หม่าหลันที่ยืนอยู่บนระเบียงชั้นสาม เมื่อเห็นนายหญิงใหญ่เซียวให้เซียวเวยเวยส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งกลุ่มออกไป เธอก็เลยพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคักในลำคอว่า “โอ๊ยฉันว่านะคุณหญิงใหญ่ คุณไม่ใช่ว่าจะแจ้งตำรวจจับลูกสะใภ้คนโตของคุณงั้นเหรอ? ทำไมถึงตอนนี้ก็ใจอ่อนลงไปแล้วล่ะ? ดูเหมือนว่าคุณก็รักใคร่ลูกสะใภ้คนโตของคุณพอสมควรอยู่นะ!”
นายหญิงใหญ่เซียวที่รู้สึกไม่สบายใจแต่แรกอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเสียงที่หม่าหลันพูดมากอยู่ฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง เธอก็รู้สึกโกรธขึ้นมาในทันที และก่นด่าอย่างโกรธเคืองว่า “หม่าหลัน เรื่องในครอบครัวของฉันมันเกี่ยวอะไรกับคุณ คุณอย่ามาพูดมากอยู่ที่นี้!”
“โอ๊ย หาว่าฉันพูดมากงั้นเหรอ?” หม่าหลันพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ถ้าคิดว่าฉันพูดมากก็ไม่ต้องมาอยู่ใกล้บ้านเราสิ!”
ขณะที่พูด หม่าหลันก็พูดเยาะเย้ยว่า “ฉันได้ยินเซียวฉางควนพูดเมื่อวานนี้ว่า คุณไปทำงานที่ซูเปอร์มาร์เก็ตงั้นเหรอ? สุดยอดไปเลยนายหญิงใหญ่ ไม่ทำอะไรเลยมาตลอดทั้งชีวิต พอแก่ตัวแล้วก็เริ่มขยันสู้ชีวิตขึ้นมางั้นเหรอ? แต่ฉันได้ยินมาว่า อาชีพที่คุณทำนั้นเหมือนจะค่อนข้างน่าเบื่อ แค่ดึงถุงพลาสติกให้คนอื่นอยู่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต!”
นายหญิงใหญ่เซียวรู้สึกโกรธมาก และก่นด่าอย่างดุเดือดว่า “ฉันทำอะไรแล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึง? ต้องคอยให้มึงมาชี้ไม้ชี้มืออยู่ที่นี่เหรอ? ”
หม่าหลันหัวเราะและพูดว่า “คุณทำอะไรมันเกี่ยวกับฉันก็จริง ฉันก็แค่ถอนหายใจแทนไอ้แก่อย่างคุณที่จะมีวันนี้แค่นั้นเอง”
ขณะที่พูด หม่าหลันก็หัวเราะเยาะด้วยตัวเอง และถอนหายใจว่า “โอ๊ย ช่างมันเถอะ ในเมื่อคุณก็ยากจนขนาดจะต้องไปทำงานในซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว งั้นฉันก็ไม่มีอะไรจะต้องไปถือสากับคนอย่างคุณแล้ว? พวกเราไม่ใช่คนในสังคมระดับเดียวเดียวกันอีกต่อไปแล้ว ชีวิตอย่างที่ฉันใช้อยู่คุณคงไม่อาจฝันถึงได้ เสียน้ำลายพูดกับคุณทั้งหมดเหล่านี้ และก็เท่าเป็นการสีซอให้ควายฟัง ดังนั้นฉันจึงทำได้แค่ขอให้คุณโชคดีเท่านั้น”
เลือดในร่างกายของนายหญิงใหญ่เซียวพุ่งตรงไปที่หัวของเธอเพราะความโกรธจากคำพูดของหม่าหลัน และกัดฟันแล้วพูดว่า “หม่าหลัน!ตอนที่ฟ้าร้องฝนตกคุณระวังตัวให้ดีนะ ฉันว่าคุณจะต้องโดนฟ้าผ่าตายในไม่ช้าก็เร็ว!”
หม่าหลันเยาะเย้ยและกล่าวว่า “ไอ้แก่อย่างคุณทำชั่วไว้เยอะ ไม่เพียงแต่กดขี่ลูกชายสองคนของตัวเอง ควบคุมอำนาจทางการเงินของครอบครัว และยังนำร่างกายของหลานสาวตัวเองไปขายเพื่อแลกกับความเจริญรุ่งเรืองและความมั่งคั่ง ฉันว่านะ ถ้าหากว่าฟ้ามีตาจริงๆแล้วก็ โอกาสที่ฟ้าผ่าคุณตาย มันมากกว่าผ่าฉันอีกหลายเท่าตัว! ฟ้าผ่าคุณตายแปดรอบ ก็คงไม่โดนฉันสักรอบหรอก!”
นายหญิงใหญ่เซียวแทบจะหมดสติ ขณะที่กระทืบเท้า และก็ก่นด่าอย่างโกรธเคืองไปด้วย “แก…..อย่ามาพ่นมูลอยู่ที่นี่!”
หม่าหลันโบกมืออย่างไม่อดทน “เอาละไอ้แก่ อย่าทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์นั่นเลย เราก็มาดูกันว่าใครจะมีชีวิตที่ดีก็พอแล้ว คุณดูสินี่คือขาของฉันได้รับบาดเจ็บแล้ว ลูกเขยของฉันก็เลยใช้เงินหลายแสนซื้อมาให้ฉันผ่านเว็บไซต์ แล้วคุณล่ะ? ยากจนถึงขนาดนี้ ไม่มีอันจะกินแล้วต้องไปทำงานที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ความแตกต่างระหว่างเราสองคนนั้น ก็เป็นเหมือนหงส์กับไก่ป่า!”
นายหญิงใหญ่เซียวหายใจแทบไม่ออกด้วยความโกรธ เธอแทบจะพูดไม่ออกเลยสักคำ รู้สึกเพียงว่าความดันโลหิตเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน และพุ่งตรงไปที่สมองของตัวเองอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ หม่าหลันก็ยังไม่ได้คิดที่จะปล่อยนางไป และเยาะเย้ยว่า “ไอ้แก่ ถ้าคุณยากจนขนาดถึงไม่มีข้าวกินจริงๆ ฉันสามารถออกความคิดให้คุณได้ อย่าลืมนะว่าคุณเคยใช้ชีวิตอยู่อย่างเจริญรุ่งเรืองในสถานกักกัน ยังมีพวกจางกุ้ยเฟินคอยปกป้องคุณอีกด้วย คุณมีความสุขเพียงใด จากมุมมองของฉัน คุณควรออกไปทำเรื่องลับๆ ล่อๆ ในตอนนี้ แล้วรอที่จะไปที่สถานกักกันเพื่อไปใช้ชีวิตอยู่ในนั้น!”
หลังจากพูดจบ หม่าหลันก็โบกมือให้เย่เฉินและเซียวชูหรัน “ลูกเขยแสนดี ลูกสาวแสนดี พวกเราลงไปกินข้าวข้างล่างกันเถอะ อย่าไปถือสากับไอ้แก่คนนั้นเลย!”
ทันทีที่คำพูดจบลง เธอก็หันไปทางนายหญิงใหญ่เซียวและกล่าวว่า “โอ๊ยไอ้แก่ ฉันจะไปกินข้าวก่อนแล้วนะ และขอบอกคุณสักหน่อยว่า อาหารเช้าของบ้านเรามีหลักหลายพิเศษมากมาย ขาไก่ซอสถั่วดำ ซี่โครงหมูนึ่งซีอิ๊ว เกี๊ยวกุ้งสด บาร์บีคิวกุ้งสด ซาลาเปาไส้หมู โอ้ใช่แล้ว ยังมีโจ๊กปลาซาซิมิอีกด้วย ล้วนเป็นอาหารเช้าแบบชากวางตุ้งที่แท้จริง คุณนะเหรอ เชิญหิวต่อไปเถอะ!”
ความดันโลหิตของนายหญิงใหญ่เซียวสูงท่วมท้นเพราะความโกรธที่มีต่อหม่าหลัน เธอรู้สึกเพียงแค่เวียนหัว และเกือบจะล้มลงกับพื้น
ในเวลานี้ เซียวเวยเวยเดินกลับมาพอดี และเมื่อเห็นเช่นนี้ เธอก็รีบประคองตัวเธอไว้ทันที
แต่ถึงแม้นายหญิงใหญ่เซียวจะเวียนหัวมากแล้ว แต่เธอก็ยังคงตะโกนด่าด้วยเสียงแหบ “หม่าหลันมึงอย่าไปนะ ในวันนี้ข้าจะไม่ยอมปล่อยมึงไปอย่างแน่นอน! มึงออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”
หม่าหลันด่าจนรู้สึกสะใจพอแล้ว ไม่อยากจะไปสนใจเธอต่อไป และพูดกับเย่เฉินโดยตรงว่า “ลูกเขยแสนดี ประคองแม่ลงไปที่ชั้นล่าง”
เซียวชูหรันเดินตามหลังและถามว่า “แม่คะ บ้านเรามีอาหารเช้าแบบกวางตุ้งมากมายขนาดนี้ที่ไหนกัน? ”