ลุงเหอยิ้มด้วยความขมขื่นและส่ายศีรษะ “ลุงจะรู้ชื่อผู้อาวุโสสี่ได้อย่างไร? เรื่องราวทุกอย่างของผู้อาวุโสสี่เป็นเพียงคำบอกเล่าเท่านั้น สำหรับเรื่องที่ว่าเขาอายุน้อยจริงหรือไม่นั้น หลังจากพบผู้อาวุโสสี่แล้ว ถึงจะรู้”
เซี่ยหลินพยักหน้า สีหน้าแดงก่ำ และกล่าวด้วยความตื่นเต้น “ลุงเหอพูดถูก เมื่อพบผู้อาวุโสสี่แล้ว ก็จะรู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน?”
ดวงตาของกู้ซือซือเต็มไปด้วยความคาดหวังเช่นกัน เธอมองทางออกของสนามบินด้วยดวงตาที่รุ่มร้อน
และขณะนี้ มีร่างชายหนุ่มสองคนเดินออกมาจากท่ามกลางฝูงชน
ทันทีที่พวกเขาสองคนปรากฏตัว ผู้บัญชาการของกองยุทธการจงโจวกล่าวเสียงดังว่า “เย่จางกั๋ว ผู้บัญชาการของกองยุทธการจงโจว เป็นตัวแทนของกองยุทธการจงโจว ยินดีต้อนรับผู้อาวุโสสี่!”
หลังจากเย่จางกั๋วกล่าวจบ กองกำลังชั้นนำนับร้อยคนที่อยู่ข้างหลังเขา เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวด้วยความพร้อมเพรียง และกล่าวเสียงดังว่า “ยินดีต้อนรับผู้อาวุโสสี่!”
“ยินดีต้อนรับผู้อาวุโสสี่!”
ขณะนี้ เสียงโห่ร้องต้อนรับผู้อาวุโสสี่ ดังไปทั่วสนามบินนานาชาติจงโจว และดังติดต่อกัน
ทุกคนต่างมองร่างชายหนุ่มสองคนที่อยู่กลางฝูงชนด้วยความตื่นเต้น
ทันทีที่หยางเฉินและหม่าชาวเดินออกจากสนามบิน พวกเขาก็เห็นภาพพวกนี้
กลุ่มผู้ทรงอิทธิพลที่ยืนอยู่ด้านหน้า มีเพียงไม่กี่คนที่รู้จักหยางเฉิน ตอนนี้คนที่อยู่ที่นี่ ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าใครคือผู้อาวุโสสี่ที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน
เย่จางกั๋วเดินไปอยู่หน้ารถยนต์ที่เป็นทะเบียนของกองยุทธการ แล้วเปิดประตูด้วยความนอบน้อม
ขณะนี้ หยางเฉินและหม่าชาวเดินมาถึงแล้ว หยางเฉินพยักหน้าให้เย่จางกั๋ว จากนั้นเขาได้เข้าไปนั่งเบาะหลังของรถ
หลังจากขึ้นรถแล้ว หยางเฉินมองเย่จางกั๋วที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับ และกล่าวว่า “ผู้บัญชาการเย่ ขอบคุณมาก!”
สีหน้าของเย่จางกั๋วเต็มไปด้วยความตื่นเต้น กล่าวด้วยความนอบน้อมว่า “เป็นเรื่องที่ผมสมควรทำ! การที่ผู้อาวุโสสี่มาที่จงโจว เป็นเกียรติของพวกเราชาวจงโจวแล้ว!”
เย่จางกั๋วเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองยุทธการจงโจว ดังนั้นเขาจึงรู้ประวัติความเป็นมาของหยางเฉินเป็นอย่างดี
เมื่อก่อนตอนที่หยางเฉินเป็นเทพสงครามแห่งดินแดนเหนือ เขาเป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอดที่คอยปกป้องคุ้มครองประเทศ ตอนนี้เขาได้กลายเป็นผู้อาวุโสคนที่สี่ของสมาคมผู้อาวุโสจิ่วโจวแล้ว เย่จางกั๋วไม่สงสัยในสถานะหรือความแข็งแกร่งของเขาแม้แต่น้อย
เย่จางกั๋วเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด หลังจากม่านพลังระหว่างโลกมนุษย์และโลกบู๊โบราณล่างถูกทำลายแล้ว และตอนที่เย่จางกั๋วอยู่ในโลกใหม่ที่ชี่ทิพย์หนาแน่ ทำให้เขาทะลวงไปสู่แดนนภาได้อย่างรวดเร็ว
ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฉินแล้ว เขายังคงรู้สึกถึงแรงกดดันที่รุนแรง
เขารู้ว่าความแข็งแกร่งของหยางเฉินเหนือกว่าเขามาก
ไม่ต้องพูดถึงหยางเฉิน แม้แต่หม่าชาวที่อยู่ข้างหยางเฉิน ก็ทำให้เย่จางกั๋วรู้สึกถึงความกดดันพลังบู๊อย่างมาก
ขณะนี้ ในใจของเย่จางกั๋วเต็มไปด้วยความตกใจ นักบูโดที่เก่งขนาดนี้ปรากฏในจิ่วโจวตั้งแต่เมื่อไหร่?
เมื่อก่อนหยางเฉินเป็นเทพสงครามแห่งดินแดนเหนือ ถูกเรียกขานว่าหยางเฉินผู้ไม่เคยแพ้ เขาคนเดียวสามารถเอาชนะคนครึ่งประเทศได้ ส่วนเรื่องที่เขาแข็งแกร่งกว่าตนเองนั้นช่างมันเถอะ แต่ทำไมชายหนุ่มที่อยู่ข้างหยางเฉิน ก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน?
สนามบินนานาชาติจงโจว
เซี่ยหลินมองทิศทางที่รถยนต์กำลังแล่นออกไป ถามกู้ซือซือที่อยู่ด้านข้างว่า “พี่ซือซือ ฉันรู้สึกว่าหลังของชายหนุ่มสองคนนั้นคุ้นมาก”
กู้ซือซือรู้สึกคุ้นกับแผ่นหลังของสองร่างนั้นเล็กน้อย ทันใดนั้นร่างของหยางเฉินก็ปรากฏขึ้นในสมองของเธอ แต่เธอก็ส่ายศีรษะ “ไม่มีทางเป็นเขาหรอก!”
เซี่ยหลินถามด้วยความสงสัย “พี่ซือซือ คุณกำลังพูดอะไร?”
กู้ซือซือส่ายศีรษะและกล่าวว่า “ไม่มีอะไร! ด้านหน้าล้วนเป็นคนของกองยุทธการ พวกเราอยู่ไกลเกินไป ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของผู้อาวุโสสี่ได้”
เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
เมื่อสักครู่ตอนที่ได้ยินลุงเหอบอกว่าผู้อาวุโสสี่หนุ่มมาก เธอมีความคาดหวังอยู่ ถ้าตนเองเข้าตาผู้อาวุโสสี่ มันจะดีแค่ไหน?
เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลบูโดของโลกบู๊โบราณล่างเหล่านั้น ก็จะไม่กล้าละโมบอยากได้ทุกอย่างของตระกูลกู้อีก
เหอหงหยวน เศรษฐีร่ำรวยที่สุดในจงโจว ส่ายศีรษะด้วยความขมขื่น ถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “ตอนแรกต้องการถือโอกาสนี้พบผู้อาวุโสสี่ แต่นึกไม่ถึงว่าพวกเราจะไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะเข้าใกล้เขาด้วยซ้ำ”
เดิมทีการที่เขาพาหลานสาวตนเองมาที่นี่ เพื่อพุ่งเป้าไปที่ผู้อาวุโสสี่ แต่นึกไม่ถึงว่าแม้แต่สถานะของเขาที่เป็นเศรษฐีร่ำรวยที่สุดในจงโจว ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าใกล้เขาด้วยซ้ำ
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น ยังมีสมาคมบูโด และตระกูลชั้นนำอื่น ๆ ในจงโจว ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าใกล้เขาเช่นกัน
ทันทีที่หยางเฉินปรากฏตัว ก็ได้รับการคุ้มกันจากกองกำลังของกองยุทธการจงโจว หยางเฉินปรากฏตัวออกมาพร้อมกับคนมากมาย กระทั่งผู้ทรงอิทธิพลบางคน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่เย่จางกั๋วมาต้อนรับคือใคร
หลานสาวของเหอหงหยวนแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอกล่าวกับเหอหงหยวนด้วยรอยยิ้มว่า “คุณปู่ ในเมื่อพวกเราไม่เจอผู้อาวุโสสี่ ถ้าเช่นนั้นพวกเรากลับกันเถอะ!”
เหอหงหยวนพยักหน้า มองหลานสาวที่สวมแว่นกันแดด แล้วกล่าวว่า “หลานวางใจเถอะ ปู่ต้องหาทางพบผู้อาวุโสสี่ให้ได้ ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสสี่จะไม่ชอบหลาน อย่างน้อยเขาจะช่วยหลานแก้ปัญหาของคุณชายใหญ่แห่งตระกูลฉีได้”
หลังจากได้ยินคำพูดของเหอหงหยวนแล้ว หลานสาวกล่าวด้วยเสียงสะอื้นเล็กน้อยว่า “ขอบคุณค่ะคุณปู่!”
หยางเฉินออกไปจากสนามบินภายใต้การคุ้มกันของกองกำลังของกองยุทธการจงโจว ส่วนผู้ทรงอิทธิพลของจงโจว ทำได้เพียงกลับเท่านั้น
กู้ซือซือมองเซี่ยหลิน แล้วกล่าวว่า “เสี่ยวหลิน อย่ามองอีกเลย พวกเรากลับกันเถอะ!”
ฝั่งหยางเฉิน ตอนนี้เย่จางกั๋วได้ส่งเขามาถึงลานของคฤหาสน์หลังหนึ่งแล้ว
เย่จางกั๋วพาหยางเฉินเดินเข้าไปในลานของคฤหาสน์ และกล่าวด้วยความนอบน้อมว่า “ผู้อาวุโสสี่ ช่วงที่อยู่จงโจว คุณพักอยู่ที่นี่ชั่วคราวก่อน คุณลองดูสิว่าคุณพอใจกับการจัดการของผมหรือไม่? ถ้าไม่พอใจ คุณต้องการอะไรเพิ่มเติม สามารถสั่งได้อย่างเต็มที่!”
หยางเฉินส่ายศีรษะ “ขอบคุณผู้บัญชาการเย่ ผมพอใจที่นี่มาก!”
นี่เป็นคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่บนไหล่เขา คล้ายคฤหาสน์ที่ยอดเมฆาของหยางเฉินในเมืองเยี่ยนตูมาก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่และรูปแบบการตกแต่งของคฤหาสน์
และในระยะหลายกิโลเมตร ก็ไม่มีสิ่งก่อสร้างอื่นใด
ประเด็นสำคัญคือ ชี่ทิพย์ของที่นี่หนาแน่นมาก และเหมาะสำหรับการบำเพ็ญเพียรมาก
เห็นได้ว่าเย่จางกั๋วจัดเตรียมด้วยความตั้งใจ
หยางเฉินถามว่า “ผมได้ยินว่าจงโจวได้จัดตั้งทีมนักบูโดขึ้นมา? หัวหน้าของกองกำลังนี้คือเมิ่งชิงหลัน อดีตเทพสงครามแห่งดินแดนตะวันตก?”
เย่จางกั๋วพยักหน้า กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เทพสงครามเมิ่งลาออกจากตำแหน่งเทพสงครามแห่งดินแดนตะวันตก และขอมาที่จงโจวด้วยตนเอง ตอนนี้ทีมนักบูโดเพิ่งก่อตั้งขึ้น และกำลังสรรหาผู้แข็งแกร่งจากทั่วทิศ”
“มีเทพสงครามเมิ่งอยู่ ตอนนี้ผู้อาวุโสสี่ก็มาอยู่ที่จงโจว และอีกไม่นาน ช่วงเวลาดี ๆ ของตระกูลบู๊โบราณจะสิ้นสุดแล้ว!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่จางกั๋วก็หายไป ความเฉียบขาดประกายอยู่ในดวงตาของเขา กัดฟันและกล่าวว่า “ตั้งแต่ม่านพลังถูกทำลาย ผู้แข็งแกร่งจากตระกูลบู๊โบราณได้เข้ามาตั้งหลักปักฐานในจงโจว โดยมีผู้แข็งแกร่งแดนนภาคอยบัญชาการ ทำให้พวกเขาทำตามอำเภอใจโดยไม่ต้องเกรงกลัวใคร แม้แต่กองยุทธการจงโจวของพวกเรา ก็ไม่สามารถปราบพวกเขาได้”
“แม้แต่รองผู้บัญชาการของกองยุทธการจงโจวของพวกเรา ยังถูกผู้แข็งแกร่งแดนนภาของตระกูลบู๊โบราณทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของหยางเฉินเคร่งขรึมอย่างสิ้นเชิง และเจตนาฆ่าที่รุนแรงประกายอยู่ในดวงตา “พวกเขาไม่เห็นแม้แต่รองผู้บัญชาการของกองยุทธการจงโจวอยู่ในสายตา?”