให้ทำยังไง? พวกเราไม่มีทางเลือกก็เลยจับตัวเธอมาด้วย แต่พวกเราไม่รู้จักเธอเลย”
เซียวฉางเฉียนจุ๊ปากและพูด:”ไม่ต้องกังวล จัดการหม่าหลันก่อน ถ้าไม่รู้จะทำยังไงกับผู้หญิงคนนี้ก็ส่งเธอไปที่เหมืองถ่านหินดำด้วย!”
…
ในเวลานี้ ตระกูลเย่ได้รับข่าวว่าเย่ฉางหมิ่นถูกลักพาตัว
หลังจากที่คุณท่านเย่รู้เรื่องนี้แล้ว เขาก็โกรธจัดทันที!
เขาโยนแจกันลายครามที่เป็นหนึ่งในสิ่งของตัวเองรักมากๆในห้องนั่งเล่น และตะโกนด้วยความโกรธ:”ด้วยฐานะและความแข็งแกร่งของตระกูลเย่ของเราในประเทศจีน ยังมีคนกล้าลักพาตัวคนของตระกูลเย่อีก พวกเขากล้ามากๆ?!”
เย่ฉางโคง เย่ฉางหยุน เย่ฉางจุ้นทั้งสามพี่น้อง ทุกคนต่างมองหน้ากัน แต่ไม่มีใครกล้าพูด
เย่ฉางหมิ่นโดนลักพาตัวอย่างกะทันหัน สำหรับพวกเขา มันไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลเลย
ตรงกันข้าม มันกลับเป็นเรื่องที่ทั้งสามคนคาดหวังและดีใจ
เพราะพี่น้องสามคนนี้ไม่มีใครชอบเย่ฉางหมิ่นเลย
เหตุผลไม่มีอะไรมาก นอกจากผลประโยชน์
ถ้าหากเย่ฉางหมิ่นเหมือนเย่ฉางซิ่วที่เป็นลูกสาวคนเล็กของตระกูลเย่ แต่งงานออกไปและไปใช้ชีวิตอยู่กับสามีตัวเอง พวกเขาก็คงไม่รังเกียจเธอขนาดนี้
แต่เป็นเพราะเย่ฉางหมิ่นแต่งงานออกไปแล้ว เธอกลับไม่ค่อยปรนนิบัติสามีและเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน แต่เธอแยกกันอยู่กับสามี และกลับมาที่ตระกูลเย่เพื่อแย่งทรัพย์สมบัติ ทำให้พี่น้องสามคนของตระกูลเย่ รังเกียจเย่ฉางหมิ่นมากๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เย่ฉางหมิ่นเป็นคนที่เจ้าเล่ห์มากๆ
เธอไม่ใส่ใจความรู้สึกของสามพี่น้องตระกูลเย่เลย แต่เธอใส่ใจแค่ความรู้สึกของคุณท่านเพียงคนเดียว
เพื่อทำให้คุณท่านชอบตัวเองมากขึ้น เธอจงใจกลั่นแกล้งพี่น้องสามคน ทำให้พวกเขารำคาญมากๆ
ตอนนี้เธอถูกลักตัว นี่เป็นของขวัญที่สวรรค์มอบให้พวกเขาสามพี่น้องจริงๆ?
ถึงแม้ว่าพวกเขาสามคนจะไม่ได้พูดคุยและสื่อสารกัน แต่พวกเขาทุกคนก็มีความปรารถนานี้อยู่ในใจ
พวกเขาหวังว่าคนที่ลักพาตัวจะฆ่าเย่ฉางหมิ่นและไม่ปล่อยตัวเธอกลับมา
คุณท่านเย่โจงฉวนหงุดหงิดมากๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เขารู้สึกว่าลูกสาวคนโตอย่างเย่ฉางหมิ่นไม่เพียงเป็นคนที่มีความสามารถ แต่เธอยังเชื่อฟังคำพูดของเขาด้วย เมื่อเทียบกับลูกชายสามคนที่ฟังคำสั่งแต่ไม่ทำตาม เย่ฉางหมิ่นทำให้ตัวเองรู้สึกสบายใจมากกว่า
ตอนนี้ลูกสาวของตัวเองไปหาเย่เฉินที่เมืองจินหลิงเพราะคำสั่งของตัวเอง แต่ถูกลักพาตัวที่เมืองจินหลิง สิ่งนี้ไม่เพียงคุกคามชีวิตของลูกสาวตัวเอง แต่ยังตบหน้าตัวเองอย่างแรงอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
ดังนั้น เขารีบโทรศัพท์ไปหาเฉินจื๋อข่าย ถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เฉินจื๋อข่ายทำได้เพียงพูดตามความจริง บอกเรื่องที่เย่ฉางหมิ่นไปหาหม่าหลัน เธอถูกลักพาตัวพร้อมกับหม่าหลัน และบอกรายละเอียดทุกอย่างกับคุณท่านเย่
เมื่อคุณท่านเย่ฟังจบก็พูดทันที:”เฉินจื๋อข่าย คุณคิดว่าเป้าหมายของพวกเขาคือฉางหมิ่นหรือว่าหม่าหลัน?”
เฉินจื๋อข่ายพูด:”คุณท่าน ฉันไม่สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้ในขณะนี้ คุณหนูใหญ่มีฐานะทางสังคมสูง บางทีอาจจะมีคนร้ายที่ไม่กลัวตายลักพาตัวเธอเพื่อเรียกค่าไถ่ก็ได้ และแม่ยายของเย่เฉิน เป็นคนอารมณ์ร้ายปากจัด เธอมักจะล่วงเกินผิดใจกับคนอื่นอยู่บ่อยๆ บางทีอีกฝ่ายอาจจะลักพาตัวเธอเพื่อแก้แค้น เรื่องทั้งหมดนี้จะรู้ก็ต่อเมื่อหาพวกเธอเจอ”
คุณท่านเย่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:”เฉินจื๋อข่าย ฉันมีเงื่อนไขสองข้อ! ข้อแรก ไม่ว่าคุณจะทำยังไงก็ต้องช่วยฉางหมิ่นออกมาให้ได้ ไม่งั้นฉันจะลงโทษคุณ ข้อสอง รีบจับตัวบอดี้การ์ดของฉางหมิ่นทันที ทำตามกฎของตระกูล หักแขนขาของพวกเขาและส่งพวกเขากลับมารับโทษที่ตระกูลเย่!”