บทที่ 1974

แต่อิโตะนานาโกะและคนอื่นๆตามเขาไม่ทันจริงๆ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงยืนรอเย่เฉินอยู่ที่เดิม

เย่เฉินไม่ต้องการนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปรับซ่งหวั่นถึง ถ้าทำแบบนี้ มีแนวโน้มที่จะทำให้คนอื่นๆที่กำลังคันหาซ่งหวั่นถึงรู้ตัว
ดั่งนั้นเขาก็เลยใช้สองเท้าและพึ่งพาตัวเอง

โชคดีที่เย่เฉินอยู่ห่างจากซ่งหวั่นถิงไม่ไกลนัก เมื่อมองจากจีพีเอส มีระยะทางประมาณสองถึงสามกิโลเมตร

ดังนั้นหลังจากเขาวิ่งอย่างรวดเร็วผ่านไปครึ่งชั่วโมง ซ่งหวั่นถึงก็ปรากฏตัวขึ้นในรัศมีการมองเห็นของเย่เฉิน
ซ่งหวั่นถึงในขณะนี้ กำลังปืนขึ้นไปจากด้านล่างหุบเขา

เธอนึกว่าตัวเองอยู่ในระยะที่ปลอดภัยแล้ว ดังนั้นเธอจึงปืนขึ้นหุบเขาเพื่อหาสัญญาณโทรศัพท์ จากนั้นก็โทรศัพท์หาเย่เฉินและคนใน
ครอบครัวเพื่อแจ้งพวกเขาว่าตัวเองปลอดภัย

ซ่งหวั่นถิงในเวลานี้ก็อดไม่ได้ที่จะกังวลใจ:”ถ้าอาจารย์เได้รับข้อความเสียงก่อนที่ฉันจะเกิดเรื่องไม่ดี เขาต้องเป็นห่วงเรื่องความ

ปลอดภัยของฉันมากๆแน่นอน? ไม่รู้ว่าเขาในตอนนี้จะเป็นห่วงมากแค่ไหน ฉันต้องโทรศัพท์หาอาจารย์ยก่อน บอกให้เขารู้ว่าฉันยังมีชีวิตอยู่!”
เมื่อเย่เฉินเห็นเธอ เขารู้สึกตื่นเต้นดีใจมากๆ

ขณะที่เขาเดินทางจากเมืองจินหลิงมาญี่ปุ่น เรื่องที่เย่เฉินกลัวที่สุดคือซ่งหวั่นถิงได้รับอันตรายถึงชีวิต

ตอนนี้เขาเห็นเธอกับตาตัวเอง ทำให้เย่เฉินคลายความกังวลและความประหม่าทั้งหมดของตัวเองที่เกิดก่อนหน้านี้

เมื่อซ่งหวั่นถึงปืนถึงกลางหุบเขาและอยู่บนก้อนหินนใหญ่ที่ค่อนข้างแบนราบ เธอหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา ในเวลานี้โทรศัพท์ก็ยัง
แสดงผลว่าไม่มีสัญญาณ

เธอจับโทรศัพท์และเดินไปมาบนก้อนหินอันใหญ่ ในที่สุดเธอก็จับสัญญาณโทรศัพท์ได้หนึ่งขีด

ดังนั้น เธอจึงรีบอยู่นิ่งๆแล้วเปิดวีแชททันที

เนื่องจากสัญญาณไม่ดี ดังนั้นวีแชทของเธอจึงแสดงผลว่ากำลังเชื่อมต่อ

ผ่านไปหลายนาที วีแชทเปลี่ยนจากการเชื่อมต่อเป็นรับข้อมูล

ถึงแม้จะเปลี่ยนเป็นรับข้อมูล แต่เธอไม่ได้รับข้อความใหม่ทางวีแชทแม้แต่ข้อความเดียว
ดังนั้น เธอก็เลยปิดวีแชท และโทรศัพท์หาเย่เฉินทันที

เธอโชคดีมากๆ ถึงแม้สัญญาณจะมีเพียงแค่ขีดเดียว และเชื่อมต่ออินเทอร์น็ตไม่ได้ แต่สัญญาณเพียงหนึ่งขีดนี้ เพียงพอที่จะทำให้เธอ
โทรออกไปได้!

หลังจากโทรออกไปได้ไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงของเย่เฉิน:”หวั่นถิง ตอนนี้คุณเป็นยังไงบ้าง?”

เมื่อซ่งหวั่นถิงได้ยินเสียงของเย่เฉิน เธอรู้สึกว่าเย่เฉินเหมือนอยู่ใกล้ๆตัวเอง เธอดีใจมากๆและร้องไห้ออกมา:”อาจารย์เย่…ฉัน…ฉันยั่งมี
ชีวิตอยู่….!

เย่เฉินพูดอย่างอ่อนโยน:”ฉันรู้”

ซ่งหวั่นถิงในเวลานี้ร้องไห้สะอึกสะอื้นและพูด:”อาจารย์เย่….ขอบคุณมากๆ…ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ตอนนี้ฉันคงตายไปแล้ว….
เย่เฉินมองแผ่นหลังของซ่งหวั่นถิงด้วยความปวดใจและพูดเบาๆ:” หวั่นถิง ฉันจะบอกคุณเรื่องหนึ่ง คุณอย่าก้งวลและอย่ากลัว”
ซ่งหวั่นถิงรีบพูดทันที!”อาจารย์เย่ คุณพูดมาได้เลย!”

เย่เฉินพูดอย่างจริงจัง:”เมื่อรู้ว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับคุณ ฉันก็เดินทางมาญี่ปุ่นเลย”

“อ้า?!”ช่งหวั่นถิงถามด้วยความดีใจ: “อาจารย์เข่ คุณ…คุณมาที่ญี่ปุ่นแล้วเหรอ?!”
เย่เฉินพูด:” ใช่ ฉันอยู่โตเกียวแล้ว”

ในเวลานี้ ซ่งหวั่นถิงดีใจมากๆและมีความสุขมากๆ เธอพูดทั้งน้ำตา:”อาจารย์เย่ คุณ…คุณมาหาฉันที่โตเกียวใช่ไหม?”
เย่เฉินถอนหายใจเบาๆและพูด:”หวั่นถิง ตอนนี้ฉันอยู่ที่เขตนิชิทามะโตเกียวที่เกิดเรื่องไม่ดีกับคุณ”

ใบหน้าของซ่งหวั่นถิงเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและอุทาน.”อาจารย์เย่ คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นที่เขตนิชิทามะโตเกียว? ตอน
นี้คุณอยู่ที่ไหน?”

เย่เฉินพูดอย่างจริงจัง:”หวั่นถิง ตอนนี้ฉัน…อยู่ด้านหลังของคุณ!”