บทที่ 1978 ไม่ใช่หยางเฉิน

The king of War

The king of War บทที่ 1978 ไม่ใช่หยางเฉิน
หลังจากฆ่าเหรินจิงหลุน สายตาของหยางเฉิน ย้ายมาตรงอิงเทียนสิงที่คุกเข่าอยู่บนพื้น และยังมองเขาด้วยสีหน้าตกใจกลัวเต็มที่

เห็นหยางเฉินมองทางตนเองแล้ว อิงเทียนสิงสั่นเทาทั้งตัวรุนแรงยิ่งกว่าเดิม

“ตุบๆๆ!”

อิงเทียนสิงโขกศีรษะลงบนพื้นไม่หยุด ไม่นานบนหน้าผากเกิดแผลเหวอะหวะเลือดอาบ เขาโขลกศีรษะไปพลาง อ้อนวอนไปพลาง “คุณหยางครับ ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ ท่านกรุณาปล่อยผมสักครั้งเถอะครับ ต่อไปผมจะเป็นคนรับใช้ให้ท่าน เป็นหมาที่จงรักภักดีข้างกายท่าน ท่านให้ผมกัดใคร ผมก็จะไปกัดคนนั้นครับ ไม่ทรยศเด็ดขาด ขอเพียงท่านไว้ชีวิตผมสักครั้งนะครับ”

เหรินจิงหลุนกับเขาเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเดียวกัน ยังโดนหยางเฉินหักคอทิ้งจากระยะไกล ไม่ใช่ว่า หยางเฉินอยากจะฆ่าเขา บทสรุปของเขาคงจะเหมือนกับเหรินจิงหลุน แม้กระทั่งหยางเฉินไม่ต้องมาสัมผัสร่างกายของเขาด้วยซ้ำ เพียงแค่จากระยะไกลเท่านั้น ก็สามารถฆ่าเขาได้แล้ว

หยางเฉินเผยรอยยิ้มอันชั่วร้ายออกมา จ้องอิงเทียนสิงอย่างหยอกเย้าแล้วพูดว่า “ได้สิ ในเมื่ออยากเป็นหมาของฉัน งั้นฉันจะพิจารณาแกดูหน่อย แกไม่ใช่บอกว่า ฉันให้แกกัดใคร แกก็กัดคนนั้นเหรอ? งั้นตอนนี้แกไปกัดไอ้แก่ตายยากที่มาจากโลกบู๊โบราณคนนั้นให้ฉันสักทีสิ”

พูดอยู่ เขายื่นมือชี้ไปทางของเจียงหยวนหลง

“อวดดี!”

ชั่วขณะนั้นเจียงหยวนหลงเดือดดาล ถึงแม้อยู่ที่โลกบู๊โบราณ ยังไม่เคยถูกเหยียดหยามเช่นนี้มาก่อนเลย ตอนนี้กลับถูกคนรุ่นลูกหลานคนหนึ่งเหยียดหยามอยู่ที่โลกทั่วไป

ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นล้วนตกใจค้างหมด นี่คือหยางเฉินบ้าไปแล้วเหรอ? คาดไม่ถึงกล้าดูหมิ่นเจียงหยวนหลงแบบนี้ ต่อให้เขาฝ่าฟันภัยพิบัติสวรรค์ผ่านมาแล้ว ก็เป็นเพียงผู้แข็งแกร่งที่เพิ่งเข้าสู่แดนนภา ส่วนเจียงหยวนหลง เป็นถึงผู้แข็งแกร่งแดนนภาที่มาจากโลกบู๊โบราณ

แม้แต่ลี่เฉิน อยู่ในมือของเจียงหยวนหลง ยังเอาเปรียบอะไรไม่ได้สักนิด

หยางเฉินมองเจียงหยวนหลงอย่างดูถูกแวบหนึ่ง ขี้เกียจสนใจ จ้องอิงเทียนสิงที่ท่าทางหมดหวังเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มแล้วพูดว่า “ดูแล้ว ที่แกพูดมาเมื่อกี้ล้วนโกหกฉันทั้งนั้น เดิมทีไม่เคยคิดจะเป็นหมาของฉัน แม้แต่ให้แกไปกัดไอ้แก่ตายยากคนนั้นทีหนึ่ง แกยังทำไม่ได้เลย ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันไว้ชีวิตหมาอย่างแกไว้ ยังจะมีประโยชน์อะไร?”

ทันใดนั้น ลักษณะพลังอันรุนแรงส่วนหนึ่ง กดดันไปยังอิงเทียนสิง

อิงเทียนสิงรู้สึกเพียงว่าร่างกายตนเองอยู่ในทะเลมาร ลมหายใจโดนจำกัดไว้หมด บนใบหน้า เต็มไปด้วยแววความหวาดกลัว

อิงเทียนสิงอ้อนวอนไม่ขาดสาย “คุณหยางครับ ขอร้องท่านปล่อยไว้ชีวิตผมด้วยครับ! ไม่ใช่ผมไม่ยินยอมกัดใครให้ท่าน แต่ว่าเดิมทีผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา กลัวว่ายังไม่ได้เข้าใกล้เขา ก็โดนเขาฆ่าเสียแล้ว ขอร้องท่านเห็นแก่ที่พวกเราเป็นคนบนโลกเดียวกัน ไว้ชีวิตหมาตัวหนึ่งอย่างผมเถอะครับ!”

“ฆ่า!”

หยางเฉินตะโกนอย่างโมโห ขณะเดียวกัน พื้นที่ผืนนั้นที่อิงเทียนสิงอยู่ ถูกอานุภาพมารสูงสุดกดทับลงมา

“ปัง!”

อิงเทียนสิงไม่มีทางแบกรับอานุภาพอันนี้ได้ ร่างกายล้มลงบนพื้นอย่างแรงทันที

เขากระอักเลือดออกมา นอนหมอบที่พื้น พยายามดิ้นรนไม่หยุด กลับไม่มีแรงมากพอ ได้เพียงแบกรับอานุภาพที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ไว้ เหมือนอยากกดร่างกายของเขาจนระเบิดไป

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

เจียงหยวนหลงเห็นสถานการณ์ ตวาดขึ้นทีหนึ่ง

เขาไม่สนใจความเป็นความตายของอิงเทียนสิง แต่ถ้าอิงเทียนสิงเป็นเหมือนกับเหรินจิงหลุน ตายอยู่ในมือของหยางเฉิน สำหรับเขานั้น จะเป็นความอัปยศอันใหญ่หลวงมาก

ก่อนหน้านี้ เขาได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่า รอหลังจากอิงเทียนสิงกับเหรินจิงหลุนเข้าสู่แดนนภา จะอนุญาตให้พวกเขากลายเป็นผู้ปรนนิบัติของตระกูลเจียง ปัจจุบันนี้ เหรินจิงหลุนโดนหยางเฉินฆ่าตายแล้ว

ถ้าอิงเทียนสิงก็โดนหยางเฉินฆ่าไปอีกคน ต่อไปยังสัญญากับคนอื่นได้อย่างไรอีก

หยางเฉินมองทางเจียงหยวนหลงด้วยดวงตาสีแดงเลือด พูดแบบน้ำเสียงเย็นชา “แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? ถึงมีสิทธิ์มาสั่งให้ฉันหยุด? ฉันอยากฆ่าเขา ใครจะขวางฉันได้?”

บนหน้าเจียงหยวนหลงเต็มไปด้วยความโกรธแค้นอันบิดเบี้ยว เขาฝืนกลั้นความโกรธไว้ จ้องหยางเฉินไม่กะพริบตาแล้วพูดว่า “ไอ้หนุ่ม คนเรามันต้องรู้จักให้อภัยคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิงเทียนสิงเป็นคนของโลกทั่วไป ฝึกฝนมาทั้งชีวิตไม่ง่ายเลย แกเห็นแก่หน้าตระกูลเจียงของฉันเถอะนะ ปล่อยเขาไปสักครั้ง แล้วตระกูลเจียงจะตอบแทนแกอย่างงามแน่”

ทุกคนล้วนทำหน้าตกใจ เจียงหยวนหลงเพื่อช่วยชีวิตอิงเทียนสิง แม้กระทั่งยอมสัญญาว่าจะตอบแทนหยางเฉินอย่างงามด้วย

หยางเฉินหัวเราะแบบดูถูก จากนั้นมองทางอิงเทียนสิงพลางพูดว่า “ตั้งแต่แกเริ่มมีความคิดอยากทำลายภัยพิบัติสวรรค์ของฉัน ก็กำหนดความตายของแกไว้แล้ว!”

“ตึง!”

หลังเสียงพูดของหยางเฉินสิ้นสุดลง เสียงกระแทกอันหนักอึ้งดังขึ้นทีหนึ่ง

ภายในความตื่นตกใจของทุกคน ร่างกายของอิงเทียนสิงลอยขึ้นห่างจากพื้นในทันใด จากนั้นร่วงลงพื้นแบบหนักอึ้งทันใดอีกที

เห็นเพียงอิงเทียนสิงกระอักเลือดสีดำออกมา นอนหมอบบนพื้น ตายตาไม่หลับ สภาพการตายอนาถอย่างยิ่ง

ผู้แข็งแกร่งทุกคน ล้วนตกตะลึงพรึงเพริดกันหมด

ยังคงเป็นการฆ่าคนแบบจากระยะไกลอีกด้วย นี่มันคือลูกไม้อะไร?

“เขตแดนแรงโน้มถ่วง!”

ลี่เฉินพูดเสียงต่ำ

พลังที่หยางเฉินบังคับใช้บนตัวอิงเทียนสิงเมื่อสักครู่ คือเขตแดนแรงโน้มถ่วงแรงโน้มถ่วงของพื้นที่ผืนนั้น ทั้งหมดควบคุมโดยหยางเฉิน

รวมทั้งเหรินจิงหลุนที่โดนฆ่าก่อนหน้านี้ ก็ถูกหยางเฉินบังคับใช้เขตแดนแรงโน้มถ่วงจากนั้นฆ่าทิ้งในชั่วพริบตา

ที่เกิดเหตุเงียบงันลงครู่หนึ่ง

สองคนในบรรดาผู้แข็งแกร่งชั้นยอดทั้งห้าแห่งภูเขามาร เวลานี้กลายเป็นศพไปแล้ว

ลี่เฉินขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างลึกล้ำ บนใบหน้าเต็มไปด้วยแววความกังวล

“ตอนที่เพิ่งออกจากการฝ่าฟันภัยพิบัติ หยางเฉินมีเรื่องผิดปกติหรือเปล่า?”

ทันใดนั้นลี่เฉินมองทางหม่าชาวที่ข้างกายแล้วถามขึ้น

หม่าชาวมึนงงครู่หนึ่ง จากนั้นบอกว่า “ตอนที่ภัยพิบัติสวรรค์เพิ่งหายไป การแสดงออกบนหน้าของพี่เฉินดูดุร้ายมากขึ้นกะทันหันครับ จากนั้นตะโกนให้ไสหัวไป แล้วจากนั้น ก็เดินออกมาจากหอเก็บหนังสือแล้วครับ”

พอได้ยิน สีหน้าลี่เฉินยิ่งดูแย่กว่าเดิม

หม่าชาวก็สำนึกถึงอะไรได้เช่นกัน ถามด้วยหน้าตากังวล “อาจารย์ครับ การฝ่าฟันภัยพิบัติของพี่เฉิน คงไม่เกิดปัญหาอะไรมั้งครับ?”

ลี่เฉินพูดด้วยเสียงต่ำ “มีความเป็นไปได้มากว่า เขาถูกผู้อาวุโสท่านนั้นของสำนักมารเข้าสิงแล้ว”

“อะไรนะ?”

สีหน้าหม่าชาวเปลี่ยนไปมาก ท่าทางตื่นตกใจ

เขามองทางหยางเฉินอีกทันที เห็นเพียงรอยยิ้มที่ชั่วร้ายของหยางเฉิน การแสดงออกบนหน้ายังมีแววความอึมครึมโหดร้ายระดับหนึ่ง

เทียบกับนิสัยโดยแท้ของหยางเฉินแล้ว ไม่เหมือนกันเลยสักนิด

ประเด็นสำคัญคือ ระหว่างคิ้วของหยางเฉิน ยังปรากฏสัญลักษณ์สีเลือดอันแปลกประหลาดอันหนึ่งขึ้นมาอีก หม่าชาวที่เข้าสู่สำนักมารแล้ว ย่อมรู้ดีถึง ความหมายของสัญลักษณ์อันนี้

อยู่ภายในหอเก็บหนังสือของสำนักมาร จะมีรูปปั้นอันหนึ่ง ซึ่งถูกเรียกว่ารูปปั้นเทพมาร

ส่วนระหว่างคิ้วของรูปปั้นเทพมาร ก็มีสัญลักษณ์สีเลือดที่เหมือนกันกับหยางเฉินเลย

นอกจากนั้นแล้ว ยังมีบนคอของหยางเฉิน ล้วนเป็นลวดลายสีเลือดอันน่าประหลาด เหมือนเป็นใยแมงมุม

ซึ่งที่บนรูปปั้นเทพมาร ก็มีลวดลายสีเลือดแบบนี้เช่นกัน

หยางเฉินในเวลานี้ นอกจากลักษณะหน้า ทุกอย่างที่เหลือ ล้วนเหมือนกันกับรูปปั้นเทพมารทั้งสิ้น

“สรุปแกเป็นใครกันแน่?”

ในเวลานี้เอง เจียงหยวนหลงมองความผิดปกติของหยางเฉินออกแล้ว จ้องหยางเฉินแบบสายตาไม่กะพริบแล้วพูดว่า “ให้เวลาแกสิบวินาที ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ!”

หยางเฉินหัวเราะอย่างดูถูก พูดจาเสียงเย็นชา “ลูกหลานตระกูลเจียงของโลกบู๊โบราณ ตอนนี้กำเริบเสิบสานกันแบบนี้เลยเหรอ? ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันจะตั้งใจสั่งสอนให้ดีแทนเจียงอู้ต้าวสักหน่อย”

พอพูดจบลง ร่างกายของหยางเฉินหายไปจากที่เดิม

สีหน้าเจียงหยวนหลงเปลี่ยนไปมาก รีบลงมือปกป้องตัวทันที

“ปึง!”

ซัดหมัดหนึ่งลงมาอย่างหนัก ร่างกายของเจียงหยวนหลงถอยหลังไปสิบกว่าก้าวโดยตรง