อาคารที่สูงที่สุดในจงโจว โรงแรมจงโจว ดาดฟ้าชั้นบนสุด
นักบูโดมากกว่าสิบคนที่มีลมปราณอันแข็งแกร่งกำลังยืนอยู่บนยอดเขาจงโจว ทุกคนล้วนปล่อยลมปราณบูโดที่น่ากลัวออกมา
ผู้มีอำนาจตัดสินใจของของตระกูลบู๊โบราณทั้งห้าที่นำโดย สวีเจิ้นฮั๋วกำลังยืนอยู่ที่ขอบห้องใต้หลังคาและจ้องมองลงไป แม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นอะไรเลย แต่พวกเขาก็ยังมองลงมา
“หยางเฉิน ในที่สุดนายก็มา!”
สวีเจิ้นฮั๋วเหล่ไปที่ด้านล่าง มุมปากของเขาผุดรอยยิ้มโหดร้ายขึ้นมา
เฉินจื้อจง มองลงไปและพูดว่า “เจ้าหนุ่มนี่พลังไม่ธรรมดา ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้าสมาคมตู้อยากเอาชีวิตของเขา ฉันคงอยากจะชักชวนให้เขาเข้าร่วมตระกูลเฉิน”
ไป๋หลี่เฉิงจี๋ หัวเราะเยาะ “ผู้ชายคนนี้หยิ่งยโสอย่างมาก แม้แต่คำเชิญของหัวหน้าสมาคมตู้ให้เข้าร่วมพันธมิตรพิทักษ์และกลายเป็นผู้จอมพลคนที่สิบก็ยังถูกเขาปฏิเสธ”
เจียงอานจวินเย้ยหยันและพูดอย่างเย็นชา “เขาก็แค่อยู่ในแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น หากไม่ใช่เพราะครอบครองจิตวิญญาณของเทพมาร เขาก็เป็นแค่มดตุ่นตัวหนึ่ง”
“ต่อให้เขาเป็นบูโดอัจฉริยะแล้วไง? มีใครบ้างในพวกเราที่ไม่เคยฆ่าบูโดอัจฉริยะ?”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด หลายคนก็หัวเราะออกมา
ในโลกบู๊โบราณนั้นไม่ได้มีแค่เพียงโลกบู๊โบราณล่างเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโลกบู๊โบราณกลางและโลกบนที่ยึดความแข็งแกร่งเป็นหลัก มีบูโดร้ายกาจแล้วยังไง? หากกล้าขัดคำสั่งของผู้แข็งแกร่งตระกูลชั้นนำพวกนั้น จุดจบก็มีแค่ความตาย
ยิ่งไปกว่านั้น ที่หยางเฉินขบถใส่ยังเป็นกองกำลังที่ใหญ่ที่สุดในโลกบู๊โบราณ ซึ่งก็คือหัวหน้าสมาคมพันธมิตรพิทักษ์
ที่ประตูโรงแรมจงโจว หยางเฉินก้าวลงจากรถPhaetonด้วยท่าทีติดดินและมองขึ้นไปบนยอดตึก
“ห้าแดนนภาขั้นสองชั้นยอด และห้าแดนนภาขั้นสองชั้นปลาย ยังมีอีกห้าคน คนหนึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอด และอีกสี่คนคือแดนนภาขั้นสองชั้นต้น”
ดวงตาของหยางเฉินฉายรังสีเข่นฆ่าอย่างรุนแรงมากขึ้น ความแข็งแกร่งขนามนี้ล้วนมาเพื่อจัดการกับเขา ช่างลงทุนลงแรงครั้งใหญ่จริงๆ
หากเขาได้พบกับทีมที่แข็งแกร่งเช่นนี้ก่อนวันนี้ เขาก็คงไม่มีโอกาสที่จะชนะเลยสักนิด แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป
ในห้องประชุมชั้นบนสุดของโรงแรมจงโจว เย่จางกั๋ว, เมิ่งชิงหลัน และคนอื่น ๆ ต่างก็เปลี่ยนสีหน้า
พวกเขาทั้งหมดรู้สึกถึงความกดดันจากชั้นบนสุด ผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสองสิบกว่าแบบนี้ หากลองหาดูทั้งโลกนี้ นอกจากสมาคมผู้อาวุโสแล้ว ก็คงไม่มีการดำรงอยู่เช่นนั้นอีก
“ผู้บัญชาการเย่!”
เมิ่งชิงหลันมองไปที่เย่จางกั๋วซึ่งอยู่ข้างๆ เธอและพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึมว่า “ถ้าหาก…”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะพูดจบ เย่จางกั๋วก็ขัดขึ้น “ไม่มีถ้าหาก! ตอนนี้ เธอรีบนำกองกำลังนักบูโดและไปกับฉัน!”
ใบหน้าของ เมิ่งชิงหลัน เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
“ผู้บัญชาการเย่! ถ้าพวกเราจากไป แล้วผู้อาวุโสสี่จะทำอย่างไร? หรือว่า คุณจะปล่อยให้ผู้อาวุโสสี่จัดการกับเรื่องนี้เพียงลำพังใช่หรือไม่?”
เมิ่งชิงหลัน ถามเสียงดัง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ
แม้ว่าเย่จางกั๋ว จะไม่ได้บอกเธอว่าผู้อาวุโสสี่คือใคร แต่เธอก็เดาในใจแล้วว่าถ้าเป็นคนคนนั้นจริงๆ เธอก็จะจากไปไม่ได้
เย่จางกั๋วเลิกคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเราต้องไปตอนนี้ ยังมีสิ่งอื่นที่เราต้องทำ และสิ่งเหล่านี้เป็นคำสั่งที่ออกโดยผู้อาวุโสสี่!”
พูดจบก็ไม่รอให้ เมิ่งชิงหลัน พูดต่อ เย่จางกั๋ว ยืนขึ้น สายตามองไปที่ผู้คนในห้องประชุมและพูดออกมาดัง ๆ ว่า “ตอนนี้ทุกท่านรีบออกจากโรงแรมจงโจวอย่างรวดเร็ว”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ เย่จางกั๋ว พูด ในงานก็มีเสียงอื้ออึงดังลั่นทันที
“ผู้บัญชาการเย่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่? คุณไม่ได้บอกว่าตอนนี้ผู้อาวุโสสี่จะมาเวลาทุ่มนึงหรอกหรือ? ตอนนี้เป็นเวลาทุ่มนึงแล้ว ทำไมผู้อาวุโสสี่ถึงไม่ปรากฏตัว?”
“ใช่ คุณเพิ่งบอกไม่ใช่หรือว่าตอนทุ่มนึง ผู้อาวุโสสี่จะอ่านกฎใหม่ให้กับห้าตระกูลบํโบราณในจงโจว? นี่เป็นเวลาทุ่มนึงแล้ว ผู้มีอำนาจตัดสินใจของตระกูลบู๊โบราณและผู้อาวุโสสี่ยังไม่มา เกิดอะไรขึ้น?”
……
สักพัก ผู้คนก็เริ่มพูดคุยกัน
นับตั้งแต่ม่านพลังทลายลง ผู้แข็งแกร่งของตระกูลบู๊โบราณชั้นนำในโลกบู๊โบราณล่างก็ได้เข้ามาตั้งรกรากอยู่ในจงโจว และนับแต่นั้นมาพวกเขาก็ได้รับความอัปยศอดสูมากมายจากตระกูลบู๊โบราณ
ทั้งๆ ที่กำลังเห็นความหวังอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่ใครจะคิดว่าพวกเขาจะไม่เห็นแม้แต่ใบหน้าของผู้อาวุโสสี่ อีกทั้ง เย่จางกั๋ว ยังขอให้พวกเขาออกไปด้วย
เย่จางกั๋ว เลิกคิ้วขึ้นทันทีและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผู้อาวุโสสี่ได้ติดต่อกับผู้มีอำนาจตัดสินใจของตระกูลบู๊โบราณทั้งห้าแล้ว ตอนนี้ให้ทุกคนจากไปถือเป็นความหวังดี หากพวกนายไม่จากไปแล้วเกิดอุบัติเหตุใดๆ ก็อย่าได้โทษพวกเรา”
จากนั้น เย่จางกั๋ว ก็จากไป
เมิ่งชิงหลัน กัดริมฝีปากสีแดงของเธอและจ้องมองที่เงาร่างเย่จางกั๋วที่เดินจากไปจนหายลับ จากนั้นเธอก็ออกคำสั่ง “กองกำลังนักบูโดตามฉันมา!”
ในเมื่อเป็นคำสั่งของผู้อาวุโสสี่ เธอจึงต้องจากไปอย่างเสียไม่ได้
ในห้องประชุมเหลือเพียงเศรษฐีและผู้มีอำนาจในท้องถิ่นในจงโจวเท่านั้นที่มองหน้ากัน
ในฝูงชน ผู้หญิงสวมแว่นกันแดดข้างๆเหอหยวนหงเศรษฐีอันดับหนึ่งของจงโจวกล่าวว่า “คุณปู่ เราไปกันเถอะ!”
เหอหยวนหงถอนหายใจและพูดว่า “ช่างเถอะช่างเถอะ เดินฉันคิดอยากให้เธอรู้จักผู้อาวุโสสี่ ตอนนี้เกรงว่าจะไม่มีโอกาสแล้ว ไปกันเถอะ!”
อีกด้านหนึ่ง ชายชราคนหนึ่งที่นั่งขนาบข้างด้วยหญิงสาวสวย ก็คือ กู้ซือซือ และ เซี่ยหลิน ส่วนชายชราก็คือกู้ไท่ชู ผู้นำตระกูลกู้
เซี่ยหลิน มองไปที่ กู้ไท่ชู และพูดว่า “คุณปู่ ผู้บัญชาการเย่และหัวหน้าเมิ่งล้วนออกไปแล้ว พวกเราก็ไปกันเถอะ!”
ดวงตาของ กู้ไท่ชู เป็นประกาย ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดว่า “พวกเราไปรอข้างล่างกันเถอะ! ผู้อาวุโสสี่ต้องออกมาแน่!”
พูดไป เขาก็พากู้ซือซือ และ เซี่ยหลินออกจากห้องประชุม
“พี่ซือซือ คุณดูสิ ที่อยู่ในลิฟต์คือหยางเฉินไม่ใช่หรือ?”
พวกอ้ายหลินที่เพิ่งออกจากห้องประชุม จู่ๆอ้ายหลินก็ชี้ไปที่ลิฟต์ชมวิวโปร่งใสที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา ในเวลานี้มีเงาคนหนุ่มคนหนึ่งอยู่ และอ้ายหลินก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ
กู้ซือซือ หันไปมองโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อเธอมองผ่านไป ลิฟต์ก็ขึ้นแล้ว ดังนั้นเธอจึงมองเห็นได้เฉพาะด้านล่างของลิฟต์ชมวิวเท่านั้น
กู้ซือซือ กล่าวว่า “หยางเฉินเป็นเพียงนักท่องเที่ยวจากที่อื่นเท่านั้น เขาจะมาปรากฏตัวในโรงแรมจงโจวได้อย่างไร? เธอต้องตาฝาดไปแน่”
กู้ไท่ชู รีบถามถึงหยางเฉิน กู้ซือซือ เล่าให้ฟังว่าเธอพบกับหยางเฉินบนเครื่องบินได้อย่างไร
กู้ไท่ชูดวงตาเป็นประกายทันทีและพูดว่า “พวกเราอยู่ที่ชั้นบนสุดของโรงแรมจงโจวแล้ว หากลิฟต์กำลังขึ้นไป ก็ต้องเป็นชั้นดาดฟ้า!”
“ตอนที่เสี่ยวหลินเห็นลิฟต์กำลังขึ้นไป ในนั้นมีคนคนหนึ่งอยู่ อีกทั้งคนผู้นี้ยังเด็กมาก ถ้าฉันเดาไม่ผิด คนคนนี้ต้องเป็นผู้อาวุโสสี่!”
ในฐานะผู้นำตระกูลกู้เขาย่อมมีประสบการณ์มากกว่าคนหนุ่มสาวอย่างอ้ายหลินและ กู้ซือซือ
เมื่อกี้นี้ตอนที่อยู่ในห้องประชุม เขาก็รู้สึกได้ว่ามีผู้แข็งแกร่งที่มีลมปราณอันน่ากลัวอยู่บนดาดฟ้า ส่วน เย่จางกั๋ว และ เมิ่งชิงหลัน ก็พาคนออกไปทันที เห็นได้ชัดว่าได้รับคำสั่งแล้ว
เมื่อกี้นี้ก่อนที่เย่จางกั๋วออกไปจากห้องประชุม เขาก็บอกแล้วว่าผู้อาวุโสสี่ได้ติดต่อกับผู้มีอำนาจตัดสินใจของตระกูลบู๊โบราณในเมืองจงโจวแล้ว และเมื่อรวมคำเตือนของ เย่จางกั๋ว ที่ให้ทุกคนออกไป กู้ไท่ชู ก็มั่นใจอย่างมากว่าผู้อาวุโสสี่และมีอำนาจตัดสินใจของตระกูลบ๊โบราณต้องอยู่ที่ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมจงโจว
ทันใดนั้นเขาก็มองไปที่ กู้ซือซือ และพูดอย่างจริงจังว่า ” ซือซือ บอกฉันเกี่ยวกับชายหนุ่มที่เธอพบบนเครื่องบินมาอย่างละเอียด!”