บทที่ 2025
ในเวลานี้ วาตานาเบะ ชินอิจิพูดกับซ่งหวั่นถิงด้วยท่าทางประจบสอพลอในทันที: “คุณซ่ง เมื่อกี้นี้คุณเยก็ได้พูดคุยกับผมกันอย่างลึกซึ้งแล้ว ตัวของผมเองก็เจอคุณเยครั้งแรกก็รู้สึกเหมือน
เป็นเพื่อนกันมานาน ดังนั้นผมตัดสินใจ ปรับเปลี่ยนสัญญาเงื่อนไขของพวกเราใหม่”
ซ่งหวั่นถึงประหลาดใจเล็กน้อย และรีบถามว่า: “คุณวาตานาเบะ คุณเตรียมจะปรับเปลี่ยนอย่างไรคะ?”
วาตานาเบะ ชินอิจิพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “แบบนี้ พวกเราทั้งสองฝ้ายลงทุนตามสัดส่วนห้าสิบกับห้าสิบ แต่ว่าในการมีกรรมสิทธิ์ถือหุ้น บริษัทของคุณถือหุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์ บริษัทนิปปอนสตี
ของพวกเราถือหุ้นสี่สิบเปอร์เซ็นต์!”
ซ่งหวั่นถึงตกใจตะลึงจนตาค้างในทันที!
เธอไม่เข้าใจ นี่คือการกระทำอะไรของวาตานาเบะ ชินอิจิ?!
ทำไมถึงได้สละหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ให้ฟรีๆในทันที?
ในช่วงเวลาต่อมา เธอมองไปทางเย่เฉินในหันที สัญชาตญาณบอกกับเธอว่า ต้องเป็นช่วงเวลาที่ตัวเองออกไปกับนานาโกะ เย่เฉินพยายามให้ได้เงื่อนไขนี้มาจากวาตานาเบะ ชินอิจิแทนตัว
เองใหม่!
ในใจของเธอตกใจอย่างไม่มีอะไรเทียบได้: “อาจารย์เยใช้วิธีอะไรกันแน่? ทำให้วาตานาเบะ ชินอิจิหลีกทางให้ได้มากขนาดนี้?! ด้วยแบบนี้ อาจารย์เย่เพื่อตัวเองก็จะติดค้างหนี้บุญคุณ
วาตานาเบะ ชินอิจิครั้งหนึ่งไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซ่งหวั่นถึงก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย
อันที่จริงเธอไม่เคยคิดที่จะเอาเปรียบบริษัทนิปปอนสตี
อันที่จริงเธอคิดว่าก็แค่ได้ถือสิทธิ์หุ้นห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์
แน่นอนว่า ถือสิทธิ์หุ้นตัวเองก็ไม่ได้เอาฟรี
ตัวเองไม่เพียงลงทุนตามดส่วนตามห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ ยังจัดหาที่ดินและความมพันธ์ในท้องถิ่น มาผลักดันการดำเนินโครงการการร่วมมือลงทุนไปถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว
แต่ทว่า ในขณะนี้ บริษัทนิปปอนสตีได้ให้ผลตอบแทนมหาศาลกับตัวเองแล้ว!
ตอนที่เธอไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี เย่เฉินเอ่ยปากพูดว่า : “หวั่นถึง ในเมื่อคุณวาตานาเบะมีความจริงใจขนาดนี้ ผมว่าตอนนี้พวกคุณก็เซ็นสัญญากันเถอะ รอพวกเรากลับประเทศจัดการเรื่องใน
ประเทศเสร็จ ก็สามารถผลักดันการดำเนินโครงการการร่วมมือลงทุนไปถึงที่กับคุณวาตานาเบะได้แล้ว”
เมื่อซ่งหวั่นถิงได้ยินคำพูดนี้ และรีบพูดว่า: “อาจารย์เย่ นี่…นี่…นี่ …เหมาะสมมั้ย….
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย: “ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม คุณวาตานาเบะพร้อมด้วยความจริงใจเป็นอย่างมาก คุณคงจะไม่ใช่ว่าไม่อยากร่วมลงทุนแล้วนะ?”
ซ่งหวั่นถิงโบกมืออย่างรวดเร็ว: “ไม่ใช่นะไม่ใช่ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนี้….”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “งั้นคุณก็เซ็นสัญญาดีๆนะ”
วาตานาเบะ ชินอิจิก็พูดเสริมตามว่า: “นั่นนะสิคุณซ่ง ผมคาดหวังเป็นอย่างมากที่จะร่วมลงทุนกับซ่งซื่อกรุ๊ป พวกเราเซ็นสัญญาเร็วๆหน่อย ก็ไม่ต้องยืดเยื้อออกไป! คู่ร่วมลงทุนที่ดีขนาดนี้
อย่างคุณซ่งรวมทั้งซ่งซื่อกรุ๊ป ผมยังกลัวว่าพวกคุณจะไม่ลงทุนลงกับพวกเราจริงๆ และเปลี่ยนไปร่วมมือกับคนอื่นแทน!”
ในใจของซ่งหวั่นถิงตกใจมากจนไม่มีอะไรเพิ่มเติมได้
สิ่งที่วาตานาเบะ ชินอิจิพูดนั้น ก็มากเกินไปสำหรับตัวเองและซ่งซื่อกรุ๊ปแล้ว
พูดตามตรง นี่ก็คือซ่งชื่อกรุ๊ปรีบอยากที่จะร่วมทุนกับบริษัทนิปปอนสตี ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทนิปปอนสตีเป็นกลุ่มเหล็กชั้นนำของโลก อันดับหนึ่งทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น และอันดับต้นๆของโลก
ซ่งซื่อกรุ๊ปจะเปลี่ยนไปร่วมลงทุนกับคนอื่นได้อย่างไร
แต่ทว่า วาตานาเบะ ชินอิจิพูดแบบนี้ นั่นก็คืออ่อนน้อมถ่อมตนและยกย่องซ่งหวั่นถึง ท่าทางเรียกได้ว่าถ่อมตัวเป็นอย่างมาก
ในเวลานี้เย่เฉินก็พูดว่า: “หวั่นถิง เลิกโอ้ได้แล้ว ทุกคนยังรอทานข้าวอยู่ รีบเซ็นสัญญาเถอะ พวกเราก็เริ่มทานอาหารแล้ว ทานเสร็จก็เตรียมตัวสักพัก ยังต้องไปที่ขึ้นเรือที่ท่าเรือ”
เมื่อซ่งหวั่นถึงคำพูดนี้ ก็ไม่ลังเลอีกต่อไปในทันที มองไปที่เย่เฉินอย่างซาบซึ้งใจ ต่อจากนั้นพูดกับวาตานาเบะ ชินอิจิว่า: “คุณวาตานาเบะ งั้นตอนนี้พวกเราก็เซ็นสัญญากันเถอะ!”
วาตานาเบะ ชินอิจิก็ย่อมเห็นด้วยเป็นธรรมดา: “ดีๆๆๆ รีบเซ็น!”
นางาฮิโกะ อิโตะสั่งการให้ลูกน้องเตรียมเครื่องพิมพ์พกพามาหนึ่งเครื่อง ต่อจากนั้นทั้งสองคนก็เปลี่ยนข้อมูลในสัญญาที่เตรียมไว้แต่เดิมในคอมพิวเตอร์ จากนั้นพิมพ์ออกมาทั้งสองฝ่ายต่าง
คนต่างเซ็นสัญญา และแลกเปลี่ยนกัน
ในใจของซ่งหวั่นถึงตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะมีสัญญาฉบับนี้ ในอนาคตซ่งซื่อกรุ๊ปจะต้องก้าวหน้ารวดเร็วอย่างแน่นอน!
หากบริหารดีๆ บางทีในอนาคตก็อาจจะกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเจียงหนาน