เมื่อเห็นว่าเซียวฉางควนหนีไปแล้ว ก็ทำให้นายหญิงใหญ่เซียวโมโหแทบบ้า
ในใจของเธอตะโกนร้องอย่างเศร้าเสียใจ:“มีลูกชายแบบนี้ที่ไหนกัน!แม่แท้ๆของตนถูกคนอื่นตบก็ไม่สนใจ?นี่ยังเป็นคนอยู่ไหม?แม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็สู้ไม่ได้!”
แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ ผู้หญิงที่อยู่ตรงข้ามเธอ ในเวลานี้กลัวจนหัวหดแล้ว
หล่อนไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเซียวฉางควนกับนายหญิงใหญ่เซียวนั้นระหองระแหง เพียงแต่หล่อนฟังออกว่าเขาทั้งสองเป็นแม่ลูกกัน
ในใจของหล่อนตื่นตระหนกอย่างมากและกำลังคิดว่า:“ยายแก่คนนี้กับผู้ชายคนนั้นเป็นแม่ลูกกันแท้ๆ แต่ทำไมถึงอาศัยอยู่คนละคฤหาสน์ล่ะ อีกทั้งยังซื้อคฤหาสน์ที่ดีที่สุดทั้งสองหลังติดกัน หลังที่หนึ่งเลขที่A04 อีกหลังหนึ่งเลขที่A05 พวกเขาเป็นครอบครัวแบบไหนกันแน่?ครอบครัวนี้หาเงินได้เท่าไหร่?มีอำนาจที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังมากขนาดไหน?”
เมื่อคิดถึงจุดนี้ หล่อนก็ยิ่งรู้สึกเสียใจกับการกระทำที่เมื่อสักครู่นี้ทำกับนายหญิงใหญ่
ดังนั้น หล่อนจึงรีบกดเสียงลงต่ำพลางพูดขอโทษ:“นายหญิงใหญ่ ต้องขอโทษจริงๆนะคะ…ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะเป็นผู้อยู่อาศัยของคฤหาสน์ในชุมชนแห่งนี้ …เมื่อสักครู่นี้เป็นความผิดของฉันเอง คุณอย่าได้ถือสาเลยนะคะ…”
นายหญิงใหญ่เซียวด่าด้วยความโกรธว่า:“คุณตบฉันไปทีหนึ่ง จากนั้นพูดขอโทษแค่ประโยคเดียวแล้วเรื่องมันจะจบงั้นเหรอ?”
ผู้หญิงคนนั้นจึงรีบถามขึ้นด้วยความร้อนใจว่า:“แล้วคุณอยากจะให้แก้ไขยังไงคะ…หรือไม่คุณลองพูดมาก็ได้ค่ะว่าฉันต้องทำยังไงถึงจะสามารถลดทอนความโกรธของคุณลงได้?ถ้าอย่างนั้นคุณชกฉันเถอะคะ ไม่ว่าคุณจะชกฉันกี่ครั้ง ฉันก็จะไม่ตอบกลับ!”
นายหญิงใหญ่เซียวกัดฟัน ในเวลานั้นเธอแทบอยากจะพุ่งเข้าไปชกหน้าหล่อนให้เสียโฉม
แต่ว่า เมื่อเธอคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว:“แม้ว่าการที่เธอชกหล่อนจะสามารถคลายความโกรธของเธอลงไปได้บ้าง แต่ว่าก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไรในความเป็นจริง…สู้ให้หล่อนชดใช้ด้วยเงินน่าจะสอดคล้องกับความเป็นจริงมากกว่า!”
เมื่อคิดถึงจุดนี้นายหญิงใหญ่เซียว พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“คุณด่าฉัน แล้วยังตบฉันอีก เรื่องๆนี้คุณก็ควรที่จะชดเชยให้ฉันบ้างถึงจะถูกต้องใช่ไหม?”
ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าอย่างไม่ลังเล:“คุณพูดถูกค่ะ!ฉันยินดีที่จะชดใช้ให้กับคุณ!คุณบอกตัวเลขมาเลย ต้องการเงินเท่าไหร่ ฉันจะชดใช้ให้กับคุณ…”
เดิมทีนายหญิงใหญ่เซียวต้องการเรียกเงิน 1หมื่นหยวน
แต่เมื่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็รู้สึกว่า1หมื่นหยวนไม่ค่อยเหมาะสม
นายหญิงใหญ่เซียวในตอนนี้ไม่เหมือนกับนายหญิงใหญ่ที่ราวกับพระโพธิสัตว์เฒ่าในอดีตอีกแล้ว
นายหญิงใหญ่เซียวในสมัยก่อน ในมือมีเงินจำนวนมาก ไม่ต้องพูดถึง 1 หมื่นหยวน 1ล้านหยวนก็ไม่แน่ว่าจะอยู่ในสายตาของเธอ
แต่ว่านายหญิงใหญ่เซียวในตอนนี้ เพื่อเงิน1ร้อยหยวนกลับต้องไปดึงถุงพลาสติกทั้งวันที่ซุปเปอร์มาเก็ต ดังนั้นเงินจำนวน1หมื่นหยวนสำหรับเธอในตอนนี้ ก็เป็นเงินจำนวนมากแล้ว
ดังนั้นในใจของนายหญิงใหญ่คิดว่า:“ถึงยังไงหล่อนก็แค่ตบเธอหนึ่งที หากเรียกเงิน1หมื่นหยวน ถ้าหล่อนโกรธขึ้นมาแล้วแจ้งความกับตำรวจว่าฉันรีดไถ?ก็คงจะจับฉันเข้าสถานที่คุมขังผู้ต้องสงสัย?”
“สมัยนี้หาเงินไม่ได้ง่ายๆ ยายแก่อย่างฉันทำงานเหนื่อยแทบตายวันหนึ่งหาได้แค่100หยวน ถูกตบทีหนึ่งแต่แลกมาด้วยเงิน100หยวนก็ถือว่าคุ้ม… 100หยวน คงไม่ถูกกล่าวหาว่ารีดไถ่หรอกนะ?”
เมื่อคิดถึงจุดนี้นายหญิงใหญ่เซียวก็พูดขึ้นเสียงแหลมว่า:“ฉันอายุเยอะขนาดนี้แล้ว คุณมาตบฉัน ปัญหาไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่ว่าแต่ไหนแต่ไรมาฉันเป็นคนใจกว้าง คุณชดเชยเงินให้ฉัน 100หยวน เรื่องๆนี้ก็ถือว่าจบกัน!”
“1…1ร้อย?!”นัยน์ตาของผู้หญิงคนนั้นแทบจะถลนออกมาบนพื้น
เดิมทีหล่อนคิดว่า นายหญิงใหญ่คนนี้ในเมื่อพักอาศัยอยู่คฤหาสน์เลขที่A04 คนในครอบครัวคงจะเป็นคนที่มีความสามารถ มีฐานะทางสังคมไม่น้อย วันนี้ตนเองตบหน้า หล่อน ก็ถือตัวหล่อนนั้นก่อเรื่องใหญ่จริงๆ
ดังนั้นหากนายหญิงใหญ่เซียวเรียกเงินเธอ 8หมื่น 1แสนหยวน เธอก็จะรับปากหล่อนอย่างไม่ลังเล จากนั้นใช้วิธีที่รวดเร็วที่สุดโอนเงินเข้าบัญชีหล่อน ไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความขัดแย้งนี้
นึกไม่ถึงเลยว่านายหญิงใหญ่จะเอ่ยปาก เอาแค่1ร้อยหยวน…
เธอดีใจเป็นอย่างมาก รีบพยักหน้าพลางพูดขึ้นว่า:“ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา!ฉันจะให้เงินคุณตอนนี้เลยคะ!”
ขณะที่พูด ก็หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา แล้วหยิบธนบัตร1ร้อยหยวนวางไว้ในมือของนายหญิงใหญ่เซียวพลางชี้ไปที่พนักงานรักษาความปลอดภัยแล้วพูดขึ้นว่า:“นายหญิงใหญ่ พวกเราที่นี่มีพยาน เมื่อสักครู่นี้คุณบอกว่าให้เงินคุณ1ร้อยหยวน เรื่องๆนี้ก็จะจบ ตอนนี้ฉันให้เงินคุณแล้ว ต่อไปในอนาคตคุณก็อย่ามาหาเรื่องฉันก็แล้วกันนะคะ!”
เมื่อนายหญิงใหญ่ไปรับเงินจำนวน 100 หยวน ในใจก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก