บทที่ 2039 เอาชนะผมก่อนค่อยว่ากัน

The king of War

The king of War บทที่ 2039 เอาชนะผมก่อนค่อยว่ากัน
ลี่เฉินขมวดคิ้ว มองหยางเฉินและถามว่า “คุณคิดจะอาศัยเผยเชียนอิน เพื่อค้นหาธิดาหิมะเหรอ?”

หยางเฉินพยักหน้า และพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ตอนนี้มีเพียงของสุดเย็นเท่านั้น ถึงจะสามารถระงับพลังของดวงสายมังกรที่อยู่ในร่างกายของหม่าชาว และดูเหมือนว่าฉินยีจะสืบทอดพลังที่เย็นยะเยือกบางอย่าง ผมเดาว่าเธอต้องมีของสุดเย็นอย่างแน่นอน”

ลี่เฉินเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่ากำลังกังวลอะไร

หลังจากผ่านไปชั่วครู่ ลี่เฉินก็มองไปที่หยางเฉินและพูดว่า “หยางเฉิน วิธีนี้ไม่ได้ผลหรอก เรามาคิดหาวิธีอื่นเถอะ!”

หยางเฉินรู้สึกกังวลในทันที “เวลานี้มีทางเดียวที่อยู่ตรงหน้า แล้วทำไมยังต้องคิดหาวิธีอื่น? ผู้อาวุโส หรือว่าท่านรู้อะไร?”

ลี่เฉินพูดว่า “คุณจำได้ไหม ก่อนหน้านี้เผยเชียนอินคุกเข่าต่อหน้าฉินยี และเรียกฝ่ายตรงข้ามว่าธิดาหิมะ?”

หยางเฉินพยักหน้า แม้ว่าตอนนั้นสถานการณ์ของเขาจะอยู่ในช่วงวิกฤตมาก แต่เขาก็สังเกตเห็นที่เผยเชียนอินคุกเข่าตรงหน้าฉินยี

เมื่อกี้เขาไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ตอนนี้หลังจากที่สงบ เขาถึงได้สติ เผยเชียนอินถึงกับคุกเข่าลงต่อหน้าฉินยี

ฉินยีไม่ใช่ลูกศิษย์ของเผยเชียนอินเหรอ? แต่ทำไมจู่ๆเผยเชียนอินจึงคุกเข่าให้ฉินยี

ยิ่งคิด ในใจหยางเฉินก็ยิ่งประหลาดใจมาก

หยางเฉินสีหน้าเคร่งขรึม ถามว่า “เป็นไปได้ไหมที่ฉินยีถูกจิตวิญญาณของผู้แข็งแกร่งโบราณกาลคนไหนครอบครองร่างกาย?”

ก่อนหน้านี้เขาก็เคยคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ในเมื่อจิตวิญญาณของเทพมารก็ยังเคยอยู่ในร่างกายของเขาเช่นกัน

โชคดีที่จิตวิญญาณของเทพมารไม่ได้คิดร้ายต่อเขา ตรงกันข้ามยังช่วยเหลือตัวเองได้รับสายเลือดของโบราณกามเทพมารและเทพธิดาและยังมีราชาผู้แข็งแกร่งทั้งสามท่านนี้

และเป็นการหลอมรวมสายเลือดของผู้มีอิทธิพลของดบราณกาลทั้งสามท่านนี้ ความแข็งแกร่งภายในร่างของตนเองจึงได้แข็งแกร่งเหมือนในตอนนี้ และพลังของเขาก็ได้พุ่งสูงขึ้นหลายเท่า

หยางเฉินกำลังคิดฟุ้งซ่าน แต่ลี่เฉินส่ายหัว และพูดด้วยสีหน้าหนักแน่นว่า “อยู่ในสำนักเซิ่งกง มีวิธีการบำเพ็ญสืบทอดอย่างหนึ่ง มีเพียงเจ้าสำนักและเทพธิดาในสำนักเซิ่งกงเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการบำเพ็ญ และวิธีการบำเพ็ญนี้ เรียกอีกอย่างว่าวิถีแห่งการกลับชาติมาเกิด หากผมทายไม่ผิด สิ่งที่ฉินยีบำเพ็ญก็คือวิถีแห่งการกลับชาติมาเกิด”

หยางเฉินสงสัย “วิถีแห่งการกลับชาติมาเกิด? แต่ว่า เรื่องนี้กับเรื่องที่เขาจะไปหาฉินยี แล้วเกี่ยวข้องอะไร?”

ลี่เฉินพูดว่า “คุณอาจไม่เข้าใจมากนักเกี่ยวกับวิถีแห่งการกลับชาติมาเกิด หากคุณรู้ถึงความร้ายกาจของวิถีแห่งการกลับชาติมาเกิด ก็จะเข้าใจ ทำไมผมถึงห้ามคุณไม่ให้ไปตามหาฉินยี”

“ก่อนหน้านี้ที่เผยเชียนอินคุกเข่าต่อหน้าฉินยี เรียกอีกฝ่ายว่าธิดาหิมะ แต่ธิดาหิมะก็คือผู้ก่อสร้างสำนักเซิ่งกง ในยุคเทพนั้นเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอดเป็นผู้แข็งแกร่งที่น่าเคารพในระดับแดนนภาขั้นเก้าชั้นยอด และอาจกล่าวได้ว่า อีกฝ่ายได้ก้าวข้ามแดนนภาไปแล้ว”

“เพียงแต่ ในช่วงเวลาโบราณกาล เวลาการฝ่าฟันภัยพิบัติ ภัยพิบัติสวรรค์ที่ต้องการชีวิต เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าวิถีแห่งการกลับชาติมาเกิดของเธอนั้น ถึงกับได้ปกป้องชีวิตของเธอไว้”

“ดังนั้น ฉินยีในวันนี้ ไม่ใช่แค่เป็นเธอในชีวิตนี้ แต่เป็นธิดาหิมะที่หลอมรวมวิถีการกลับชาติมาเกิดอย่างสิ้นเชิง!”

“หากต้องการให้เธอออกตัวช่วยหม่าชาว มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากทำให้เธอโกรธขึ้นมา บางทีเธออาจฆ่าคุณด้วยซ้ำ!”

เมื่อได้ยินคำพูดของลี่เฉิน สีหน้าของหยางเฉินเฉื่อยชา

ฉินยีไม่ใช่ฉินยีคนเดิมอีกต่อไปแล้วเหรอ?

เป็นไปได้อย่างไร?

แต่หากไม่ใช่แบบนี้ แล้วทำไมเผยเชียนอินถึงเรียกฉินยีว่าธิดาหิมะ?

หากตัวเองไปหาเธอจริงๆ เธอจะฆ่าตัวเองจริงไหม?

หยางเฉินเหลือบมองหม่าชาวที่ยังอยู่ในอาการโคม่า ด้วยสีหน้าที่สับสน

ถ้าหากฉินยีเป็นธิดาหิมะผู้แข็งแกร่งและน่านับถือของโบราณกาลจริง ถ้างั้น เธอยังจำตัวเองได้ไหม?

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หยางเฉินพูดด้วยความโกรธ “ผมไม่เชื่อ เธอจะลืมผมจนหมดสิ้น แม้ว่าเธอจะฆ่าผม ผมก็จำเป็นต้องไปพบเธอ!”

ถึงแม้ไม่มีเรื่องของหม่าชาว แต่หยางเฉินก็จำเป็นต้องไปหาฉินยี

ลี่เฉินถอนหายใจ แล้วพูดว่า “ในเมื่อคุณยืนกรานที่จะไป ถ้างั้นผมก็จะไปกับคุณ!”

หยางเฉินรีบพูดขึ้น “ท่านผู้อาวุโส ผมไปสำนักเซิ่งกงคนเดียวก็ได้”

ลี่เฉินพูดว่า “วางใจเถอะ มีเผยเชียนอินอยู่ที่นั่น ไม่มีใครในสำนักเวิ่งกงจะทำร้ายผมหรอก”

ในขณะนี้ มู่ชิงกับเหมิงคุน และยังมีมารแดงทั้งสามคนก็มาด้วย

มารแดงมองไปที่ลี่เฉินแล้วพูดว่า “เจ้าสำนัก พวกเราได้ควบคุมสำนักพิษกับคามิ โคโซ และคนสำคัญของเผ่าไป๋เรียบร้อยหมดแล้ว”

สายตาของลี่เฉินกวาดดูผู้คนในเหตุการณ์ จากนั้นเขาก็พูดว่า “ขังพวกเขาไว้ก่อน รอผมกลับมาจากสำนักเซิ่งกง แล้วค่อยคุยเรื่องอื่นๆ”

“ครับ!”

ทั้งสามรีบพูดอย่างรวดเร็ว

ลี่เฉินมองไปที่หยางเฉินและพูดว่า “เราไปกันเถอะ!”

หยางเฉินพยักหน้าเล็กน้อย มองไปที่มารแดง จากนั้นมองไปที่มู่ชิงกับเหมิงคุนทั้งสองคน

ทั้งมู่ชิงและเหมิงคุนต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่อาการบาดเจ็บของมารแดงนั้นสาหัสกว่า ในตัวมีลมปราณบูโดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เห็นได้ชัดว่า วิถีบู๊ของเขาถูกทำลายไปแล้ว

คนเหล่านี้ ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอดแห่งสำนักมาร หากมีใครเกิดเรื่อง สำหรับสำนักมารแล้ว ก็เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่

หยางเฉินมองไปที่เฝิงเสี่ยวหว่านแล้วพูดว่า “เสี่ยวหว่าน ช่วยดูมารแดงให้หน่อยว่าเขาสามารถฟื้นฟูวิถีบู๊ได้ไหม”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ มารแดงก็ดีใจมาก และมองเฝิงเสี่ยวหว่านด้วยดวงตาแดงก่ำ

เฝิงเสี่ยวหว่านพยักหน้าและพูดว่า “ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ พี่เฉินเดินทางอย่างสบายใจเถอะ ฉันจะพยายามรักษาอาการบาดเจ็บของทุกคนให้ดีที่สุด”

หยางเฉินพยักหน้า และจากไปพร้อมกับลี่เฉิน

ทั้งสองเดินออกไปไม่นาน ไป๋หลี่จิงหวินก็วิ่งตามมา

“หยางเฉิน คุณอย่าวู่วาม เวลานี้ไปหาธิดาหิมะ เป็นการไปหาที่ตายชัดๆ ถึงแม้จะเป็นโลกบู๊โบราณบน ธิดาหิมะก็เป็นบุคคลชั้นยอดในตำนาน เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะยอมช่วยคุณ?”

ไป๋หลี่จิงหวินยืนขวางอยู่ข้างหน้าหยางเฉินกับลี่เฉิน และพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม “สำหรับคุณแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่การช่วยคน แต่ควรหาวิธีซ่อนตัวมากกว่า”

“หม่าชาวพี่น้องที่ดีของคุณฆ่าไป๋หลี่ว่างเยว่ ราชวงศ์ไป๋หลี่ไม่มีวันปล่อยพวกคุณแน่”

หยางเฉินค่อยๆมองไปที่ไป๋หลี่จิงหวินแล้วพูดว่า “นี่เป็นเรื่องขอพวกงเรา ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ หากคุณไม่อยากเดือดร้อน คุณควรจะจากไปเดี๋ยวนี้”

ไป๋หลี่จิงหวินโกรธทันที และพูดอย่างโมโหว่า “หยางเฉิน คุณรู้จักพลังของโลกบู๊โบราณชั้นยอดไหมว่ามันแข็งแกร่งขนาดไหน? ราชวงศ์ไป๋หลี่มีผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามชั้นยอด ฉันยอมรับว่าพลังของคุณแข็งแกร่งมาก และพรสวรรค์ด้านบูโดก็สูงมากเช่นกัน แต่อาศัยคุณในตอนนี้ แต่ถ้าผู้แข็งแกร่งของโลกบู๊โบราณแดนนภาขั้นสามชั้นยอดมา คุณสามารถรับมือไหวไหม?”

“ตอนนี้ คุณทำได้เพียงยอมตกลงเข้าร่วมพันธมิตรพิทักษ์เท่านั้น หลังจากกลายเป็นจอมพลทั้งสิบของพันธมิตรพิทักษ์แล้ว ถึงจะสามารถปกป้องตัวเองได้ และปกป้องคนรอบข้างของคุณ”

หยางเฉินขมวดคิ้ว และมองไป๋หลี่จิงหวินแล้วพูดว่า “ผมพูดอย่างชัดเจนแล้ว ให้ผมเข้าร่วมพันธมิตรพิทักษ์ มันเป็นไปไม่ได้! คุณสามารถบอกผมเรื่องพวกนี้ ผมรู้สึกขอบคุณมาก และขอเชิญคุณไปจากที่นี่เถอะ!”

ไม่ว่ายังไง ไป๋หลี่จิงหวินก็คือคนที่คุ้มค่าที่จะคบหาเป็นเพื่อน แต่หยางเฉินตระหนักชัดเจนถึงสถานการณ์ของตนเองในตอนนี้ เป็นเพื่อนกับไป๋หลี่จิงหวินนั่นก็คือการชดใช้ให้กับ ไป๋หลี่จิงหวิน

และเขาก็ไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเข้าร่วมพันธมิตรพิทักษ์ แต่ว่า เขาไม่เชื่อใจพันธมิตรพิทักษ์ ถึงแม้จะเข้าร่วมจริงๆ ก็ต้องรอตนเองเข้าใจเรื่องพันธมิตรพิทักษ์มากพอ มั่นใจว่าพันธมิตรพิทักษ์เป็นกองกำลังที่คุ้มค่าจะเข้าร่วม เขาถึงจะตกลง

อย่างน้อยตอนนี้ เขาไม่มีความคิดที่จะเข้าร่วม

สำหรับเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการระงับดวงสายมังกรในร่างกายของหม่าชาว

“ผมจะไม่ยอมเห็นคุณไปตายฟรีๆ อยากไปหาธิดาหิมะก็ได้ เอาชนะผมก่อนค่อยว่ากัน!”

ไป๋หลี่จิงหวินตะโกนอย่างโกรธเคือง และพุ่งเข้าหาหยางเฉินโดยตรง