บทที่ 2080 สาวใหญ่และสาวน้อย

The king of War

The king of War บทที่ 2080 สาวใหญ่และสาวน้อย
ผู้นำตระกูลฉีมองบุคคลลึกลับ และกล่าวว่า “ยาทะลุแดนที่คุณพูดถึง มีความหวังที่จะทะลวงถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดได้จริงเหรอ?”

บุคคลลึกลับยิ้ม แล้วโยนยาที่อยู่ในมือให้ผู้นำตระกูลฉี และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผู้นำตระกูลฉี ลองยาเม็ดนี้ก่อน”

หลังจากผู้นำตระกูลฉีรับยาทะลุแดนแล้ว สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เพราะเขาสามารถรับรู้ได้ถึงชี่ทิพย์ที่หนาแน่นจากยาเม็ดนี้

ถึงแม้ว่าความหนาแน่นของชี่ทิพย์ในยาทะลุแดนเม็ดนี้ เทียบเท่ากับหินอาถรรพ์หนึ่งพันก้อน แต่ประเด็นสำคัญคือขนาดของเม็ดยานี้เล็กกว่าหินอาถรรพ์มาก

ยาเม็ดเล็กนี้มีชี่ทิพย์ความหนาแน่มาก ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่ายาเม็ดนี้ไม่ธรรมดา

หากผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด กินยาเม็ดนี้เข้าไป ด้วยชี่ทิพย์ที่หนาแน่นนี้ สามารถทำให้อีกฝ่ายทะลวงแดนได้

อย่างไรก็ตาม ผู้นำตระกูลฉีรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง ในฐานะที่เป็นผู้นำตระกูลฉี เขาเคยเห็นยามามากมาย ถึงแม้ว่ายาทะลุแดนนี้จะมีขนาดใกล้เคียงกับยาทั่วไป แต่ยาที่แท้จริงจะมีกลิ่นยาค่อนข้างรุนแรง แต่เขาไม่ได้กลิ่นยาจากยาทะลุแดนเม็ดนี้เลยสักนิด แต่กลับมีกลิ่นเลือดที่รุนแรงมาก

“นี่มันไม่ใช่ยา!”

ผู้นำตระกูลฉีขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิด ถึงแม้จะกินยาเม็ดนี้เข้าไป ก็อาจจะไม่สามารถทะลวงสู่แดนนภาได้ใช่ไหม?”

บุคคลลึกลับหัวเราะเสียงดัง และกล่าวว่า “มิเสียแรงที่เป็นผู้นำตระกูลฉี เยี่ยมจริง ๆ เพียงแค่มองแวบเดียว ก็สามารถมองยาเม็ดนี้ออกแล้ว”

หลังจากได้ยินคำพูดของบุคคลลึกลับแล้ว ผู้นำตระกูลฉีโกรธทันที พลังที่น่าสะพรึงกลัวก็ปะทุออกมาจากร่างกายของเขา ปกคลุมบุคคลลึกลับทันที

ผู้นำตระกูลฉีคำรามว่า “คุณกำลังแกล้งผม?”

บุคคลลึกลับรีบกล่าวว่า “ผู้นำตระกูลฉี ระงับความโกรธด้วย เมื่อสักครู่ผมแค่พูดล้อเล่นกับคุณเท่านั้น ผมจะแกล้งคุณได้อย่างไร?”

“นี่ไม่ใช่ยาทะลุแดนจริง ๆ แต่เป็นผลการวิจัยล่าสุดของผม ยาเม็ดนี้ผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีชั้นสูงของโลกมนุษย์ คล้ายกับยาทะลุแดน ผมตั้งชื่อมันว่ายาโลหิตวิญญาณ!”

ผู้นำตระกูลฉีน่าจะรับรู้ได้ว่ายาโลหิตวิญญาณเม็ดนี้มีชี่ทิพย์หนาแน่นมาก ยานี้ใช้สำหรับนักบูโดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดเท่านั้น โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งที่มีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับแดนนภามาก เมื่อพวกเขากินยาโลหิตวิญญาณเข้าไปแล้ว ความแข็งแกร่งของพวกมันจะพุ่งทะยานสูงขึ้น และมีโอกาสทะลวงไปสู่แดนนภาสูงมาก!”

ผู้นำตระกูลฉีขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ถ้าล้มเหลวล่ะ?”

“ล้มเหลว?”

บุคคลลึกลับยิ้มด้วยความเหยียดหยาม “ถ้าล้มเหลว นั่นหมายความว่าผู้ที่กินยานี้ เป็นนักบูโดที่ไร้ประโยชน์ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้กินยาโลหิตวิญญาณ ชาตินี้เขาก็ไม่มีหวังที่จะทะลวงไปสู่แดนนภาได้”

“และแน่นอนว่า ถึงแม้จะล้มเหลว แต่ก็ไม่สำคัญ เมื่อล้มเหลวแล้ว ความแข็งแกร่งของเขาจะหยุดอยู่ที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดตลอดไป แต่ร่างกายของเขาจะเกิดความเปลี่ยนแปลงโดยยาโลหิตวิญญาณ เขาจะเป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ที่มีความแข็งแกร่งทางร่างกายบรรลุถึงแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น”

คราวนี้ ดวงตาของผู้นำตระกูลฉีเป็นประกายทันที

ตอนแรกเขาคิดว่าผลกระทบของความล้มเหลวจะร้ายแรงมาก แต่นึกไม่ถึงว่าหลังจากความล้มเหลวแล้ว ไม่เพียงแค่ความแข็งแกร่งไม่ลดลงเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งทางร่างกายบรรลุถึงแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น

ผู้นำตระกูลฉีถามว่า “คุณมียาโลหิตวิญญาณกี่เม็ด?”

บุคคลลึกลับยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้นำตระกูลฉี ก็รู้ว่ายาโลหิตวิญญาณมีชี่ทิพย์หนาแน่นมาก ถ้าคำนวณตามหินอาถรรพ์แล้ว ต้องใช้หินอาถรรพ์หนึ่งพันก้อน แค่คิดก็สามารถรู้ว่ายาโลหิตวิญญาณเม็ดหนึ่งมีมูลค่าสูงเพียงใด?”

ผู้นำตระกูลฉีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แค่หินอาถรรพ์หนึ่งพันก้อนเท่านั้น มากเหรอ? คุณพูดออกมาตามตรงว่าคุณต้องการหินอาถรรพ์กี่ก้อน? สำหรับยาโลหิตวิญญาณหนึ่งเม็ด”

บุคคลลึกลับส่ายศีรษะ “ผมไม่ต้องการหินอาถรรพ์ แค่ต้องการให้ผู้นำตระกูลฉีช่วยผมเรื่องหนึ่ง เมื่อถึงเวลานั้น ผมจะมอบยาโลหิตวิญญาณ ให้ผู้นำตระกูลฉีมากเท่าที่ต้องการ”

ดวงตาของผู้นำตระกูลฉีประกายความเฉียบขาด และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณต้องการให้ผมทำอะไร”

“ผมต้องการให้ตระกูลฉีไปจัดการบุคคลหนึ่ง ขอเพียงแค่ตระกูลฉีสามารถพาตัวบุคคลนั้นมาให้ผมโดยที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากนั้น ผมจะมอบยาโลหิตวิญญาณให้ตระกูลฉีเป็นผู้จำหน่าย เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลฉีจะมียาโลหิตวิญญาณมากเท่าที่ต้องการ”

บุคคลลึกลับหรี่ตา มองผู้นำตระกูลฉี และกล่าวว่า “ผู้นำตระกูลฉี คุณน่าจะรู้ว่าการได้รับสิทธิ์เป็นผู้แทนของยาโลหิตวิญญาณนั้นหมายความว่าอย่างไร ใช่ไหม?”

ดวงตาของผู้นำตระกูลฉีเป็นประกาย หากเขาได้รับยาโลหิตวิญญาณจำนวนมากจริง ๆ ตระกูลฉีแค่หาผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกของตระกูลฉี ถ้าพวกเขาสามารถทะลวงแดนได้ ก็จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาของตระกูลฉี แต่ถึงแม้พวกเขาจะทำไม่สามารถทะลวงแดนได้ สำหรับตระกูลฉีแล้ว ก็ไม่ได้เสียหายมากนัก

เมื่อเป็นเช่นนี้น ตระกูลฉีก็มีความหวังอย่างมากที่จะเป็นตระกูลชั้นนำในโลกใหม่ เมื่อถึงเวลานั้น แม้แต่พันธมิตรพิทักษ์ ก็ยังไม่กล้ายั่วยุตระกูลฉี

ผู้นำตระกูลฉีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “บุคคลที่ดอกเตอร์แบล็กเอ่ยถึงคนนั้น ต้องไม่ธรรมดาใช่ไหม? บอกสิว่าเขาคือใคร?”

ถ้าหยางเฉินอยู่ที่นี่ เขาจะต้องจำได้ว่าบุคคลลึกลับคนนี้เป็นดอกเตอร์แบล็ก

ดอกเตอร์แบล็กยกมุมปากขึ้นและกล่าวว่า “หยางเฉิน ในโลกมนุษย์!”

วันต่อมา

บนเครื่องบินที่บินจากเมืองเยี่ยนตูไปยังจงโจว ร่างชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งข้างหน้าต่าง สายตาของเขามองออกไปนอกหน้าต่าง

บุคคลนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหยางเฉิน

นับตั้งแต่เขาขึ้นเครื่องบิน หยางเฉินก็มองออกไปนอกหน้าต่างตลอด สมองของเขาคิดถึงแต่ภรรยาและลูกสาว

พวกเขาจากกันเป็นเวลาหนึ่งปีกว่าแล้ว

ตอนแรกหยางเฉินคิดว่าไม่นานตนเองก็จะสามารถแก้ปัญหารอบตัวเขาได้ หลังจากนั้นก็ไปรับฉินซีและเสี้ยวเสี้ยวมาอยู่ข้างกายตนเอง แต่นึกไม่ถึงว่าไม่เพียงแค่เขาแก้ปัญหารอบตัวเขาไม่ได้ แต่สถานการณ์ของเขา กลับกลายเป็นยิ่งอันตรายมากขึ้น

ไม่รู้ว่าฉินซีและเสี้ยวเสี้ยวสบายดีไหม?

“พี่ซือซือ ลุงคนนั้นแปลกมาก! ตั้งแต่ขึ้นเครื่องบิน เขาก็มองออกไปนอกหน้าต่างตลอด ไม่รู้ว่าเขากำลังมองอะไรอยู่”

ด้านข้างหยางเฉิน สาวน้อยอายุประมาณยี่สิบปีกระซิบกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านขวาของเธอ

ผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านขวาของสาวน้อย ดูแล้วอายุประมาณยี่สิบสี่ปี เป็นสาวงามใบหน้ารูปแตงโม ดวงตาสีดำคู่โตอยู่ภายใต้คิ้วเรียวดั่งใบหลิว ผมยาวสลวยกระจายอยู่บนไหล่ ร่างกายของเธอประกายรัศมีเหมือนเทพธิดาที่เย่อหยิ่งและเย็นชา

สาวใหญ่และสาวน้อยสองคนนี้ ล้วนเป็นสาวงามระดับแนวหน้า โดยเฉพาะผู้หญิงที่ถูกเรียกว่าพี่ซือซือ สวยกว่าดาราที่อยู่ในภาพยนตร์และโทรทัศน์เสียอีก

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนหยางเฉินจะไม่เห็นสาวงามทั้งสองคนที่นั่งอยู่ข้างตนเอง

ผู้หญิงที่ชื่อซือซือ สังเกตเห็นความแปลกประหลาดของหยางเฉิน และเมื่อเธอได้ยินคำพูดของสาวน้อยแล้ว เธอมองไปที่หยางเฉิน แล้วกระซิบว่า “ดูแล้วเขาอายุแค่ยี่สิบแปดหรือยี่สิบเก้าเท่านั้น จะเป็นลุงได้อย่างไร?”

สาวน้อยแลบลิ้น หลังจากนั้นยื่นมือไปตบแขนของหยางเฉินและกล่าวว่า “เฮ้ ลุง คุณจะไปจงโจวหรือเปล่า?”

เมื่อได้ยินคำพูดของสาวน้อยแล้ว หยางเฉินก็หยุดคิด แล้วมองสาวน้อยที่กำลังมองตนเองอยู่ กล่าวแบบหมดคำพูดว่า “หรือว่าเครื่องบินลำนี้สามารถไปที่อื่นได้?”