บทที่ 2111 ลงโทษด้วยกฎใหม่

The king of War

The king of War บทที่ 2111 ลงโทษด้วยกฎใหม่

เมื่อเห็นสีหน้าที่สงบของหยางเฉิน สีหน้าของไป๋หลี่จื้อเหอก็น่าเกลียดยิ่งขึ้น

“คุณหยาง ยังไงซะ ที่นี่ก็เป็นสาขาของราชวงศ์ไป๋หลี่ของผมในจงโจว ถ้าให้คนนอกบุกทะลุแดนในอาณาเขตของเรา ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไป มันจะไม่ดีต่อชื่อเสียงของราชวงศ์ไป๋หลี่ของเรานะ”

ไป๋หลี่จื้อเหอพูดด้วยใบหน้าเย็นชา

หยางเฉินหัวเราะอย่างเย็นชา และพูดอย่างเย้ยหยัน”สถานที่ในโลกมนุษย์ กลายเป็นดินแดนของโลกบู๊โบราณล่างของคุณตั้งแต่เมื่อใด?”

ไป๋หลี่จื้อเหอกล่าวว่า”เราซื้อคฤหาสน์หลังนี้จากตระกูลถงโดยการเอาทรัพยากรการฝึกฝนของเราเข้าแลก นอกจากนี้ ตอนนี้ยังมีโลกมนุษย์กับโลกบู๊โบราณล่างเหรอ?ม่านพลังพังทะลายไปแล้ว สองโลกรวมเข้าเป็นโลกใหม่แล้ว”

หยางเฉินมองไปที่จางจี้และถามว่า”มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?”

จางจี้เย้ยหยัน มองไปที่ไป๋หลี่จื้อเหอด้วยความโกรธและพูดว่า”พวกคุณคิดว่าแค่เอาหินอาถรรพ์ราคาถูกๆในโลกบู๊โบราณล่าง ก็สามารถแลกเปลี่ยนคฤหาสน์ขนาดใหญ่เช่นนี้กับตระกูลถงเหรอ?ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณขู่เข็ญ ตระกูลถงจะยอมส่งมอบคฤหาสน์นี้ด้วยหินหินอาถรรพ์ระดับต่ำหนึ่งร้อยก้อนได้อย่างไร?”

หลังจากได้ยินคำพูดของจางจี้ หยางเฉินก็ยิ่งโกรธมากขึ้น

ตอนนี้ในแหวนเก็บของของเขา มีหินอาถรรพ์ระดับต่ำหลายล้านก้อน ส่วนราชวงศ์ไป๋หลี่ซื้อคฤหาสน์ที่มีราคาสูงนี้ด้วยหินอาถรรพ์ระดับต่ำเพียงหนึ่งร้อยก้อนเท่านั้น

จางจี้กล่าวต่อไปว่า”เท่าที่ผมรู้ ในโลกบู๊โบราณล่าง แม้แต่ครอบครัวที่ต่ำต้อยที่สุดก็ยังมีหินอาถรรพ์ระดับต่ำหลายร้อยก้อน”

“พวกคุณเอาหินอาถรรพ์ระดับต่ำหนึ่งร้อยก้อน แลกกับคฤหาสน์อันล้ำค่า นี่ไม่ใช่การปล้น มันคืออะไร?”

สีหน้าของไป๋หลี่จื้อเหอน่าเกลียดมาก เขาคิดไม่ถึงว่า จางจี้จะรู้เรื่องนี้มากขนาดนี้

“รองผู้บัญชาการจาง พูดแบบนี้ไม่ได้นะ หินอาถรรพ์ระดับต่ำหนึ่งร้อยก้อนนั้น ใช่ มันไม่มีค่าอะไรมากในโลกบู๊โบราณล่าง แต่สำหรับนักบูโดในโลกมนุษย์ กลับเป็นแหล่งทรัพยากรย์ฝึกฝนชั้นยอด”

ไป๋หลี่จื้อเหอพูดด้วยใบหน้าเย็นชา”เราไม่ได้ใช้กำลังในการข่มขู่ตระกูลถงตรงกันข้าม ตระกูลถงกลับมีความสุขมากเพราะพวกเขาได้รับหินอาถรรพ์ระดับต่ำหนึ่งร้อยก้อน ดังนั้นพวกเขาจึงมอบคฤหาสน์นี้ให้กับราชวงศ์ไป๋หลี่ของเรา”

“ใช่เหรอ?”

จางจี้หัวเราะอย่างเย็นชา”บังเอิญจัง ภรรยาของผมเป็นลูกสาวของผู้นำตระกูลถง คุณต้องการให้ผมโทรหาพ่อตาเพื่อยืนยันเรื่องนี้ไหม?”

ไป๋หลี่จื้อเหอตกตะลึง เดิมที เขาคิดว่าใช้คำพูดแบบนี้ในการหลอกเขา แต่คิดไม่ถึงว่า จางจี้จะเป็นลูกเขยของผู้นำตระกูลถง เมื่อเห็นว่าไป๋หลี่จื้อเหอไม่พูดอีก หยางเฉินจึงพูดกับจางจีว่า”จางจี คุณบุกทะลุได้เลย ผมจะเป็นผู้พิทักษ์ให้คุณเอง!”

“ครับ!”

จางจี้ตอบอย่างรวดเร็ว

หลังจากพูดจบ เขาหยิบยาเม็ดที่หยางเฉินมอบให้โดยไม่ลังเล และกลืนมันลงไปในอึกเดียว

ขณะที่เขากินยาเม็ด ออร่าบูโดอันทรงพลังก็แผ่ซ่านออกมาจากร่างของจางจี

ทันใดนั้น อำนาจฟ้าก็ระเบิดลงมาจากฟ้า ปกคลุมคฤหาสน์ทั้งหมดโดยตรง

สีหน้าของไป๋หลี่จื้อเหอน่าเกลียดมาก หากตระกูลบู๊โบราณใหญ่อื่นๆรู้ว่า จางจี้ได้ประสบความสำเร็จในการบุกทะลวงสู่แดนนภาในราชวงศ์ไป๋หลี่ จะต้องเอาเรื่องนี้มาหาเรื่องแน่นอน

หลายตระกูลในโลกบู๊โบราณ ภายนอกดูเหมือนไม่มีความขัดแย้งใดๆ แต่จริงๆแล้วพวกเขามีปัญหากันอย่างต่อเนื่อง

ตอนนี้ พลังม่านพังทลาย เป็นช่วงเวลาที่เซนซิทีฟ เมื่อใครก็ตามที่มีใครจับเรื่องนี้ไม่ยอมปล่อย ราชวงศ์ไป๋หลี่จะลำบากมาก แม้แต่ในพันธมิตรพิทักษ์ ก็ไม่สามารถพูดให้ชัดเจน

แต่ว่า ไป๋หลี่จื้อเหอไม่สามารถหยุดเขาได้เลย

หลังจากรู้สึกว่าลิขิตสวรรค์กำลังจะลงมา จางจี้ก็รีบออกจากวิลล่าและออกไปข้างนอก

ลิขิตสวรรค์ห้ามถูกปิดกั้น มิฉะนั้น จะนำผลข้างเคียงอย่างใหญ่หลวงมาสู่ผู้ที่กำลังฝ่าฟันภัยพิบัติสวรรค์ ถ้ามันร้ายแรงหน่อย ก็จะตายภายใต้ลิขิตสวรรค์ เบาหน่อยก็จะได้รับบาดเจ็บสาหัส หากร้ายแรงหน่อย บูโดก็จะถูกทำลาย และในชีวิตนี้จะไม่มีทางบุกทะลุสู่แดนนภาอีก

ไป๋หลี่จื้อเหอเห็นว่าเขาไม่สามารถขัดขวางจางจี้บุกทะลุได้ ดังนั้นเขาจึงไม่คุยเรื่องนี้อีกต่อไป แต่พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ”คุณหยาง วันนี้ในนามของราชวงศ์ไป๋หลี่ต้องการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือกับคุณ ผมไม่รู้ว่าคุณสนใจหรือเปล่า”

หยางเฉินไม่พูดอะไร แต่หรี่ตามองไปที่ไป๋หลี่จื้อเหอ รอให้อีกฝ่ายพูดให้ชัดเจน

เมื่อเห็นว่าหยางเฉินไม่ตอบสนองต่อเขา ไป๋หลี่จื้อเหอก็อายเล็กน้อย จากนั้นจึงพูดว่า”ท่านก็รู้ว่าหม่าชาวมีสายเลือดที่สูงส่งที่สุดของราชวงศ์ไป๋หลี่ของเราอยู่ในตัวของเขา และหม่าชาวก็เป็นเพื่อนสนิทของท่าน คุณหยาง ถ้าราชวงศ์ไป๋หลี่สามารถร่วมมือกับคุณหยางนั้น มันเป็นเรื่องที่ดีมากเลยนะ”

หยางเฉินเย้ยหยัน”ถ้าราชวงศ์ไป๋หลี่เห็นเพท่อนผมเป็นคนในครอบครัวจริงๆ ก็คงไม่กักขังมารดาผู้ให้กำเนิดของเขานานกว่า และพยายามที่จะแย่งสายเลือดในร่างกายของเพื่อนผม”

“อย่าพูดเรื่องไร้สาระ วันนี้ที่ผมมาหาพวก มีสองเรื่อง สิ่งแรกคือเมิ่งชิงหลันจากทีมนักบูโดจงโจว ได้พาคนมาที่นี่หรือเปล่า?”

หลังจากพูดจบ พลังบูโดอันทรงพลังก็แผ่ซ่านออกมาจากเขา

ชั่วขณะหนึ่ง วิลล่าทั้งหลังถูกแรงกดดันนี้ปกคลุม สีหน้าของไป๋หลี่จื้อเหอก็เปลี่ยนไป และร่างกายของเขาก็สั่นไม่หยุด

ภายใต้แรงกดดันจากบูโดอันทรงพลัง ขาของเขาก็อ่อนลง และคุกเข่าลงที่เท้าของหยางเฉินโดยตรง

ในเวลานี้ ไป๋หลี่จื้อเหอรู้สึกว่า คนที่เขาเผชิญอยู่ไม่ใช่นักบูโดหนุ่มจากโลกมนุษย์ แต่เป็นคนใหญ่คนโตที่มาจากโลกบู๊โบราณล่าง ซึ่งเทียบได้กับผู้นำราชวงศ์ไป๋หลี่

“คุณหยาง คนจากทีมนักบูโดจงโจวไม่ได้มาที่นี่ แต่ผมรู้ว่าหัวหน้าเมิ่งพาคนไปที่สาขาของตระกูลฉีในจงโจว และไม่ได้ออกมาอีกเลย”

ไป๋หลี่จื้อเหอพูดอย่างรวดเร็ว โดยไม่ปิดบังอะไร

หยาง เฉินขมวดคิ้ว มองดูท่าทางของไป๋หลี่จื้อเหอ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้โกหก

อย่างไรก็ตาม ตระกูลฉีได้สูญเสียนักบูโดไปหลายคนแล้ว และตระกูลฉีน่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ดาดฟ้าของโรงแรมจงโจว ทำไมพวกเขาถึงกล้ากักตัวเมิ่งชิงหลันไว้?

ไม่กลัวว่าเขาจะมาหาถึงที่หรือ?

“ประการที่สอง สมาคมผู้อาวุโสได้ออกกฎใหม่ของโลกใหม่แล้ว จากนี้ไป นักบูโดในโลกบู๊โบราณล่าง จะต้องปฏิบัติตามกฎใหม่ ถ้าใครกล้าละเมิดกฎใหม่ พวกเขาจะถูกลงโทษตามกฎใหม่!”

หยางเฉินจ้องไปที่ไป๋หลี่จื้อเหอและพูดเสียงดัง”นอกจากนี้ หลังจากที่ราชวงศ์ไป๋หลี่เข้าสู่โลกมนุษย์ เรื่องไม่ดีที่พวกคุณเคยทำในโลกมนุษย์ ที่ควรชดใช้คืนก็ชดใช้คืนซะ ถ้าให้เราตรวจพบ ก็ต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรงเท่านั้น!”

“รวมทั้งคฤหาสน์หลังนี้ด้วย พวกคุณขู่ตระกูลถงยกมันให้พวกคุณอย่างไร ก็คืนให้เขาอย่างนั้น ภายในสามวัน ถ้าให้ผมรู้ว่าพวกคุณยังไม่ได้ทำตามที่ผมบอก ผมจะมาที่นี่อีกครั้ง! ”

ไป๋หลี่จื้อเหอกลัวจนฉี่เกือบราด พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า”คุณหยาง ผมเข้าใจแล้ว ผมจะทำตามที่ท่านพูดแน่นอน!”

หยางเฉินส่งเสียงอย่างเย็นชา แล้วเดินออกไปจากวิลล่า

จนหยางเฉินจากไปไป๋หลี่จื้อเหอจึงกล้าที่จะเงยหน้าขึ้น ร่างกายของเขาเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยลมออก นั่งฟุบลงกับพื้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ

หลังจากที่เขาสงบสติลง ก็รีบโทรศัพท์”ท่านผู้นำ แย่แล้ว…”

ในเวลาเดียวกัน หยางเฉินก็ออกมานอกวิลล่า จางจี้กำลังอยู่ในศูนย์กลางของลิขิตสวรรค์ ลิขิตสวรรค์เก้าครั้งตกลงไปในตัวจางจี้ติดต่อกัน และจางจี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี

ลิขิตสวรรค์สลายไป และรัศมีของผู้แข็งแกร่งในแดนนภาก็แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของจางจี้