เย่เฉินขับรถมุ่งตรงไปยังโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง และลูกน้องของเฉินจื๋อข่ายได้เตรียมรถเข็นไว้รอที่หน้าประตูแล้ว

เมื่อเห็นเย่เฉินมาถึง เขาก็รีบดันรถเข็นไปข้างหน้าแล้วกล่าวด้วยความเคารพว่า “อาจารย์เย่ครับ ผู้จัดการทั่วไปเฉินให้ผมเตรียมดอกไม้ไฟให้คุณ คุณจะให้ผมช่วยขนขึ้นรถคุณเลยไหม?”

เย่เฉินพยักหน้า จากนั้นเขาก็เปิดฝากระโปรงรถหลังและกล่าวว่า “ทำให้นายต้องลำบากเลย ขอบใจนะ”

อีกฝ่ายรีบโบกมือและพูดว่า “ท่านอาจารย์เย่เกรงใจเกินไปแล้ว นี่มันคือหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ”

ในขณะที่พูด เขาก็นำดอกไม้ไฟกล่องใหญ่หลายกล่องไปไว้ในท้ายรถ BMW

เย่เฉินกล่าวขอบคุณ และก็ขับรถกลับไป ในเวลาเดียวกันเขาก็โทรหาเซียวชูหรัน และบอกให้เธอและพ่อตาแม่ยายเตรียมตัวไว้ได้เลย เดี๋ยวจะได้ขึ้นรถ และไปหาสถานที่ที่สามารถจุดดอกไม้ไฟและประทัดเพื่อสร้างบรรยากาศวันปีใหม่โดยตรง

เซียวชูหรันรู้สึกดีใจมาก เธอและพ่อแม่รีบสวมเสื้อแจ็กเกตหนาๆ และมารอที่นอกประตู Tomson Riviera ก่อนเวลา

ทันทีที่รถของเย่เฉินมาถึง สมาชิกในครอบครัวทั้งสามคนก็ขึ้นรถ

เซียวชูหรันถามเย่เฉินว่า “ที่รัก พวกเราจะไปจุดประทัดที่ไหนกันดี? ”

เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ที่ไหนก็ได้ ขอแค่ไม่ใช่เขตกลางเมืองก็พอ คุณลองคิดดูว่าเราควรไปจุดที่ไหนกันดี”

ในเวลานี้เซียวฉางควนก็แนะนำว่า “เราไปที่ริมแม่น้ำกันไหม! ทิวทัศน์ริมแม่น้ำสวยดี นอกจากนี้บนผิวแม่น้ำยังสามารถสะท้อนให้เห็นเงาดอกไม้ไฟที่พุ่งขึ้นบนฟ้าด้วย มันจะเพิ่มความเป็นศิลปะได้ไม่น้อยเลยนะ!”

เซียวชูหรันพูดด้วยรอบยิ้มว่า “นี่เป็นความคิดที่ดีมากเลยค่ะพ่อ! ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปที่ริมแม่น้ำกันเถอะ!”

เซียวฉางควนรีบแนะนำว่า “พ่อรู้จากสถานที่ที่ใช้ได้แห่งหนึ่ง ที่นั่นมีริมฝั่งแม่น้ำขนาดใหญ่ด้วย!”

ในขณะที่ เย่เฉินกำลังฟังภรรยาและพ่อตาของเขาพูดคุยเกี่ยวกับริมแม่น้ำนั้น เขาก็นึกถึงซ่งหวั่นถิงของตระกูลซ่งขึ้นมาทันที

ก่อนหน้านี้ ซ่งหวั่นถิงขับรถส่งตัวเองกลับบ้าน เมื่อผ่านแม่น้ำแยงซี เธอก็บอกให้ตัวเองไปเดินเล่นเป็นเพื่อนเธอ

ตัวเองก็ตอบตกลงอย่างยินดีโดยไม่ได้คิดอะไร

แต่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า หลังจากพวกเขาเดินเล่นที่ริมแม่น้ำเสร็จแล้วกลับไป ซ่งหวั่นถิงก็ส่งตัวเองไปถึงที่หน้าประตูของ Tomson Riviera Villa จากนั้นเธอก็ริเริ่มจูบตัวเองในรถ

ฉากนั้นยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำของเย่เฉินมาโดยตลอด และทุกครั้งที่เขานึกถึงเรื่องนี้เขาก็จะรู้สึกอบอุ่นใจเล็กน้อย

ในขณะที่คิดเพ้อเจ้อ เย่เฉินก็ได้ขับรถไปถึงแม่น้ำแยงซีภายใต้การชี้นำของเซียวฉางควน

สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือหาดตื้นที่พ่อตาตัวเองพามาแห่งนี้ จะเป็นสถานที่เดียวกับที่ซ่งหวั่นถิงเคยพาตัวเองมา

เนื่องจากเวลานี้เป็นคืนส่งท้ายปีเก่า รอบข้างพวกเขาจึงไม่มีผู้คนเลย

หลังจากที่จอดรถเสร็จแล้ว เย่เฉินกับพ่อตาก็ช่วยกันขนดอกไม้ไฟสองสามลังไปที่ใต้เขื่อนแม่น้ำ

เย่เฉินได้จัดดอกไม้ไฟด้วยระยะห่างที่เหมาะสมไว้บนเขื่อนแม่น้ำที่ก่อสร้างด้วยปูนซีเมนต์

ส่วนอีกด้านหนึ่ง ด้วยความที่มิอาจยับยั้งแรงกระตุ้นได้ เซียวฉางควนได้ลงมือจุดประทัดไปสองอันแล้ว

เสียงประทัดในเทศกาลดังก้องไปตามแม่น้ำ ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงบรรยากาศแห่งปีใหม่ในทันที

เมื่อประทัดดับลง เย่เฉินก็หันไปพูดเซียวชูหรันว่า: “ชูหรัน ผมจะจุดดอกไม้ไฟแล้วนะ!”

เซียวชูหรันหยิบโทรศัพท์ออกมาทันทีและพูดอย่างตื่นเต้น: “ที่รักรอสักครู่นะ ฉันจะเปิดการถ่ายวิดีโอก่อน! ”

“โอเค!”

หลังจากเซียวชูหรันหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดฟังก์ชันกล้องเรียบร้อย เย่เฉินก็จุดเส้นฟิวส์ของดอกไม้ไฟ

ดอกไม้ไฟหลากสีสันพุ่งสูงขึ้นบนท้องฟ้า นากนั้นก็ระเบิดบนพื้นผิวของแม่น้ำ ผิวแม่น้ำอันกว้างขวางสะท้อนสีสันอันงดงามของดอกไม้ไฟที่ระเบิดบนท้องฟ้า ส่งผลให้เซียวชูหรันที่อยู่ข้างๆ เต้นแร้งเต้นกาด้วยความดีอกดีใจ

หลังจากดอกไม้ไฟชุดหนึ่งดับลงแล้ว เย่เฉินก็จุดดอกไม้ไฟชุดที่สองทันที ตามด้วยชุดที่สามและสี่

จนกว่าดอกไม้ไฟทั้งหมดจะมอดไหม้ ในเวลานี้แก้มของเซียวชูหรันแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น!

เธอไม่มีความรู้สึกที่จุดดอกไม้ไฟและประทัดในวันส่งท้ายปีเก่าแบบนี้มานานแล้ว ดังนั้นเวลานี้เธอจึงรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเด็กคนหนึ่ง

เซียวฉางควนและหม่าหลันก็มีความสุขมากเช่นกัน ปีใหม่ทางจันทรคติในครั้งนี้มีความสำคัญต่อสมาชิกครอบครัวทั้งสี่คนนี้อย่างมาก

และวันส่งท้ายปีเก่านี้ ผ่านไปอย่างสมบูรณ์แบบมาก ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ยี่สิบสี่นาฬิกาในคืนวันส่งท้ายปีเก่า

ยังเป็นศูนย์ในวันแรกของปีใหม่อีกด้วย

เย่เฉินจุดดอกไม้ไฟชุดสุดท้าย และเซียวฉางควนก็จุดประทัดชุดสุดท้ายเช่นกัน

เซียวชูหรันยกมือขึ้นแตะข้างปากแล้วตะโกนว่า: “ที่รัก พ่อ แม่สวัสดีปีใหม่ค่ะ! ”