บทที่ 1961 พลังของปืนเทพบู๊
คำพูดของเหรินจิงหลุนทำให้ทุกคนตกใจ
ถ้าสำนักพิษและคามิ โคโซร่วมมือกัน ก็เป็นไปได้จริงๆ ที่จะทำลายสำนักบูโด แน่นอนว่า สำนักบูโดเป็นหนึ่งในห้ากองกำลังหลักใน ภูเขามาร เมื่อสำนักพิษและคามิ โคโซจะทำลายจริงๆ พวกเขาจะต้องจ่ายค่าตอบแทนมหาศาล
ใบหน้าของตู้ป๋อมืดมนสุดขีด เขาไม่ได้พูดอะไรสักคำและจ้องที่เหรินจิงหลุนอย่างเย็นชา
เหรินจิงหลุนมองดูตู้ป๋ออีกครั้งและถามด้วยรอยยิ้มว่า “ประมุขตู้ ตอนนี้ คุณจะบอกข้อตกลงระหว่างคุณกับลี่เฉินได้หรือยัง?”
“ฮึ่ม!”
ตู้ป๋อพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าประมุขเหรินคิดว่าฉันเป็นไก่อ่อน คิดจะบีบก็ตาย ก็ลองลงมือดู!”
คำพูดจบลง ออร่าบู๊ที่แข็งแกร่งก็ออกมาจากร่างของตู้ป๋อ
เหรินจิงหลุนหุบยิ้มบนใบหน้าและมีความเคร่งขรึมมากขึ้น
ออร่าบู๊ของตู้ป๋อนั้นใกล้เคียงกับจุดเริ่มต้นของกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น หากต้องต่อสู้กันจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าใครจะชนะหรือแพ้
กุญแจสำคัญคือทั้งเขาและตู้ป๋อต่างเป็นผู้แข็งแกร่งห้าอันดับแรกในภูเขามาร หากพวกเขาพ่ายแพ้ หากคนอื่นๆ คิดจะหาเรื่องพวกนี้ ตอนนั้นใครก็รับผลที่ตามมาไม่ไหว
ยกตัวอย่างเช่น อิงเทียนสิงที่จะโจมตีพวกเขาอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ตู้ป๋อได้แสดงถึงจิตวิญญาณการต่อสู้อันแข็งแกร่งออกมา ถ้าเขาไม่สู้ คนจะไม่คิดว่าเขากลัวเหรอ?
ชั่วครู่เหรินจิงหลุนรู้สึกเหมือนเขาไม่สามารถลงจากหลังเสือได้
ในขณะนั้นเอง อิงเทียนสิงก็พูดขึ้นว่า “ตู้ป๋อ ในเมื่อนายแข็งแกร่งมาก งั้นฉันกับประมุขเหรินร่วมสุ้กับนายเป็นไง? กล้าไหม?”
แน่นอน เขารู้ดีถึงความกังวลของเหรินจิงหลุนถ้าเขาและเหรินจิงหลุนร่วมมือกัน พวกเขาไม่เพียงจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังอาจฆ่าตู้ป๋อได้ด้วย
“อิงเทียนสิง นายนับวันช่างไร้ยางอายมากขึ้นเรื่อยๆ”
ในขณะนี้เอง มารแดงก็ก้าวไปข้างหน้าและจ้องไปที่อิงเทียนสิงอย่างเย็นชา ก่อนจะเอ่ยขึ้น
ออร่าบู๊กึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นออกจากร่างของเขา
ไม่เพียงแต่มารแดงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแม่ทัพมารอีกสามคนของสำนักมารด้วยที่ออกมาพร้อมกับมารแดงด้วย สี่ยอดขุนพลมารเองก็ได้ปลดปล่อยออร่าบู๊ของพวกเขาในเวลาเดียวกัน
ชั่วครู่ สำนักมารทั้งหมดก็ถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายของกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นมากมาย
เหรินจิงหลุนมีสีหน้าน่าเกลียด เขาแทบจะอยากจัดการกับอิงเทียนสิงในตอนนี้ ไอ้โง่นี่ เขาก็แค่พูดเล่นๆ เท่านั้น แต่นายกลับตั้งใจจะมาร่วมมือกับฉันในการจัดการกับตู้ป๋อ ตอนนี้เป็นไง สำนักมารก็เข้าร่วมกับด้วยแล้ว
หากต้องต่อสู้จริงๆสี่ยอดขุนพลมารของสำนักมารจะร่วมมือกันเพื่อสู้กับเหรินจิงหลุนและ อิงเทียนสิง ไม่ต้องพูดถึงตู้ป๋อ และลี่เฉินที่ยังไม่ปรากฏตัว
อิงเทียนสิงตะโกน “เจ้าสำนักมารคิดจริงๆ หรือว่าพวกเราคามิ โคโซและสำนักพิษไม่มีน้ำยา? ถ้าต้องต่อสู้กันจริงๆ ให้เราเรียก กึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นของเรามาด้วยไหมล่ะ?”
“ตามใจ!”
มารแดงเอ่ยอย่างก้าวร้าว จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาพลุ่งพล่านออกมา ราวกับไม่กังวลว่าอิงเทียนสิงจะเรียกผู้แข็งแกร่งชั้นยอดของคามิ โคโซมาจริงๆ
หากพวกเขาไปสู้รบกันที่อื่น มารแดงอาจมีความกังวลอยู่บ้าง แต่นี่คือสำนักมารดังนั้นเขาจึงไม่กลัวเลยสักนิด
คนอื่นอาจไม่รู้ แต่เขารู้ดีว่าลี่เฉินนั้นก้าวเข้าสู่แดนดภาไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้ ในห้องสมุดชั้นใต้ดินมีคนอื่นที่กำลังจะบรรลุภัยพิบัติสวรรค์ต่างหาก
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่เขารู้ว่าถ้าคนผู้นั้นสามารถให้ลี่เฉินพาไปที่ห้องสมุดชั้นใต้ดินเพื่อฝึกฝนได้ อีกฝ่ายจะต้องไม่ใช่ศัตรูแน่
กล่าวคือ ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งบรรลุสู่แดนนภาได้ สำนักมารก็จะมีผู้แข็งแกร่งแดนนภาปรากฏตัวพร้อมกัน
แม้ว่าผู้แข็งแกร่งในแดนนภาจะไม่สามารถอยู่ในโลกฆราวาสได้ แต่ก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ลี่เฉินจะสังหารผู้แข็งแกร่งในต่ำกว่าแดนนภาก่อนที่พันธมิตรพิทักษ์จะมาถึง
แน่นอนว่าลี่เฉินจะต้องชดใช้สำหรับเรื่องนี้ แต่พันธมิตรพิทักษ์จะไม่มีวันฆ่า ลี่เฉิน
ในสายตาของพันธมิตรพิทักษ์ พวกที่อยู่ต่ำกว่าแดนนภาก็คือมดปลวก และเพื่อมดปลวกตัวหนึ่ง ถึงกับต้องฆ่าผู้แข็งแกร่งแดนนภาไม่ใช่เรื่องฉลาด
ผู้แข็งแกร่งที่สามารถบรรลุสู่แดนนภาได้ภายใต้สถานที่ที่ชี่ทิพย์ในโลกฆราวาสหายากแบบนี้ ถือเป็นบุคคลชั้นยอด และมีพรสวรรค์ด้านบูโดที่ยอดเยี่ยม พันธมิตรพิทักษ์เองก็ไม่อยากทำให้พวกเขาขุ่นเคืองใจ
ไม่เพียงแค่สี่ยอดขุนพลมารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ของสำนักมารที่อยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ทั้งหมดได้ปลดปล่อยออร่าบู๊ของตนเองออกมา ตอนนี้พวกเขาเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้
ตู้ป๋อถอนหายใจ แค่จุดนี้ของสำนักมาร กองกำลังอื่นๆ ก็ไม่สามารถเทียบได้แล้ว เมื่อสำนักมารตกอยู่ในอันตราย จะไม่มีใครมามัวกลัวตาย ทุกคนล้วนมีส่วนร่วมในการต่อสู้ แม้ว่าจะอ่อนแอแต่พวกเขาจะต่อสู้จนตาย
อิงเทียนสิงก็อึ้งไปเช่นกัน เขาไม่ได้คาดคิดว่าผู้คนในสำนักมารจะชอบต่อสู้ขนาดนี้ แต่เดิมเป็นเขากำลังคุกคามสำนักมารและสำนักบูโด ตอนนี้กลับเป็นเขาถูกสำนักมารคุกคามแทนแล้ว
เหรินจิงหลุนยังมองไปที่อิงเทียนสิงและเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ในเมื่อประมุุขอิงต้องการต่อสู้ อย่างนั้นก็เรียกผู้แข็งแกร่งของคามิ โคโซมาเถอะ ฉันจะรอดู”
อิงเทียนสิงเก็บความโกรธในใจเอาไว้และไม่สนใจเหรินจิงหลุนเขาจ้องไปที่ตู้ป๋อและพูดว่า “ตู้ป๋อ นี่ล้วนเป็นแผนของนายทั้งหมด นายจงใจยั่วยุให้เกิดความเกลียดชังระหว่างพวกเรากับสำนักมาร จากนั้นสำนักบูโดก็จะได้ประโยชน์จากมัน ฉันไม่ยอมโดนหลอก”
“ฮึ่ม!”
ตู้ป๋อแค่นเสียงอย่างเย็นชา เขาจ้องไปที่อิงเทียนสิงและพูดว่า “อิงเทียนสิง ไม่มีใครเป็นคนโง่ ฉันไม่มีแผนอะไร คนของสำนักมารก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน”
“นายเป็นฝ่ายพูดออกมาว่าอยากสู้ไม่ใช่หรือไง? ฉันเองก็ไม่อยากทำให้คุณลำบากใจ นายไม่ต้องเรียกคนมาสู้กันก็ได้ พวกเราสู้กันเอง กล้าไหม?”
คำพูดจบลง ตัวของตู้ป๋อก็มีออร่าบู๊แผ่ออกมามากขึ้น
เขายังถือปืนเทพบู๊ไว้ในมืออย่างแน่นหนา นี่เป็นของอาถรรพ์ชั้นสูง กลิ่นอายของตู้ป๋อจึงมีพลังและน่ากลัว
ใบหน้าของอิงเทียนสิงน่าเกลียดอย่างยิ่ง หากต่อสู้กับตู้ป๋อซึ่งมีอาวุธวิเศษ เขาก็มีแพ้เท่านั้น
คามิ โคโซยังมีของอาถรรพ์ของสำนักอยู่เช่นกัน แต่เขาไม่ได้พกติดตัวไปไหนมาไหนด้วย
หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน อิงเทียนสิงก็พูดอย่างโกรธเคืองว่า “ฉันไม่ต้องการที่จะทำตามคำแนะนำของนาย!”
พูดจบ เขาก็ไม่มองตู้ป๋ออีก
อย่างไรก็ตาม ตู้ป๋อกลับไม่คิดจะปล่อยอิงเทียนสิงไป
“ปัง!”
เมื่อเสียงดังขึ้น พื้นดินใต้เท้าของตู้ป๋อก็ระเบิดออก ร่างของเขาพุ่งไปหาอิงเทียนสิงราวกับสายฟ้าพร้อมอาวุธวิเศษในมือ
อิงเทียนสิงไม่เคยคิดเลยว่าตู้ป๋อจะลงมือจริงๆ
“กินลูกปืนของฉันไปก่อน!”
ตู้ป๋อตะโกน ปืนเทพบู๊ในมือของเขายิงเข้าใส่อิงเทียนสิงโดยตรง ปืนเทพบู๊ปรากฏตัวเป็นภาพนิมิตอยู่ในอากาศ ราวกับว่ามีมันอยู่นับไม่ถ้วน และโจมตีอิงเทียนสิงในเวลาเดียวกัน
อิงเทียนสิงตื่นตระหนกและไม่กล้าเผชิญหน้าโดยตรง นอกเสียจากเขาอยากจะตาย
ทันใดนั้นเขาก็ขยับเท้าและออกจากสถานที่นั้นในทันที
“ปัง!”
ตอนที่เขาจากไป พื้นที่ที่เขาอยู่ก็ยังถูกยิงโดยตรงจากปืนเทพบู๊ด้วยอาวุธหลายสิบชิ้น จนพื้นดินก็เต็มไปด้วยรู
สามารถจินตนาการได้ว่าหากการโจมตีเกิดขึ้นกับตัวอิงเทียนสิง ความเสียหายแบบไหนที่อิงเทียนสิงจะได้รับ?
เหรินจิงหลุนมองดูปืนเทพบู๊ในมือของตู้ป๋อด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ของอาถรรพ์ระดับสูงนี้แข็งแกร่งเกินไป ตู้ป๋อมีปืนนี้ เขาอยู่ยงคงกระพันไร้ศัตรู!