บทที่ 1947 นี่คือการลงมืออย่างโหดเหี้ยม

The king of War

หลังจากที่ตู้เค่อล้มลงกับพื้น ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะลุกขึ้น หมัดขวาของเขาเต็มไปด้วยเลือด และพังจนไม่รู้จะพังยังไงแล้ว

“อ๊าก…มือผม…มือของผมหักแล้ว…”

ตู้เค่อคร่ำครวญอย่างทรมาน และเสียงก็ดังก้องไปทั่วเวทีการแข่งขันของสำนักบู๊

กลุ่มนักบูโดในนั้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ เพราะคนที่ยืนอยู่ตรงกลางเวทีในเวลานี้นั้น ก็คือหยางเฉิน ซึ่งดูแล้วยังเด็กมาก ชกหมัดเพียงครั้งเดียว ก็ชกจนตู้เค่อบินออกไปไกล

จินฮุยยืนอยู่ที่เดิม สายตาของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

เขารู้ดีว่า การโจมตีของตู้เค่อนั้นรุนแรงแค่ไหน และไม่มีโอกาสหลบเลี่ยงด้วยซ้ำ แต่เขาคิดไม่ถึงว่า หยางเฉินจะปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน และขัดขวางการโจมตีของ ตู้เค่อไว้

นี่ก็หมายความว่า ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา มีกำลังพอที่จะเอาชนะผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายแล้วหรือ?

“คุณหยาง!”

ในเวลานี้ ตู้จ้งดึงสติกลับมาได้แล้ว และอุทานออกมา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

ตู่ป๋อก็ค่อยๆดึงสติกลับมา มองหยางเฉินด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า“ในที่สุดคุณก็กลับมาที่สำนักบู๊แล้ว ถ้าคุณยังไม่กลับมาอีก สิทธิ์ของคุณก็จะถูกยกเลิกแล้ว”

หยางเฉินมองไปที่ตู้ป๋อด้วยความรู้สึกผิด และพูดว่า”ขอโทษครับ ผมมาสายแล้ว!”

ตู้ป๋อหัวเราะในทันที“มาได้ทันเวลาพอดี!”

หลังจากพูดจบ เขาก็มองไปที่ตู้ชีที่กำลังโกรธอย่างมีความหมาย และพูดด้วยรอยยิ้มว่า“ลุงเจ็ด การเดิมพันระหว่างเรา จบลงแล้วใช่ไหม?”

ตู้ชีไม่ได้ตอบตู้ป๋อ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่หยางเฉิน และมีเจตนาฆ่าที่รุนแรงในดวงตาของเขา

ออร่าบูโดที่น่าสะพรึงกลัวได้แพร่กระจายไปยังหยางเฉิน

ในพริบตา หยางเฉินรู้สึกเหมือนกำลังถูกภูเขากดทับ

หยางเฉินก็ไม่ยอมอ่อนข้อ สบตากับฝ่ายตรงข้าม และไม่ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันของบูโดของอีกฝ่ายเลย

ตู้ชีตะโกนเสียงดัง“ในเมื่อคุณเข้าร่วมสำนักบู๊ งั้นก็ถือว่าเป็นสมาชิกของสำนักบู๊แล้ว ปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมสำนัก คุณกลับลอบโจมตี และยังลงมืออย่างโหดเหี้ยม คุณยอมรับผิดหรือยัง?”

หยางเฉินเยาะเย้ย“ลงโทษ?ผมผิดอะไร?ผมลอบโจมตียังไง?”

ตู้ป๋อพูดอย่างโกรธเคือง“ตู้ชี อย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนะ!เมื่อกี้นี้ ตอนที่ตู้เค่อลงมือกับจินฮุยอย่างโหดเหี้ยม ทำไมคุณถึงไม่ออกมาหยุดเขาล่ะ?ยังจำได้ไหมว่าเมื่อกี้คุณตอบผมอย่างไร?คุณบอกว่า เป็นเพราะตู้เค่อได้เปรียบในแดนบูโด ตามกฎของการแข่งขัน ไม่ก็ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้ หรือไม่ก็ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสู้จนอีกฝ่ายแพ้ จินฮุยไม่แพ้ ดังนั้นตู้เค่อจึงสามารถต่อสู้ต่อไปได้”

“ตอนนี้ คุณหยางแค่โจมตีแบบธรรมดา ก็ทำลายมือของตู้เค่อ นี้ก็ถือเป็นการโจมตีเพื่อนร่วมสำนักอย่างโหดเหี้ยมงั้นหรือ?”

ตู้จ้งก็พูดอย่างโกรธเคือง“ไอ้แก่ แพ้ก็คือแพ้ พูดอะไรเยอะแยะ?นี่คุณจะไม่ยอมรับการเดิมพันของเมื่อกี้หรือ?”

ตู้ชีสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อระงับความโกรธของเขา

มองดูหลานชายคนโตของเขาถูกคนอื่นทำลายมือไปข้างหนึ่ง สำหรับเขา มันเป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่ง

ใบหน้าของตู้เค่อเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่บิดเบี้ยว เขากัดฟันและพูดว่า“คุณปู่ ฆ่าเขาซะ!”

ตอนที่ตู้ชีมองไปที่หยางเฉิน ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างแรงกล้า

เขาปล่อยออร่าความกดดันของบูโดบนร่างกายไปทางหยางเฉิน จินฮุยซึ่งยืนอยู่ข้างๆหยางเฉิน รู้สึกได้ถึงพลังกดดันที่หลงเหลืออยู่ ที่ตู้ชีปลดปล่อยไปทางหยางเฉิน ซึ่งทำให้เขาทนไม่ไหวเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม หยางเฉินยังคงนิ่งราวกับระฆัง เหมือนไม่ได้รับผลกระทบอะไร

“ตู้ชี คุณต้องการทำอะไร?”

ตู้ป๋อรู้สึกถึงเจตนาฆ่าของตู้ชีที่มีต่อหยางเฉิน ก็ตะโกนอย่างโกรธเคือง และลุกขึ้นยืนทันที ออร่าบูโดบนตัวเขา ก็ปลดปล่อยออกมาและมุ่งไปทางตู้ชี

ในขณะนี้ ทั้งสำนักบู๊ เต็มไปด้วยความกดดันของบูโดที่น่าสะพรึงกลัว เพียงแค่ความกดดัน ก็ทำให้นักบูโดจำนวนมากรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลอย่างหาที่เปรียบมิได้ ราวกับวันสิ้นโลก

ในทางกลับกัน ลมหายใจของหยางเฉินมั่นคง คนที่ไม่รู้ อาจคิดว่าเขาเป็นคนธรรมดา

ตู้จ้งก็รู้สึกตื่นตระหนก ตู้ชีเป็นผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นเชียวนะ ถ้าตู้ชีต้องการที่จะโจมตีหยางเฉิน หยางเฉินจะสามารถหลบหนีไปได้หรือ?

“เจ้าหนู แกละเมิดกฎของตระกูลบู๊ และโจมตีเพื่อนร่วมสำนักอย่างโหดเหี้ยม ควรประหารชีวิต!”

ตู้ชีตะโกนเสียงดัง ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน

เท้าของตู้ป๋อขยับ ไปขวางไว้ตรงหน้าหยางเฉินในทันที จ้องไปที่ตู้ชีและกล่าวว่า “คุณคิดว่าผมไม่กล้าสู้กับคุณหรือ?”

ตู้ป๋อและตู้ชีต่างก็เป็นผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น หากพวกเขาเปิดศึกกัน รู้เลยว่ามันจะทำให้เกิดโกลาหลมากขนาดไหน

กลุ่มผู้แข็งแกร่งของสำนักบู๊ ต่างก็ตกตะลึง

ในขณะนี้ หยางเฉินเยาะเย้ยและถามตู้ชี“คุณบอกว่าผมโจมตีไอ้ขยะนั่นอย่างโหดเหี้ยม ผมก็โจมตีมันอย่างโหดเหี้ยมงั้นหรือ?”

ตู้ชีกล่าวอย่างเย็นชา”นี่คือความจริงที่ทุกคนในสำนักบู๊เห็นกับตา ทำไมถึงไม่ใช่ล่ะ?”

“อย่ามาพูดมั่ว!”

ตู้ป๋อคำรามด้วยความโกรธ”หยางเฉินเพียงแค่โจมตีอย่างไม่ตั้งใจ มือของตู้ชีก็ถูกทำลาย ถ้าหยางเฉินต้องการจะฆ่าเขาจริงๆ ตู้ชียังจะรอดถึงตอนนี้เหรอ?”

“ตู้ชี คุณอย่ามาใช้ความอาวุโสของคุณ มาใส่ร้ายหยางเฉิน อย่าลืมสิว่า ผม ตู้ป๋อต่างหากที่เป็นเจ้าสำนักของสำนักบู๊!”

ตู้ชีพูดอย่างโกรธเคือง“แม้ว่าคุณจะเป็นเจ้าสำนัก แล้วไงล่ะ?ผมเป็นถึงลุงเจ็ดของคุณเชียวนะ!และยังอาวุโสที่สุดในสำนักบู๊ คุณจะลงมือกับผมเพราะคนนอกงั้นหรือ?”

ตู้ป๋อจ้องไปที่อีกฝ่ายโดยไม่ละสายตา กัดฟันแล้วพูดว่า”หยางเฉินไม่ใช่คนนอก เขาเข้าร่วมสำนักบู๊แล้ว เช่นนี้ เขาเป็นสมาชิกของสำนักบู๊ของผมแล้ว ถ้าคุณอยากรังแกผู้น้อย อย่าโทษผมที่หยาบคายกับคุณแล้วกัน”

ตู้ชีจ้องมองอย่างโกรธจัดและตะโกนว่า“คุณต้องการลงมือกับผมงั้นหรือ?”

ตู้ป๋อพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ถ้าคุณจะลงมือกับหยางเฉิน ผมก็จะลงมือ!ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ลองดู!”

ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครยอมใคร

ทั้งคู่เป็นผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น หากพวกเขาเริ่มต่อสู้กัน สำหรับสำนักบู๊ มันไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน

หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับสำนักบู๊

ขณะที่ทุกคนให้ความสนใจกับตู้ป๋อและตู้ชี หยางเฉินก็พูดขึ้นทันทีว่า“ในเมื่อคุณบอกว่าผมลงมืออย่างโหดเหี้ยมกับไอ้ขยะนั่น ก็ถือว่าใช่แล้วกัน!”

ทันทีที่เสียงนั้นลดลง เขาก็ขยับตัวทันที

“คุณกล้าเหรอ!”

สีหน้าของตู้ชีเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาคำรามและกำลังจะพุ่งเข้าไป

แต่ว่า ทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว

ตอนที่เขากำลังจะพุ่งเข้าไป หยางเฉินก็ปรากฏตัวต่อหน้าตู้เค่อ และเท้าข้างหนึ่งเหยียบไปที่หน้าอกของตู้เค่อแล้ว

“งั้นผมจะแสดงให้เห็นว่า อะไรคือความโหดเหี้ยม!”

หยางเฉินพูดอย่างเฉยเมย

“ซ่า!”

เมื่อเสียงของเขาลดลง กระดูกแตกหักก็ดังขึ้น

เห็นเพียงตำแหน่งหน้าอกของตู้เค่อที่เพิ่งโดนหยางเฉินเหยียบ ก็จมลึกลงไป

ดวงตาของตู้เค่อเบิกกว้างขึ้นทันที ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสยดสยอง และสีหน้าท่าทางแบบนี้ ก็หยุดไว้ในวินาทีสุดท้ายของชีวิต

ตู้เค่อ ตายแล้ว!

ตายตาไม่หลับ!