หวังตงเสวี่ยนตอบอย่างรวดเร็วว่า “สวัสดีคุณเย่……”
ในขณะนี้ ต่งรั่วหลินก็ยืนขึ้น และพูดอย่างเชื่องช้าเล็กน้อยว่า “สวัสดีประธานหวัง……”
หวังตงเสวี่ยนถึงเห็นต่งรั่วหลินในเวลานี้ และพูดด้วยความประหลาดใจ “โอ๊ย รั่วหลินคุณก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ? ยังไม่ได้กลับบ้านหรือ?”
ต่งรั่วหลินกล่าวอย่างไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อยว่า “อันนั้น…….อีกสักครู่ฉันก็จะไปที่สนามบินแล้ว……”
ในขณะที่ขงเต๋อหลงที่อยู่ด้านข้างเห็นหวังตงเสวี่ยน สายตาของเขาก็ลุกเป็นไฟที่ร้อนแรงขึ้นมา!
แม้ว่าเขาจะเคยเห็นผู้หญิงที่สวยงามมามากมาย แต่ก็ไม่เคยเห็นคนสวยที่มีออร่า และมีเสน่ห์ในที่ทำงานแบบนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสั่นไหวที่หัวใจในทันที
เขายืนขึ้นโดยจิตสำนึก และถามต่งรั่วหลินว่า “รั่วหลิน คุณยังไม่ได้แนะนำสักหน่อยเลยว่าคนสวยคนนี้คือ?”
ต่งรั่วหลินแนะนำอย่างเร่งรีบว่า “อ้อใช่แล้ว ประธานหวัง ขอแนะนำให้คุณรู้จักสักหน่อย นี่คือพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของฉัน ชื่อว่าขงเต๋อหลง”
หลังจากพูดจบ ก็มองไปที่ขงเต๋อหลง “พี่ชาย นี่คือรองประธานตี้เหากรุ๊ปของเรา หวังตงเสวี่ยนท่านประธานหวัง”
ขงเต๋อหลงยื่นมือของเขาไปทันที และกล่าวอย่างสอพลอว่า “โอ๊ย ได้ยินชื่อเสียงของประธานต่งมานานแล้ว ในวันนี้ได้เจอตัวจริงสักที ชื่อเสียงสมคำร่ำลือจริงๆ เลย ผมชื่อว่าขงเต๋อหลง เป็นทายาทของตระกูลขงแห่งเย่นจิง”
หวังตงเสวี่ยนพยักหน้าเบาๆ และพูดอย่างสุภาพว่า “ยินดีที่ได้รู้จักคุณ”
อย่างไรก็ตาม หวังตงเสวี่ยนไม่ได้รู้สึกแปลกใจ กับตัวตนของขงเต๋อหลงเลย
แม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนที่เกิดจากตระกูลใหญ่ แต่เธอก็ทำงานอยู่ที่ตี้เหากรุ๊ปมาเป็นเวลานานแล้ว และได้ติดต่อกับตระกูลใหญ่ๆ มากมาย และก็พอรู้เรื่องที่เกี่ยวกับตระกูลใหญ่มากมายด้วย เธอก็ต้องพอรู้เรื่องของตระกูลขงในเย่นจิงบ้างโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
แม้แต่เย่เฉินคุณชายของตระกูลเย่ก็รู้จักกันมานานขนาดนี้แล้ว และแน่นอนว่าเธอจะไม่มีความรู้สึกพิเศษใดๆ เมื่อเธอได้เห็นขงเต๋อหลงคุณชายของตระกูลขง
แต่เดิมขงเต๋อหลงคิดว่านำตัวตนที่ตัวเองเป็นคุณชายแห่งตระกูลขงออกมา ซึ่งจะทำให้หวังตงเสวี่ยนมองเขาด้วยความชื่นชมอย่างแน่นอน
แต่ไม่คาดคิดว่า หวังตงเสวี่ยนดูเหมือนจะไม่สนใจกับเรื่องที่ตัวเองเป็นคุณชายของตระกูลขงเลย และการแสดงออกของเธอไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลยทั้งสิ้น
สิ่งนี้ทำให้ในใจของขงเต๋อหลงรู้สึกหดหู่เล็กน้อย และเขาก็แอบคิดอยู่ในใจตัวเองว่า “ผมต้องการจะปฏิบัติต่อหวังตงเสวี่ยนเป็นเป้าหมายหลักที่สำคัญ หากสามารถจีบหวังตงเสวี่ยนได้ และในช่วงเวลาหนึ่งปีข้างหน้าของฉันที่อยู่ในเมืองจินหลิง ก็จะไม่มีชีวิตที่น่าเบื่อเกินไป…..”
“แต่ หวังตงเสวี่ยนคนนี้ดูเหมือนจะไม่มีความรู้สึกอะไรกับผมเลย……เธอก็เป็นเพียงผู้จัดการมืออาชีพคนหนึ่งเท่านั้นเอง และถึงเงินเดือนจะสูงแค่ไหนก็แค่หลายล้านถึงสิบล้านต่อปีเท่านั้น แล้วทำไมถึงไม่สนใจกับคุณชายแห่งตระกูลขงอย่างผมเลย? มาตรฐานสูงเกินไปแล้วหรือเปล่า? ”
ดังนั้น เขายังคงสานต่อและพูดกับหวังตงเสวี่ยนว่า “ประธานต่ง ผมเคยได้ยินว่าคุณมีความสามารถที่แข็งแกร่งมากมานานแล้ว และเป็นยอดนักธุรกิจในแวดวงธุรกิจ ถ้าคุณมีความสนใจมาพัฒนาในเย่นจิงในอนาคต คุณก็สามารถพิจารณามาเป็นรองประธานกรรมการของบริษัทขงซื่อของเราได้ ค่าตอบแทนจะต้องเยอะกว่าที่คุณอยู่ในตี้เหากรุ๊ปอย่างแน่นอน”
แต่เดิมเขาคิดว่า สามารถใช้เงินเดือนสูงเพื่อดึงดูดหวังตงเสวี่ยนได้ แต่เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่า หวังตงเสวี่ยนจะส่ายหัวโดยไม่ลังเล “ขอบคุณความหวังดีของคุณขง แต่ไม่จำเป็น ฉันอยู่ในตี้เหากรุ๊ปก็ค่อนข้างที่ดีอยู่แล้ว และฉันไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนงาน”
ขงเต๋อหลงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยอย่างอดใจไม่ได้ แต่ว่า ยังคงไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้เช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงพูดต่อไปว่า “ประธานต่ง เมืองจิงหลิงเป็นที่แห่งมีขนาดเล็กเกินไป มันจะจำกัดต่อการพัฒนาของคุณ ไปที่เย่นจิงจะดีกว่า ดังคำกล่าวที่ว่ามหาสมุทรที่กว้างขวางกว่าปลาก็จะสามารถกระโดดได้ตามใจมากกว่า และท้องฟ้าที่สูงกว่านกก็จะสามารถบินได้ตามใจมากกว่าไม่ใช่เหรอ!” (ในเชิงเปรียบเทียบ ในโลกที่กว้างใหญ่กว่า ผู้คนก็จะสามารถแสดงความสามารถของตนได้อย่างอิสระมากกว่า)
ขงเต๋อหลงในเวลานี้ มัวแต่สนใจกับเรื่องการจีบผู้หญิงอยู่ แต่กลับลืมไปว่ายังมีเย่เฉินที่ตัวเองไม่สามารถรุกรานได้อยู่ข้างๆ เขา
อันที่จริง เขาก็ไม่รู้สึกว่า จะมีปัญหาอะไร ที่ตัวเองเข้าหากับหวังตงเสวี่ยนอยู่ต่อหน้าเย่เฉิน
เพราะยังไง แม้ว่าตัวเองจะถูกเขาลงโทษ และมาใช้ชีวิตที่ยากลำบากอยู่ในเมืองจินหลิงเป็นเวลาหนึ่งปี แต่เย่เฉินก็ไม่ได้บอกว่า จะไม่ให้ตัวเองจีบผู้หญิงในปีนี้!
เย่เฉินมองออกกลอุบายเล็กน้อยที่อยู่ในใจของขงเต๋อหลงในเวลานี้ และเขาก็แอบคิดในใจว่า “ขงเต๋อหลงคนนี้ เปลี่ยนนิสัยไม่ได้เลยจริงๆ ไม่ว่าจะไปถึงไหนก็จะนำตัวตนที่เขาเป็นคุณชายของตระกูลขงออกมาอวดดี ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็เพิ่มเวลาให้เขาอีกหนึ่งปีแล้วกัน และปล่อยให้เขาอยู่ในเมืองจินหลิงเป็นเวลาครบสองปีถึงจะจากไปได้!”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาจึงรีบส่งข้อความผ่านวีแชทถึงกู้ชิวอี๋ทันที “หนานหนาน ฝากบอกน้องชายลูกพี่ลูกน้องของคุณกู้เหว่ยเลี่ยงสักหน่อย ให้เขาถ่ายทอดต่อตระกูลขง บทลงโทษของขงเต๋อหลงที่อยู่ในเมืองจินหลิงขยายเวลาเพิ่มไปอีกหนึ่งปี และให้พวกเขาส่งวีแชทแจ้งไปยังขงเต๋อหลงในตอนนี้ทันที”
กู้ชิวอี๋ตอบในทันทีว่า “พี่เย่เฉิน ขงเต๋อหลงคนนั้นทำให้คุณโกรธอยู่ในเมืองจินหลิงอีกแล้วหรือ?”
เย่เฉินตอบว่า “ไม่ได้ยั่วยุอะไรผมหรอก ก็แค่อวดดีอยู่ต่อหน้าผม ซึ่งทำให้ผมไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย!”