The king of War บทที่ 2037 ญาติพี่น้องแตกหักกัน
แต่ว่าคำพูดของลี่เฉินแทบ ไม่มีประโยชน์เลย หม่าชาวในเวลานี้ เสียสติไปและคำพูดของลี่เฉินไม่สามารถขัดขวางหรือหยุดเขาได้แม้แต่น้อย หมัดอันหนักหน่วง พุ่งเข้าหาหยางเฉินอย่างแรง
ร่างกายของหยางเฉินยังอยู่ในท่าถอยหลัง และยังคงถอยต่อเนื่อง เมื่อเห็นการโจมตีของหม่าชาวพุ่งเข้าหาตัวเอง เขาก็ทำอะไรไม่ได้
“โล่ล่องหน!”
เขาตะโกนเสียงดังโล่ล่องหนก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาอีกครั้ง ปกป้องเขาไว้ข้างหลัง
ถ้าจะบอกว่าโล่ล่องหน เป็นอาวุธอาถรรพ์ แต่น่าจะบอกว่าโล่ล่องหนเป็นทักษะการต่อสู้ที่ล้ำลึก เมื่อไม่ได้ใช้ แอบซ่อนอยู่ในร่างของเจ้านาย เมื่อถึงเวลาต้องใช้โล่ล่องหน ก็จะหลอมรวมเป็นโล่ป้องกันภาพลวงตา ซึ่งสามารถขวางไม่ให้เจ้านายถูกศัตรูโจมตี แต่ถ้าโล่ล่องหนถูกโจมตีจนแตกกระจายแล้ว เมื่อถึงเวลาต้องใช้ ก็สามารถปลุกเรียกได้อีก
เพียงแต่ว่า ทุกครั้งที่มีการปลุกเรียกโล่ล่องหน ก็จะสูญเสียชี่ทิพย์ที่อยู่ในร่างกายของเจ้านายจำนวนมาก แม้แต่หยางเฉิน ขณะนี้สามารถปลุกเรียกโล่ล่องหนได้แค่สามครั้งเท่านั้น
ก่อนหน้านี้เขาเคยปลุกเรียกโล่ล่องหนแล้วหนึ่งครั้ง ตอนนี้เขาได้เรียกโล่ล่องหนออกมาอีก
สายเลือดคลั่งหลังจากที่ถูกหลอมรวมโดยสายเลือดมหาอำนาจโบราณกาลทั้งสาม ก็กำลังเดือดพลุ่งพล่าน
“ตูม!”
วินาทีต่อมา หมัดของหม่าชาวชกลงมาอย่างหนัก โล่ล่องหนแตกสลายในทันที หลังจากสูญเสียเกราะป้องกันของโล่ล่องหน หมัดหนักหน่วงก็ชกลงบนหน้าอกของหยางเฉินอีกครั้ง
ทันใดนั้นหยางเฉินพ่นเลือดออกมาเต็มปาก เดิมทีร่างที่ยังไม่หยุดถอย ก็ปลิวออกไปบนอากาศ
“หยางเฉิน!”
ลี่เฉินตะโกนเสียงดังลั่น ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ
ฉินยีก็มีสีหน้าเฉื่อยชา เมื่อมองร่างของหยางเฉินเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่ ถูกชกจนปลิวออกไป
น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธออย่างควบคุมไม่ได้
ในขณะนี้ ความหนาวที่เยือกเย็น ก็กระจายออกมาจากร่างของเธอ
“เสี่ยวยี!”
เผยเชียนอนที่อยู่ข้างๆ ชั่วขณะก็มองฉินยีที่อยู่ข้างกายด้วยความประหลาดใจ
เห็นเพียงผมดกดำสลวยของฉินยี ทันใดนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีขาวทันที
ออร่าวิถีบู๊บนร่างของเธอ ก็ได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
หลังจากนิ่งอึ้งชั่วครู่ ในที่สุดเผยเชียนอินก็ได้สติกลับคืนมา ทันใดนั้นน้ำตาไหลราวกับสายฝน ด้วยท่าทีที่ปีติยินดี และคุกเข่าลงพื้นทันที “เจ้าสำนักแห่งสำนักเซิ่งกงเผยเชียนอิน ยินดีต้อนรับการกลับมาของธิดาหิมะ!”
แต่ฉินยีไม่ได้ตอบสนองเผยเชียนอิน สีหน้าเย็นชา ผมยาวสีขาว ราวกับราชินีหิมะที่มาจากดินแดนแห่งเทพ
ทั่วทั้งสำนักมาร ในวินาทีนี้ อุณหภูมิลดลงหลายองศา
“บูม!”
ร่างของหยางเฉินก็ฟาดลงบนพื้นอย่างหนัก และมีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก
นอกเสียจากว่าร่างกายของเขาถูกเลือดสดๆของมหาอำนาจโบราณกาลทั้งสามปรับเปลี่ยนแล้ว ความแข็งแกร่งนั้นเทียบเท่ากับผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสาม การที่ถูกหม่าชาวโจมตีครั้งนี้ เกรงว่าก็อาจฆ่าเขาตายได้ในไม่กี่วินาที
หยางเฉินทนต่อความเจ็บปวดที่หน้าอกของเขา และลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล
“เขาถึงกับยังมีชีวิตอยู่!”
มีคนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
เมื่อลี่เฉินเห็นหยางเฉินยังมีชีวิตอยู่ ก็รู้สึกปลาบปลื้มดีใจ
เพียงแต่ว่า หม่าชาวไม่ได้คิดที่จะปล่อยหยางเฉินไป พอหลังจากที่เห็นว่าหยางเฉินยังลุกขึ้นได้ ร่างกายก็กลายเป็นเงาแสงอีกครั้ง แล้วพุ่งเข้าหาหยางเฉิน
“หยางเฉิน หนีไป!”
ลี่เฉินตะโกน “เส้นทางที่หม่าชาวต้องการเดินได้ล้มเหลวแล้ว ในตอนนี้ได้เสียสติไปโดยสิ้นเชิง คุณได้แต่หนีเท่านั้นถึงจะรอดชีวิตได้”
ดูเหมือนหยางเฉินจะไม่ได้ยินคำพูดของลี่เฉิน กัดฟันสู้ เขาไม่เชื่อว่าพี่น้องที่แสนดีของเขาจะล้มเหลวจริงๆ
ระหว่างทางกลับไปยังสำนักมาร ลี่เฉินได้บอกเขาแล้วว่า หม่าชาวได้เลือกเส้นทางวิกฤตของชีวิต ไม่ก็ประสบความสำเร็จในการแเปลี่ยนแปลงวิถีบู๊ หรือไม่ก็ล้มเหลวกลายเป็นเครื่องจักรที่ใช้สังหาร
แต่หยางเฉินไม่เชื่อ ไม่เชื่อเด็ดขาด!
เขาใช้โล่ล่องหนผนึกรวมอีกครั้ง ซึ่งนี่เป็นขีดจำกัดของเขาแล้ว หากโล่ล่องหนแตกสลายอีกครั้ง ในเวลาสั้นๆ เขาไม่สามารถผนึกรวมโล่ล่องหนได้อีกต่อไป
แม้ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแรงเทียบเท่ากับผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสาม แต่หม่าชาวในตอนนี้ การโจมตีหนักหน่วง เหนือกว่าผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสาม ได้เจอกับการโจมตีที่หนักหน่วงทั้งสองครั้งของหม่าชาว ซึ่งทำให้ร่างกายของเขาเกิดการบาดเจ็บที่รุนแรง
ถ้าหากยังไม่สามารถปลุกหม่าชาวให้ตื่นได้ หมัดนี้ชกลงไป เกรงว่าตัวเองจะต้องตายแน่นอน
แต่ว่า หยางเฉินไม่กลัวแม้แต่น้อย ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำจ้องมองดูหม่าชาวที่พุ่งเข้าหาตนเอง
เขาตะโกนอย่างโกรธจัด “หม่าชาว รีบฟื้นขึ้นมา ฟื้นได้แล้ว!”
เพียงแต่ว่า เส้นทางที่หม่าชาวเลือกนั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง แล้วจะถูกปลุกให้ตื่นได้อย่างไร?
หยางเฉินจ้องมองไม่กะพริบตา หมัดของหม่าชาวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เขาแทบไม่สามารถหลบได้เลย
ทุกอย่างได้จบสิ้นแล้วเหรอ?
“ไม่!”
ลี่เฉินตะโกนเสียงดัง
“ตูม!”
วินาทีถัดมา ร่างเงาสีขาว ราวกับภูตผีปีศาจ พุ่งไปทางหยางเฉิน หลังจากหมัดของหม่าชาวกระแทกลง หยางเฉินก็ได้หายไปจากจุดเดิม และพลังหมัดของหม่าชาวเหมือนกับสายรุ้ง ทำลายทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจนหมดสิ้น
โมเมนตัมของการทำลาย กวาดล้างไปในทุกทิศทาง และที่เข้าใกล้ผู้แข็งแกร่งระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดที่สุด ถึงกับถูกกระแทกถอยหลังไปหลายก้าว
แค่คิดก็รู้ การโจมตีเมื่อกี้นี้ หากชกโดนตัวใคร จะเกิดอะไรขึ้น
“คนล่ะ?”
“เป็นไปได้ไหมว่า ถูกทุบตีเป็นเศษผง?”
“เมื่อกี้ดูเหมือนผมจะเห็น มีร่างสีขาว พาหยางเฉินไป”
…….
ผู้คนพูดคุยต่างๆนาๆ ผู้แข็งแกร่งที่มีพลังเข้าใกล้แดนนภา เมื่อกี้เห็นฉินยีพุ่งไปทางหยางเฉิน แต่ความเร็วของฉินยีนั้นเร็วเกินไป พวกเขาแทบมองไม่ชัดเจนเลย
ในขณะนี้ อารมณ์ของหม่าชาวยิ่งรุนแรงมากขึ้น และดวงตาสีเข้ม ทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่ด้านหลังยอดเขาสำนักมาร
วินาทีถัดมา เขาพุ่งตรงไปยังยอดเขาด้านหลัง
สายตาของทุกคนหันมองไปทางยอดเขาด้านหลัง เห็นเพียงผู้หญิงผมขาวยืนอยู่บนยอดเขาด้านหลัง ราวกับเทพธิดาที่ลงมาจากฟากฟ้า
และหยางเฉิน ก็อยู่ข้างกายเธอ
ชาวสำนักมารได้อุทานออกมาอย่างตื่นเต้น “หยางเฉินยังมีชีวิตอยู่!เขาถูกคนช่วยชีวิตไว้จริงๆ!”
หยางเฉินก็ตกตะลึงจนตาค้างเช่นกัน จ้องมองไปยังผู้หญิงผมขาวที่ยืนอยู่ข้างๆเขา ด้วยสีหน้าอึ้ง ประหลาดใจ “เสี่ยวยี เสี่ยวยี!”
แต่ว่าเสียวยีไม่ตอบสนองเขา ไม่มองเลยสักนิด ทั้งร่างเต็มไปด้วยความหนาวเหน็บ
ฉินยีหันหลังให้หยางเฉิน และทำเสียงเย็นชา “กระจอกเหมือนมด ยังกล้าเรียกชื่อฉันน่าคลื่นไส้จริงๆ ถ้ายังกล้าพูดเพ้อเจ้ออีก ตายสถานเดียว!”
ทันใดนั้นสีหน้าของหยางเฉินเย็นชาลงทันที
นี่ยังคือน้องเมียคนที่ร่าเริงแจ่มใสน่ารักที่อยู่ในความทรงจำหรือเปล่า?
แม้แต่หยางเฉิน ก็ไม่สามารถดูออกพลังที่แท้จริงของฉินยี
“ฆ่า!”
ในขณะนี้ ฉินยีตะโกนออกมาดังๆ ราวกับร่างเงาภูตผีปีศาจ พุ่งออกไปอีกครั้ง
เมื่อหยางเฉินเห็นฉินยีพุ่งเข้าหาหม่าชาว สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ตะโกนด้วยความตกใจ “อย่านะ!”
ฉินยีถึงกับจะฆ่าหม่าชาว!
เขาไม่สงสัยเลยว่า ฉินยีจะมีพลังที่สามารถฆ่าหม่าชาวได้
แต่ว่า ฉินยีได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างสิ้นเชิง เป็นไปไม่ได้ที่จะเชื่อฟังเขา?
แค่ชั่วพริบตา ฉินยีก็พุ่งไปอยู่ตรงหน้าหม่าชาว ยกมือขึ้นแล้วกระแทกฝ่ามือไปที่หม่าชาวอย่างแรง
“ตูม!”
ฝ่ามือของฉินยีกระแทกลงบนหน้าอกของหม่าชาว ร่างกายของหม่าชาว ราวกับว่าวที่เชือกขาด กลิ้งลงไปที่หลังเขา