ดูเหมือนอู๋ตงไห่ยังหงุดหงิดอยู่ กัดฟันและด่าทันที:”แม่งเอ๊ย ทีวีในคฤหาสน์ของฉันก็โดนพวกคุณแอบนำไปขาย ยังมีหน้ามาบอกว่าตระกูลของพวกคุณมีหน้ามีตาทางสังคมอีก? ถ้ามีหน้ามีตาทางสังคมทำไมพวกคุณต้องไปบ้านของเย่เฉินและขโมยดอกแดฟโฟดิลมาห่อเกี๊ยวกินด้วย? ไปตลาดเพื่อซื้อกุยช่ายซักหนึ่งกิโลกรัมมันจะเสียตังค์ซักเท่าไหร่เชียว?! แม่งโง่กันทั้งตระกูล พูดว่าพวกคุณเป็นตระกูลยากจนและเลว ยังถือว่าไว้หน้าพวกคุณแล้ว!”
เซียวฉางเฉียนกับเซียวไห่หลงพูดไม่ออกทันที
เรื่องที่อู๋ตงไห่พูดนั้นเป็นเรื่องจริง หลังจากที่ตระกูลเซียวตกอับ พวกเขาได้ทำหลายเรื่องที่ไม่มีศีลธรรม เรื่องเลว และทำเรื่องไร้สาระ ถ้าเอาเรื่องที่พวกเขาเคยทำออกมาพูดทีละเรื่องๆ คงทำให้บรรพบุรุษของตระกูลเซียวขายขี้หน้ามากๆ
เย่ฉางหมิ่นมีความคิดที่อยากตายจริงๆ
ทั้งๆที่เธอเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองและฐานะของเย่เฉินให้อู๋ตงไห่ได้รับรู้ ทำไมพูดไปพูดมา เปลี่ยนเป็นอู๋ตงไห่ด่าผู้ชายสองคนนั้นจนไม่เหลือชิ้นดี?
ดังนั้นเธอก็เลยมองไปที่อู๋ตงไห่ พูดด้วยท่าทางเคารพ:”พี่ใหญ่ เรื่องที่ฉันพูดมันเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ฉันสาบานก็ได้ ได้โปรดเห็นแก่หน้าของตระกูลเย่ ปล่อยฉันไปเถอะ!”
…
ในเวลานี้
เย่เฉินกำลังนั่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ของเฉินจื๋อข่ายและบินไปยังเขตชานเมือง
วิธีการลักพาตัวของเซียวฉางเฉียนกับเซียวไห่หลงไม่ค่อยฉลาดมากนัก การค้นหาเบาะแสของพวกเขา สำหรับเฉินจื๋อข่ายและลูกน้องของเขานั้น มันไม่ใช่เรื่องยากเลย
ในเวลาไม่ช้า พวกเขาก็ได้เบาะแสจากกล้องวงจรปิดและทราบรถตู้ที่ก่อเหตุ จากนั้นก็ใช้กล้องวงจรปิดของตำรวจจราจร และทราบเส้นทางที่พวกเขาหลบหนี้หลังจากก่อเหตุอาชญากรรม
หลังจากทราบว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในโกดังร้างในเขตชานเมือง เฉินจื๋อข่ายได้สั่งการให้ลูกน้องจำนวนมากมารวมตัวทันที เพื่อเตรียมพร้อมกำลังออกไปช่วยเหลือ
เย่เฉินก็ไปกับพวกเขา
ขณะที่เฮลิคอปเตอร์กำลังบินอยู่ เย่เฉินที่นั่งอยู่ในห้องผู้โดยสารมีสีหน้าที่ดูเศร้า
เมื่อเฉินจื๋อข่ายที่อยู่ข้างๆเห็นเขาเป็นเช่นนี้ ก็รีบพูดปลอบใจทันที:”คุณชาย พวกเราใช้เวลาเดินทางไม่กี่นาที แม่ยายและอาหญิงของคุณไม่น่าจะมีอันตรายถึงชีวิต”
เย่เฉินลูบจมูกของตัวเองและถอนหายใจ:”เซียวฉางเฉียนกับเซียวไห่หลงคงทำงานให้กับอู๋ตงไห่ ฉันอาจจะเดาออกว่าพวกเขาจะทำอะไรกับหม่าหลัน พวกเขาอาจจะทำร้ายหม่าหลันอย่างเหี้ยมโหด จากนั้นก็หาสถานที่ที่คล้ายกับเหมืองถ่านหินดำและส่งตัวเธอไปใช้แรงงาน ดังนั้นฉันไม่ได้กังวลว่าพวกเขาจะฆ่าหม่าหลันเลย”
เฉินจื๋อข่ายพยักหน้าและพูด:”อาหญิงของคุณเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเย่ ถ้าอู๋ตงไห่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ และอาหญิงของคุณเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา เขาคงไม่กล้าทำอะไรเธอแน่นอน ดังนั้นอาหญิงของคุณไม่น่าจะมีอันตรายถึงชีวิต”
เย่เฉินจุ๊ปากและพูด:”เรื่องที่ฉันกังวลที่สุดคืออาหญิงของฉันจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา! ถ้าเธอเปิดเผยตัวตนจริงๆ เธอก็จะเปิดเผยตัวตนของฉันออกมาด้วย ตอนนี้ฉันยังไม่อยากให้ใครรู้ว่าฉันมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเย่แห่งเย่นจิง!”
เฉินจื๋อข่ายรีบถาม:”ถ้าอาหญิงของคุณพูดออกมาแล้ว พวกเราควรจะทำยังไงดี?”
เย่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:”ถ้าเธอพูดออกมาจริงๆ ถึงเวลานั้น ก็ให้เธอได้รับโทษบ้าง!”