เสียงของอาวุโสชื่อหลิงแฝงอันตรายทุกคำ เผยการข่มขู่ที่ไม่ปกปิดสักนิด
เหยี่ยนซิงไม่ได้ตื่นตระหนก กลับยิ้มเย็นชากล่าวว่า “แม้ในแดนวังมังกรแห่งนี้ข้าไม่มีอำนาจห้ามอะไร แต่พวกเจ้าไม่เข้าใจหรอก ว่าเด็กที่มีพรสวรรค์หุบเหวกลืนกินหมายความถึงอะไร หากพวกเจ้าอยากเล่นกับไฟจริงๆ ก็แล้วแต่”
ผู้อาวุโสชื่อหลิงมานั่งลงข้างบ่อมังกรด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ จากนั้นจู่ๆ ก็พูดว่า “พรสวรรค์หุบเหวกลืนกินมีความเกี่ยวข้องกับกฎเกณฑ์เวลาใช่หรือไม่”
ได้ยินเช่นนี้เหยี่ยนซิงอึ้งไปอย่างเห็นได้ชัด
ไม่รอเอ่ยปาก ผู้อาวุโสชื่อหลิงก็ถอนหายใจเบาๆ เหมือนพอใจแล้ว “เป็นเช่นนี้ดังคาด หากเป็นเช่นนี้ เจ้ายิ่งพาเด็กคนนั้นไปไม่ได้”
และตอนนี้อ๋าวฮ่วนไห่ อ๋าวเหิงอวี่ล้วนอึ้งงัน พรสวรรค์ที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ถึงกับเกี่ยวข้องกับกฎเกณฑ์เวลาหรือ
นี่เย้ยฟ้าเกินไปแล้วจริงๆ!
ยามมองรังมังกรสีทองในบ่อมังกรอีกครั้ง แววตาของพวกเขาได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว โดยเฉพาะอ๋าวเหิงอวี่ เปลี่ยนเป็นร้อนระอุอย่างที่สุด
บนร่างเด็กคนนั้นไม่เพียงมีสายเลือดบรรพชนมังกรบริสุทธิ์ ยังมีพรสวรรค์น่ากลัวที่เกี่ยวข้องกับกฎเกณฑ์เวลา หากตนสามารถครอบครองได้…
คิดถึงตรงนี้ในใจอ๋าวเหิงอวี่ตื่นเต้นจนสั่นสะท้าน
กลับเห็นเหยี่ยนซิงเหมือนตระหนักอะไรได้ แววตาพลันเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบน่ากลัวอย่างที่สุด “หรือศัตรูที่บุกแดนวังมังกรก่อนหน้านี้จะเป็นเจ้าตัวจ้อยที่ชื่อหลินสวิน”
ผู้อาวุโสชื่อหลิงไม่ได้ปิดบัง กล่าวว่า “ไม่ผิด แต่ตอนนี้สวะนั่นตายใต้เก้าพันจั้งของทะเลปีศาจแล้ว หากไม่ใช่เพราะเขาสำแดงพลังพรสวรรค์ที่สามารถปิดผนึกเวลาได้ ข้าก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าพรสวรรค์หุบเหวกลืนกิน… จะเย้ยฟ้าขนาดนี้”
เหยี่ยนซิงสีหน้าอึมครึมไม่สามารถสงบได้
ส่วนอ๋าวฮ่วนไห่ อ๋าวเหิงอวี่ต่างอึ้งงัน แน่นอนว่าพวกเขารู้จักหลินสวิน เขาคือผู้สืบทอดของลู่ป๋อหยา เป็นคู่บำเพ็ญของจ้าวจิ่งเซวียน ยิ่งเป็นพ่อของลูกในท้องจ้าวจิ่งเซวียน
เพียงแต่พวกเขากลับคิดไม่ถึงว่าศัตรูที่ก่อกวนแดนวังมังกรก่อนหน้านี้ กลับเป็นเจ้าหนุ่มที่ถูกพวกเขาชิงชังและเคียดแค้นอย่างที่สุดคนนั้น
“สวะนั่นมาหาลูกหรือ” อ๋าวเหิงอวี่หลุดปากออกมา
ผู้อาวุโสชื่อหลิงพูดเรียบๆ “ไม่ว่าเขามาทำอะไร ตอนนี้ก็ตายไปแล้ว ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันไม่มีใครสามารถเดินออกจากใต้เก้าพันจั้งของทะเลปีศาจนั่นได้”
เหยี่ยนซิงขมวดคิ้วแน่น “เจ้ารู้ได้อย่างไร”
“สหายยุทธ์ คนที่อยู่ใต้เก้าพันจั้งเป็นใคร มีหรือที่เผ่าเจินหลงของพวกเราจะไม่รู้ จะว่าไปเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับตระกูลลั่วของเจ้าอย่างแยกไม่ออก” ในดวงตาของผู้อาวุโสชื่อหลิงเผยความอาฆาตแค้นที่ยากจะสังเกตเห็น
“เจ้ากำลังกล่าวโทษเรื่องที่ตระกูลลั่วของข้าทำตอนนั้นหรือ”
ดวงตาของเหยี่ยนซิงเย็นเยียบขึ้นมา จับจ้องผู้อาวุโสชื่อหลิง “อย่าลืมว่าตอนนั้นหากไม่ใช่นึกถึงความสัมพันธ์บางส่วน เผ่าของพวกเจ้าคงสลายไปพร้อมกับเจ้าเฒ่าที่ถูกกำราบใต้ทะเลปีศาจนานแล้ว!”
คำพูดนี้พูดอย่างไม่เกรงใจสักนิด ทำให้สีหน้าของผู้อาวุโสชื่อหลิงอึดอัดขึ้นมา ข่มอารมณ์ไม่อยู่นัก
ทว่าเหยี่ยนซิงกลับเหมือนไม่คิดจะหยุด พูดต่อว่า “และจักรพรรดิมังกรหมิงหลัวในตอนนั้น เขาหายไปได้อย่างไร เจ้า… คงไม่ได้ลืมไปแล้วกระมัง”
“พอแล้ว!”
ผู้อาวุโสชื่อหลิงตะโกน สีหน้าอึมครึม “สหายยุทธ์ แม้เจ้ามาจากตระกูลลั่ว แต่เจ้าไม่ได้แซ่ลั่ว อยู่ในเผ่าเจินหลงของข้า อย่าทำเกินไปจะดีที่สุด!”
เหยี่ยนซิงสายตาวูบไหว พูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ข้าเพียงแค่จะเตือนเจ้าว่า หลินสวินนั่น… ไม่แน่ว่าจะร่วงหล่นใต้ทะเลปีศาจง่ายๆ เช่นนี้”
ผู้อาวุโสชื่อหลิงหลุดขำ กล่าวว่า “ข้าจะเตือนเจ้าสักประโยค ทำเรื่องที่เจ้าควรทำ ก็จะสามารถรอดชีวิตเอาโลหิตสมบัติบรรพชนมังกรไปได้ ขืนยังยุ่งเรื่องคนอื่น ระวังจะเอาชีวิตไม่รอด!”
เหยี่ยนซิงขมวดคิ้ว สุดท้ายไม่ได้ปริปากอีก
อ๋าวเหิงอวี่ฟังงงงัน ทั้งจักรพรรดิมังกรหมิงหลัวหายไปได้อย่างไร ทั้งตัวตนน่าสะพรึงที่ถูกกำราบอยู่ใต้ทะเลปีศาจอะไรพวกนี้ เขาไม่รู้สักนิด
ตอนที่เขากำลังจะถามอ๋าวฮ่วนไห่ อีกฝ่ายส่ายหน้าสื่อจิตว่า ‘พวกนี้ล้วนเป็นความลับที่สำคัญที่สุดของเผ่าเรา ต่อไปไม่อาจให้ใครรู้อีก เจ้าอย่าไปสืบหาจะดีที่สุด’
ในใจอ๋าวเหิงอวี่หวาดหวั่น
เขาเป็นถึงองค์ชายใหญ่ของเผ่าเจินหลง แต่กลับไม่มีสิทธิ์รู้ความลับเก่าแก่นี้ เบื้องหลังความลับเหล่านี้คืออะไรกันแน่
“รังมังกรนี้อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสามปีจึงจะสามารถแปรสภาพได้ หวังว่าในสามปีนี้จะไม่เกิดอุปสรรคอะไรขึ้นอีก…”
เหยี่ยนซิงพึมพำเหมือนกำลังกังวลอะไร
ผู้อาวุโสชื่อหลิง อ๋าวฮ่วนไห่ต่างสีหน้าเฉยเมย บนเขาบรรพชนมังกรแห่งนี้พวกเขาไม่กลัวอะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่หวาดเกรง คือเหยี่ยนซิงที่มาจากตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งไม่ซื่อสัตย์!
อ๋าวเหิงอวี่ไม่ได้ไปคิดถึงความลับเก่าแก่ที่ถูกกำหนดให้ไม่สามารถรับรู้ได้เหล่านั้นอีก จดจ่อที่รังมังกรสีทองนั่น ปรับพลังขับเคลื่อนรอบตัวทั้งหมดไปสัมผัสคลื่นแปลกประหลาดคลุมเครือที่แผ่ออกมาจากรังมังกรสีทอง…
หากเป็นไปได้ เขาอยากจะกลืนศุภโชคไร้เทียมทานที่หล่อเลี้ยงอยู่ในนั้นเสียเดี๋ยวนี้!
……
หลังจากผ่านอุปสรรคคลื่นลมคาวฝนเลือด แดนวังมังกรกลับสู่ความสงบเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ใครๆ ก็รู้ว่าเพราะการต่อสู้ครั้งนี้ พลังชีวิตของเผ่าเจินหลงเสียหายอย่างหนักแล้ว!
เพียงแค่ระดับจักรพรรดิที่เสียไป ก็เรียกได้ว่าสร้างแรงโจมตีที่รุนแรงที่สุดแล้ว สามารถทำให้เผ่าเจินหลงไม่สามารถฟื้นฟูขึ้นมาได้ในพันหมื่นปี
แม้ผู้อาวุโสชื่อหลิงออกคำสั่งปิดข่าวทั้งหมดนี้แล้ว แต่ถึงอย่างไรกระดาษก็ห่อไฟไม่ได้
เหตุผลเพราะในแดนวังมังกร ผู้ติดตามอาวุโสจากเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ที่ฟังคำสั่งของเผ่าเจินหลงมาไม่รู้นานเท่าไหร่ ความจริงคิดไม่ซื่อนานแล้ว!
ดังนั้นเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วัน เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ก็รู้ถึงศึกนองเลือดที่เกิดขึ้นในแดนวังมังกรแล้ว
โดยเฉพาะหลังจากรู้ว่าหลินสวินที่ครอบครองมรดกมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร ถูกผู้อาวุโสชื่อหลิงตามฆ่าจนตกใต้ทะเลตะวันออก ต่างรู้สึกถึงความอัดอั้น ไม่สามารถยอมรับความกระทบกระเทือนระดับนี้ได้
อุตส่าห์มองเห็นโอกาสที่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเผ่าได้แล้ว กลับเสียไปเช่นนี้ สามารถจินตนาการได้ว่าในใจผู้ยิ่งใหญ่เก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่เหล่านั้นผิดหวังแค่ไหน
ไม่นานจากการแพร่ข่าวอย่างไม่ทิ้งร่องรอยของเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่ ข่าวที่เกี่ยวกับเผ่าเจินหลงได้รับความเสียหายรุนแรงและพลังดั้งเดิมเสียหายหนักหน่วงก็แพร่ไปในพื้นที่ต่างๆ ของแดนเจินหลง ทำให้เกิดความตะลึงและความฮือฮาไม่รู้เท่าไหร่
ตอนที่เผ่าเจินหลงรู้ตัว ข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปทั่วแล้ว ไม่สามารถปกปิดหรือหยุดได้อีก…
……
ในน้ำทะเลเสียดกระดูกแผ่พลังแปลกประหลาด มืดมนเหมือนม่าน ปกคลุมพื้นที่ใต้เก้าพันจั้งของทะเลตะวันออกทั้งหมด
ชั่วขณะที่หลินสวินเข้าสู่พื้นที่เก้าพันจั้งของของผืนน้ำ กลิ่นอายดุดันที่แปลกประหลาดน่ากลัวพลันพุ่งมา!
ร่างของหลินสวินสั่นสะท้านคราหนึ่ง เหมือนถูกเทพมรณะจับจ้อง ความรู้สึกอันตรายถึงชีวิตแผ่ไปทั้งตัว เพียงแต่ยังไม่รอเขาตอบสนองก็ถูกมือข้างใหญ่คว้าแขนไว้กะทันหัน ดิ่งลงใต้น้ำทะเลอย่างรุนแรง
ตูมโครม!
ธารน้ำที่มืดมนพลิกม้วน หลินสวินเพิ่งหมายจะดิ้นรนเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นข้างหู
“อย่าดิ้นรน และอย่าใช้จิตรับรู้สืบเสาะ!”
หลินสวินอึ้งไปทันที เสียงที่คุ้นมาก…
จนกระทั่งครู่หนึ่งหลังจากนั้น หลินสวินค่อยๆ ชินกับพลังกดข่มอันน่าหวาดหวั่นที่เกิดขึ้นยามดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง
เพียงแต่เพราะไม่กล้าใช้จิตรับรู้สำรวจ สิ่งที่เห็นจึงมีเพียงความมืด ราวกับรัตติกาลนิรันดร์ไร้สิ้นสุด
จนกระทั่งดิ่งลงไปอีกหมื่นจั้ง มือใหญ่ที่คว้าแขนหลินสวินไว้จึงคลายออก ในเวลาเดียวกันหลินสวินมองเห็นแสงสว่างหนึ่งจุด เมื่ออยู่ใต้ทะเลที่มืดมนนี้แล้วดูสะดุดตาเป็นพิเศษ
แสงสว่างนั่นอ่อนโยนนุ่มนวล สาดละอองแสง เห็นได้ชัดว่าเป็นไข่มุกที่โปร่งแสงอย่างที่สุด ลอยอยู่ตรงนั้นเงียบๆ
ยามไปถึงพื้นที่ที่แสงไข่มุกนี้ปกคลุม หลินสวินรู้สึกเพียงว่าร่างกายผ่อนคลายลง การกดข่มอันน่ากลัวและกลิ่นอายอันตรายที่แปลกประหลาดเย็นเยียบรอบตัวก็ถูกตัดขาดอยู่นอกแสงไข่มุกไปด้วย
“สหายน้อย พวกเราเจอกันอีกแล้ว”
เสียงนั้นดังขึ้น ก็เห็นเงาร่างหนึ่งปรากฏบริเวณเงาแสง เงาร่างผอมสูงโปร่งสวมชุดสีเขียวยืนอยู่ตรงนั้นง่ายๆ ก็มีความน่าเกรงขามปานนายเหนือหัวมาเยือนโลก
ตอนนี้เขากำลังยิ้มมองหลินสวิน ในดวงตามีความประหลาดใจและยินดี
หลินสวินอึ้งงันทีนที “ท่านลุง เหตุใดจึงเป็นท่าน”
ชายชุดเขียวคนนี้ ก็คือบิดาของจ้าวจิ่งเซวียน จ้าวหยวนจี๋ มหาจักรพรรดิจักรวรรดิจื่อเย่า!
“เรื่องมันยาว นั่งพักก่อน” จ้าวหยวนจี๋พูดแล้วนั่งขัดสมาธิลวกๆ
หลินสวินพยักหน้าและนั่งลงตามไป เพียงแต่จิตใจยังคงงุนงงเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้เพิ่งจะผ่านเคราะห์สังหารที่อันตรายอย่างที่สุดมา ทว่าพริบตาก็เจอคนคุ้นเคยที่ไม่ได้เจอกันมานานคนหนึ่ง ทำให้หลินสวินยากจะเชื่อนัก
จ้าวหยวนจี๋… ปรากฏตัวใต้เก้าพันจั้งใต้ทะเลได้อย่างไร
นี่เหลือเชื่อเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่นานจ้าวหยวนจี๋ก็เปิดปาก บอกที่มาออกมา
ที่แท้เมื่อไม่กี่สิบปีก่อน เขากับอ๋าวซิงถังมารดาของจ้าวจิ่งเซวียนก็ได้ยินเรื่องที่เผ่าเจินหลงจะเปิดงานชุมนุมเซียนหมื่นมังกรแล้ว จึงออกเดินทางมายังแดนเจินหลงแห่งนี้ทันที
เดิมทีอ๋าวซิงถังคิดจะฉวยโอกาสตอนที่เปิดงานชุมนุมเซียนหมื่นมังกร เข้าสู่ใต้เก้าพันจั้งของทะเลตะวันออก ช่วยบุคคลน่ากลัวที่ถูกกำราบอยู่ที่นี่มาไม่รู้นานเท่าไหร่คนหนึ่ง
แต่ใครจะคิดว่ากลับบังเอิญได้ยินว่าจ้าวจิ่งเซวียนลูกสาวของนางและจ้าวหยวนจี๋ กลับเข้าร่วมงานชุมนุมเซียนหมื่นมังกรด้วย!
ทำให้พวกเขาสามีภรรยาล้วนมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนัก
อ๋าวซิงถังถือกำเนิดในเผ่าเจินหลงอยู่แล้ว หลังสืบดูเล็กน้อยก็รู้ข่าวภายในบางส่วน และตระหนักได้ว่า เด็กในท้องของจ้าวจิ่งเซวียนมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะถูกหมายตาเข้าแล้ว!
นี่ทำให้สองสามีภรรยากระวนกระวายใจ แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะด้วยพลังของพวกเขาสองคน ไม่สามารถบุกเข้าเผ่าเจินหลงช่วยจ้าวจิ่งเซวียนออกมาได้
ดังนั้นจากของอ๋าวซิงถัง พวกเขาจึงตัดสินใจเข้าสู่ใต้เก้าพันจั้งของทะเลปีศาจแห่งนี้ ตั้งใจรอโอกาสลงมือ
ได้รู้เรื่องพวกนี้หลินสวินถึงเพิ่งจะเข้าใจ ว่านี่ไม่ใช่ความบังเอิญอะไร แต่สองสามีภรรยาก็มาช่วยจ้าวจิ่งเซวียนเหมือนกับเขา
“ท่านป้าเล่า” หลินสวินถาม
จ้าวหยวนจี๋พูดสบายๆ “กำลังคิดวิธีสื่อสารกับบุคคลน่าสะพรึงที่ถูกกำราบอยู่ที่นี่ หากสามารถได้รับความช่วยเหลือจากคนน่ากลัวคนนี้ บางทีอาจไม่ต้องหวั่นเกรงการคุกคามของเผ่าเจินหลงนั่นได้”
หลินสวินอดถามไม่ได้ “คนน่ากลัวคนนั้นคือใคร”
ตั้งแต่ระหว่างทางมายังเผ่าเจินหลง เขาก็เคยได้ยินชื่อทะเลปีศาจและเขตต้องห้ามไร้ชีพ และรู้ความน่ากลัวใต้เก้าพันจั้งของใต้ทะเลแห่งนี้เป็นอย่างดี ว่ากันว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่มีใครสามารถรอดออกไปได้
สิ่งเดียวที่คิดไม่ถึงคือ ใต้ทะเลปีศาจแห่งนี้ถึงกับยังกำราบบุคคลน่ากลัวคนหนึ่งไว้ด้วย!