บทที่ 2008

ซ่งเทียนหมิงที่นอนอยู่บนเตียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “หรงวี่ ฉันถึงบ้านแล้ว ใช่แล้ว วางใจเถอะ ไอ้แก่ไม่ได้
สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติอะไร เขาาจจะอดหลับอดนอนมานานเกินไปร่างกายไม่สบาย กลับไปพักผ่อนที่ห้องแล้ว”

ในเวลานี้ ไมโครโฟนแบบมีทิศทางความเที่ยงตรงสูง ก็จับเสียงของซ่งหรงวี่ในโทรศัพท์ได้เช่นก้น เขาเอ่ยปากถามว่า: “พ่อ พ่อเตรียมที่
จะวางยาให้ไอ้แก่เมื่อไหร่เหรอ?”

ซ่งเทียนหมิงพูดด้วยรอยยิ้ว่า: “แกอย่าเพิ่งใจร้อน ตอนนี้ไม่มีเวลาที่เหมาะสม เมื่อกี้นี้ฉันสั่งให้พ่อครัวตุ๋นรังนกให้ปู่ของแกหนึ่งชาม
เดี๋ยวฉันจะเอาไว้ก่อน หลังจากที่ใส่ยาเข้าไปแล้ว ค่อยส่งไปที่ห้องของเขา ดูเขาดื่มลงไปด้วยตัวเอง!”

ซ่งหรงวี่รีบพูดว่า: “พ่อ ยานี้นานแค่ไหนจะเห็นผล?”

ซ่งเทียนหมิงพูดว่า: “เวลาบีบคั้น ฉันจะเพิ่มปริมาณยาให้ไอ้แก่มากขึ้น น่าจะหลังจากที่เขาทานไปภายในสองชั่วโมง ก็จะมีผลขึ้นมา
แล้ว!”

ซ่งหรงวี่พุดอย่างตื่นเต้นอย่างไม่มีสิ้นสุดว่า: “งั้นก็ดีมากจริงๆ! รอไอ้แก่กลายเป็นรคอัลไซเมอร์ เรื่องของตระกูลซ่ง เขาก็ไม่มีโอกาส
ได้ที่จะสั่งการได้อีกแล้ว!”

ซ่งเทียนหมิงอือคำหนึ่ง และพูดว่า: “หรงวี่ คืนนี้ แกพักผ่อนให้เต็ที่เสียก่อน ถ้าหากเวลานั้นเย่เฉินมีเรื่องอะไรที่จะสั่งการให้แกทำ งั้นแก
ก็ทำตามที่เขาสั่งการอย่างว่าง่าย อย่าได้ทำให้เขามีความสงสัยอะไรก็ตามอย่างเด๊ดขาด รอหลังจากที่ทางด้านฉันทำให้ไอ้แก่กลายเป็นโรคอัล
ไซเมอร์ ฉันก็จะโทรหาแกให้แกกลับมา ถึงเวลานั้นแกก็บินตรงกลับมาที่เมืองจินหลิงก็ได้แล้ว”

ซ่งหรงวี่พูดด้วยความตื่นเต้นว่า: “ได้ครับพ่อ งั้นผมจะรอข่าวดีของพ่อนะครับ!”

เมื่อคุณท่านซ่งได้ยินถึงตรงนี้ เพียงแค่รู้สึกกระหืดกระหอบอย่างฉับพลัน!

“จริงๆด้วย!”

“ไอ้สารเลวนี้ต้องการทำร้ายฉันจริงๆด้วย!”

“ฉันเป็นพ่อแท้ๆของเขา! ตอนนี้เขาเพื่อทรัพย์สินแค่นี้ จะวางยาพิษฉัน!”

คุณท่านซ่งพูดถึงตรงนี้ ก็โกรธจนสั่นเทาไปทั้งร่างกาย

เขาลุกขึ้นมา ชี้ไปที่ซ่งเทียนหมิงบนหน้าจอ และตวาดด้วยความโกรธเป็นอย่างมาก: “ฉันซ่งจี่โม่ตลอดชีวิตไม่เคยกระทำเรื่องผิด

มโนธรรมมาก่อน คาดไม่ถึงว่าจะมีลูกชายที่โฉดชั่วอย่างสัตว์ร้าย! ถ้ารู้ก่อนว่าเขาจะเป็นเดรัจฉานแบบนี้ ฉันควรจะบีบคอเขาให้ตายอยู่ในผ้าห่อ
ทารกตั้งนานแล้ว!”

“ยังมีไอ้สารเลวอย่างซ่งหร่งวี่คนนั้นด้วย! ตั้งแต่ว้นที่เขาเกิดมา ฉันก็รักทะนุกนอมเป็นอย่างมาก คาดไม่ถึงว่าเขาก็เพื่อเงินแล้ว ทำสิ่งที่
โหดร้ายเถื่อนยิ่งกว่าสัตว์เช่นนี้ออกมา!”

ใบหน้าของลุงวีก็เต็มไปด้วยความตกใจกับความโกรธไม่แพ้กัน แต่ว่าเขายังรีบเข้ามาประคองคุณท่านซ่งไว้ และพูดอย่างจริงจังว่า: “คุณ
ท่าน เรื่องสำคัญเร่งด่วนตอนนี้ไม่ใช่โกรธ แต่คือต้องคิดว่าจะรับมือยังไง!”

ชะงักนิ่งชั่วครู่ ลุงวีก็พูดว่า: “อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง แค่งนกที่เขาเตรียมไว้ให้คุณอย่างเดียว คุณก็อย่าได้ทานอย่างเด็ดขาด!”
“ไม่เพียงแต่ไม่ทาน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเรายังต้องตื่นตัวเป็นอย่างมาก ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป อาหารและเครื่องดื่มทั้งหมด ก็ต้องป้องกันอย่าง
เข้มงวด ต้องไม่ปล่อยให้เขาสามารถที่จะใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ได้”

คุณท่านซ่งส่ายหน้าด้วยความเศร้า และโบกมือแล้วพูดว่า: “เหล่าวิ่ ในเมื่อเขามีใจที่จะทำร้ายฉันแล้ว หากฉันยังป้องกันอย่างเข้มงวด
ขนาดนี้ ตรงกันข้ามกันจะทำให้ขาสังกตห็นว่าถูกจับได้แล้วดังนั้นก็จะกลายป็นชั่ช้าสามานย์อย่างสุดขีดมากยิ่งขึ้น! หากฉันยังไม่ปล่อยให้
เขาประสบความสำเร็จ เขาอาจจะไม่เพียงต้องการทำฉันให้กลายเป็นโรคลไซเมอร์ แต่อยากจะฆ่าฉันให้ตายทั้งเป็น”

ลุงวีรีบถามว่าเขาว่า: “คุณท่าน คุณตั้งใจจะปล่อยให้พวกเขาประสบความสำเร็จและซักใยกับพวกเขาเหรอ?”

คุณท่านซ่งพยักหน้า และพูดอย่างจริงว่า: “เหล่าวี่ ฉันมียาอายุวัฒนะที่อาจารย์เย่ให้มา อาจารย์เย่กำชับฉันเป็นพิเศษ ใช้มันมาต้านทาน
พิษ คิดดูแล้วอาจารย์เย่ไม่น่าจะหลอก ดังนั้นฉันก็จะทำแผนซ้อนแผนให้กับพวกเขาก็พอแล้ว”

เมื่อลุงวีได้ยินคำพูดนี้ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และถอนหายใจพูดว่า”โชคดีที่มีอาจารย์เย!”

คุณท่านช่งก็อดไม่ได้ที่ถอนหายใจ: “เฮ้อ! นั่นนะสิ! หากไม่ใช่มีอาจารย์เย่อยู่ คนแก่อย่างฉัน ไม่รู้ว่าตายไปกี่ครั้งแล้ว!”

ลุงวีพยักหน้าเบาๆ และพูดว่า: “คุณท่าน คุณทำความดีมาตลอดชีวิต อาจารย์เย่อาจจะเป็นสวรรค์ประทานมาปกป้องให้คุณปลอดภัย
ตลอดชีวิต”

คุณท่านซ่งยิ้มอย่างขมขื่น และกำชับว่า: “เหล่าวี หากฉันแผนซ้อนแผน ก็จำเป็นต้องเล่นละครเป็นผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ ถึงเวลานั้น นาย
อย่าเปิดเผยข้อบกพร่องอะไรก็ตามออกมา!”

“ไอ้เดรัจฉานสองตัวนั้นรู้ว่นายเป็นคนที่ฉันไใจมากที่สุด หากพวกเขาถามเรื่องอะไรก็ตามของฉัน นายต้องรู้ที่จะใช้สติปัญญาไกล่
เกลี่ยกับพวกเขา!”

“สิ่งที่ควรพูดก็พูดได้ ต้องทำเป็นรู้อะไรก็พูดออกมาให้ได้ ให้พวกเขารู้ว่านายภักดิ์กับพวกเขาเป็นอย่างมาก!”
“แต่ว่า สิ่งที่พูดไม่ได้ นายห้ามพูดออกมาแม้แต่คำเดียว!”

คุณท่านซ่งส่ายหน้าด้วยความเศร้า และโบกมือแล้วพูดว่า: “เหล่าวิ่ ในเมื่อเขามีใจที่จะทำร้ายฉันแล้ว หากฉันยังป้องกันอย่างเข้มงวด
ขนาดนี้ ตรงกันข้ามกันจะทำให้ขาสังกตห็นว่าถูกจับได้แล้วดังนั้นก็จะกลายป็นชั่ช้าสามานย์อย่างสุดขีดมากยิ่งขึ้น! หากฉันยังไม่ปล่อยให้
เขาประสบความสำเร็จ เขาอาจจะไม่เพียงต้องการทำฉันให้กลายเป็นโรคลไซเมอร์ แต่อยากจะฆ่าฉันให้ตายทั้งเป็น”

ลุงวีรีบถามว่าเขาว่า: “คุณท่าน คุณตั้งใจจะปล่อยให้พวกเขาประสบความสำเร็จและซักใยกับพวกเขาเหรอ?”

คุณท่านซ่งพยักหน้า และพูดอย่างจริงว่า: “เหล่าวี่ ฉันมียาอายุวัฒนะที่อาจารย์เย่ให้มา อาจารย์เย่กำชับฉันเป็นพิเศษ ใช้มันมาต้านทาน
พิษ คิดดูแล้วอาจารย์เย่ไม่น่าจะหลอก ดังนั้นฉันก็จะทำแผนซ้อนแผนให้กับพวกเขาก็พอแล้ว”

เมื่อลุงวีได้ยินคำพูดนี้ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และถอนหายใจพูดว่า”โชคดีที่มีอาจารย์เย!”

คุณท่านช่งก็อดไม่ได้ที่ถอนหายใจ: “เฮ้อ! นั่นนะสิ! หากไม่ใช่มีอาจารย์เย่อยู่ คนแก่อย่างฉัน ไม่รู้ว่าตายไปกี่ครั้งแล้ว!”

ลุงวีพยักหน้าเบาๆ และพูดว่า: “คุณท่าน คุณทำความดีมาตลอดชีวิต อาจารย์เย่อาจจะเป็นสวรรค์ประทานมาปกป้องให้คุณปลอดภัย
ตลอดชีวิต”

คุณท่านซ่งยิ้มอย่างขมขื่น และกำชับว่า: “เหล่าวี หากฉันแผนซ้อนแผน ก็จำเป็นต้องเล่นละครเป็นผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ ถึงเวลานั้น นาย
อย่าเปิดเผยข้อบกพร่องอะไรก็ตามออกมา!”

“ไอ้เดรัจฉานสองตัวนั้นรู้ว่นายเป็นคนที่ฉันไใจมากที่สุด หากพวกเขาถามเรื่องอะไรก็ตามของฉัน นายต้องรู้ที่จะใช้สติปัญญาไกล่
เกลี่ยกับพวกเขา!”

“สิ่งที่ควรพูดก็พูดได้ ต้องทำเป็นรู้อะไรก็พูดออกมาให้ได้ ให้พวกเขารู้ว่านายภักดิ์กับพวกเขาเป็นอย่างมาก!”

“แต่ว่า สิ่งที่พูดไม่ได้ นายห้ามพูดออกมาแม้แต่คำเดียว!”

คุณท่านซ่งส่ายหน้าด้วยความเศร้า และโบกมือแล้วพูดว่า: “เหล่าวิ่ ในเมื่อเขามีใจที่จะทำร้ายฉันแล้ว หากฉันยังป้องกันอย่างเข้มงวด
ขนาดนี้ ตรงกันข้ามกันจะทำให้ขาสังกตห็นว่าถูกจับได้แล้วดังนั้นก็จะกลายป็นชั่ช้าสามานย์อย่างสุดขีดมากยิ่งขึ้น! หากฉันยังไม่ปล่อยให้
เขาประสบความสำเร็จ เขาอาจจะไม่เพียงต้องการทำฉันให้กลายเป็นโรคลไซเมอร์ แต่อยากจะฆ่าฉันให้ตายทั้งเป็น”

ลุงวีรีบถามว่าเขาว่า: “คุณท่าน คุณตั้งใจจะปล่อยให้พวกเขาประสบความสำเร็จและซักใยกับพวกเขาเหรอ?”

คุณท่านซ่งพยักหน้า และพูดอย่างจริงว่า: “เหล่าวี่ ฉันมียาอายุวัฒนะที่อาจารย์เย่ให้มา อาจารย์เย่กำชับฉันเป็นพิเศษ ใช้มันมาต้านทาน
พิษ คิดดูแล้วอาจารย์เย่ไม่น่าจะหลอก ดังนั้นฉันก็จะทำแผนซ้อนแผนให้กับพวกเขาก็พอแล้ว”

เมื่อลุงวีได้ยินคำพูดนี้ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และถอนหายใจพูดว่า”โชคดีที่มีอาจารย์เย!”

คุณท่านช่งก็อดไม่ได้ที่ถอนหายใจ: “เฮ้อ! นั่นนะสิ! หากไม่ใช่มีอาจารย์เย่อยู่ คนแก่อย่างฉัน ไม่รู้ว่าตายไปกี่ครั้งแล้ว!”

ลุงวีพยักหน้าเบาๆ และพูดว่า: “คุณท่าน คุณทำความดีมาตลอดชีวิต อาจารย์เย่อาจจะเป็นสวรรค์ประทานมาปกป้องให้คุณปลอดภัย
ตลอดชีวิต”

คุณท่านซ่งยิ้มอย่างขมขื่น และกำชับว่า: “เหล่าวี หากฉันแผนซ้อนแผน ก็จำเป็นต้องเล่นละครเป็นผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ ถึงเวลานั้น นาย
อย่าเปิดเผยข้อบกพร่องอะไรก็ตามออกมา!”

“ไอ้เดรัจฉานสองตัวนั้นรู้ว่นายเป็นคนที่ฉันไใจมากที่สุด หากพวกเขาถามเรื่องอะไรก็ตามของฉัน นายต้องรู้ที่จะใช้สติปัญญาไกล่
เกลี่ยกับพวกเขา!”

“สิ่งที่ควรพูดก็พูดได้ ต้องทำเป็นรู้อะไรก็พูดออกมาให้ได้ ให้พวกเขารู้ว่านายภักดิ์กับพวกเขาเป็นอย่างมาก!”

“แต่ว่า สิ่งที่พูดไม่ได้ นายห้ามพูดออกมาแม้แต่คำเดียว!”

“โดยเฉพาะการมีอยู่ของระบบตรวจตราภายในนี้ ห้ามให้พวกเขารู้เด็ดขาด เข้าใจมั้ย?”