บทที่ 2121 ยาปรุงขั้นสาม

The king of War

The king of War บทที่ 2121 ยาปรุงขั้นสาม

หลังจากสัมผัสกับพลังจิตที่แข็งกล้าที่หยางเฉินปล่อยออกมาแล้ว เฝิงเสียวหว่านงงงันเต็มหน้า

ผ่านไปครู่ใหญ่ ๆ หล่อนจึงได้สติกลับมา มองไปที่หยางเฉินอีกครั้ง รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาเต็มหน้า พูดอย่างตื่นเต้นว่า “พี่ใหญ่หยาง พี่นี่แหละคือผู้ปรุงยาที่มีอยู่ในตำนาน!”

“พี่สามารถรู้แจ้งถึงพลังธาตุไฟในฉับพลัน และยังมีพลังจิตที่กล้าแข็งขนาดนี้ ถ้าได้รับถ่ายทอดเรื่องปรุงยา ใต้ฟ้านี้ ก็ไม่มียาอะไรที่พี่จะปรุงออกมาไม่ได้แล้ว!”

“พี่ใหญ่หยางขฌ เมื่อพี่ต้องการจะปรุงยา งั้นฉันก็จะเอาการปรุงยาที่สืบทอดมาจากคุณปู่ ถ่ายทอดให้พี่ไปทั้งหมด ก็เป็นการไม่ปล่อยให้การสืบทอดของคุณปู่ต้องเสื่อมสูญ”

หยางเฉินก็คิดไม่ถึง ทักษะด้านการปรุงยาของตัวเอง ถึงกับมีพรสวรรค์โดดเด่นขนาดนี้ได้ เดิมทีคิดเพียงจะเรียนวิธีการปรุงยาจากเฝิงเสียวหว่านนิด ๆ หน่อย ๆ เพื่อออกหน้าแสดงเป็นการสาธิต เพื่อหวังตบตาปิดบังความเป็นนักปรุงยาของเฝิงเสียวหว่านให้เป็นความลับ

ไม่คิดว่า ตัวเองก็เป็นนักปรุงยาได้

“เสียวหว่าน เรื่องนี้จะไม่ค่อยดีมั้ง?เธอเป็นหลานสาวของท่านปู่เฝิง ได้รับการถ่ายทอดจากท่าน เป็นเรื่องถูกต้องสมควร ส่วนฉันนี้จะมีคุณสมบัติอะไรมารับการถ่ายทอดการปรุงยาของท่านปู่เฝิง?”

หยางเฉินรีส่ายหน้าปฏิเสธ และพูดตามต่อว่า “เธอเพียงแค่สอนวิธีการปรุงยาให้พอทำได้นิดหน่อย เพื่อให้พี่ได้มั่วตบตาผ่านพวกผู้แข็งแกร่งโลกบู๊โบราณล่างได้ก็พอแล้ว”

เฝิงเสียวหว่านส่ายหน้า พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “พี่ใหญ่หยาง ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ ฉันก็กลายเด็กอนาถาไร้ญาติไร้ที่พักพิงไปแล้ว และคุณปู่ก่อนเสีย ก็ฝากฉันไว้กับพี่แล้ว นั่นก็เป็นการชัดเจนอยู่ว่า คุณปู่ท่านมองพี่ในฐานะคนบ้านเดียวกันแล้ว”

“จะพูดไปแล้ว ตั้งแต่ฉันติดตามอยู่กับพี่มา พี่ก็ดูแลฉันมาอย่างเต็มที่ ดูแลฉันเหมือนน้องในไส้แท้ ๆ แล้วตอนนี้ฉันก็เป็นเพียงคนเดียวที่รับสืบทอดการปรุงยาของคุณปู่ ฉันยินดีที่จะมอบวิชาปรุงยาของคุณปู่ให้กับพี่ ก็ไม่เห็นมีที่จะไม่ได้เลย”

พูดจบ ไม่ปล่อยโอกาสให้หยางเฉินปฏิเสธ เฝิงเสียวหว่านหยิบเอาหนังสือโบราณออกมาเล่มหนึ่ง บนหน้าปกหนังสือนั้น ยังมีตัวอักษร《ตำรายา》กำกับไว้

“พี่ใหญ่หยาง ตำรายาเล่มนี้ ก็คือวิชาปรุงยาที่คุณปู่ให้ฉันไว้ ภายในหนังสือไม่เพียงแต่มีสูตรยาที่สูญหายไปนานแล้ว ทั้งยังมีเกร็ดเคล็ดวิธีปรุงยามากมาย รวมทั้งบันทึกผลการทดลองปรุงยาที่สำเร็จของปรมาจารย์สมัยโบราณ”

เฝิงเสียวหว่านพูดด้วยสีหน้าหนักแน่น “ฉันก็ได้ศึกษาเรียนรู้จากตำราเล่มนี้มาตั้งแต่เล็ก เนื้อหาใจความทั้งหมดในหนังสือ บันทึกติดฝังสมองฉันไว้ทั้งหมดแล้ว ตอนนี้《ตำรายา》เล่มนี้ ฉันก็ขอมอบให้พี่ใหญ่หยางละ!หนังสือเล่มนี้อยู่ในมือของพี่ จะต้องสร้างประโยชน์เป็นมูลค่าเหนือว่าที่อยู่ในมือฉันอีกมหาศาล!”

หยางเฉินเดิมทีก็คิดปฏิเสธ มองดูความจริงจังบนใบหน้าเฝิงเสียวหว่านแล้ว เห็นได้เลยว่า ตัวเองหมดปัญญาจะปฏิเสธ

ฉะนั้น หยางเฉินจึงผงกหัวด้วยใบหน้าจริงจัง แล้วยื่นมือออกสองมือจห รับ《ตำรายา》มาอย่างนอบน้อม

บนใบหน้าเฝิงเสียวหว่านจึงได้ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาได้ รู้สึกเหมือนกับโล่งใจขึ้นมา หล่อนพูดยิ้ม ๆ ออกไปว่า “พี่ใหญ่หยาง พูดอย่างไม่โกหกนะ ความจริงหนังสือเล่มนี้อยู่ในมือฉันนี่นะ ความกดดันของฉันมีมากยิ่งกว่ามากเลยทีเดียว”

“ก่อนหน้านี้ ฉันเฝ้าจมอยู่กับคุณปู่อยู่แต่ในเขตหมู่บ้าน ก็ไม่มีความสัมพันธ์ติดต่อกับคนนอก ฉะนั้นจึงไม่รู้ชัดแจ้งของค่าของหนังสือเล่มนี้ ตอนนี้ได้สัมผัสกับบุคคลและเหตุการณ์ต่าง ๆ มากขึ้น จึงเข้าใจถึง มูลค่าที่สูงมากจริงของหนังสือเล่มนี้”

“ถ้ามีใครรู้ ว่าฉันได้ครอบครองตำราวิเศษการปรุงยานี้อยู่ จะต้องมีการหาทางแย่งชิงไปจากมือฉันเป็นแน่”

“ตอนนี้ ฉันเอาหนังสือเล่มนี้ยกให้พี่ใหญ่หยางแล้ว ด้วยพลังฝีมือพี่ใหญ่หยาง จะต้องปกป้องหนังสือเล่มนี้ได้แน่นอน ฉันก็จะได้โล่งใจไปด้วย”

หยางเฉินผงกหัวอย่างจริงจัง พูดไปด้วยความมั่นใจหนักแน่นว่า “เสียวหว่าน เธอวางใจได้ ฉันจะปกป้องรักษาตำราวิเศษการปรุงยาไว้อย่างดี!”

เฝิงเสียวหว่านผงกหัว แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่าญท “พี่ใหญ่หยาง พี่คงกำลังร้อนใจที่จะปรุงยาใช่ไหม?ถ้าตอนนี้มีเวลาว่างอยู่ ฉันก็พร้อมจะแนะแนวพื้นฐานการปรุงยาให้ได้บ้างเลยนะ”

“ด้วยพรสวรรค์ด้านการปรุงยาของพี่ น่าจะเริ่มปรุงยาได้เลยในไม่ช้า ถ้าได้เช่นนั้น การที่พี่จะไปแสดงตัวสาธิตทักษะระดับพื้นฐาน ก็ไม่ใช่เรื่องยากลำบากเลย”

หยางเฉินก็ไม่ได้มีธุระเรื่องอื่นอยู่แล้ว ก็เริ่มเรียนฝึกการปรุงยากับเฝิงเสียวหว่านในเดี๋ยวนั้นเลย

ตั้งแต่เช้า ยันไปถึงค่ำมืด ทั้งสองไม่ได้ออกจากห้องกันเลย

“พี่เฉิงกับเสียวหว่านเป็นยังไงกันนะ?ทำไมหมดไปทั้งวันแล้ว ยังไม่ออกมาจากห้องกันเลย?”

หม่าชาวมองไปที่ประตูห้องที่ปิดแน่น ถามด้วยสีหน้ากังวลว่า “คงไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นนะ?”

ในขณะนั้น อ้ายหลินอุ้มเสี่ยวจิ้งอันเดินเข้ามา หัวเราะและพูดว่า “วางใจเถอะ มีพี่เฉินอยู่ จะเกิดเรื่องอะไรได้?”

ขณะกำลังพูด กลิ่นหอมยาเข้มข้น โชยออกมาจากในห้อง

“กลิ่นช่างหอมมากเลย!”

หม่าชาวสะท้านขึ้นมาทั้งตัว สูดกลิ่นยาที่สุดจะหอมนี้เข้าอย่างแรง

ไม่เฉพาะเพียงเขา ยังมีสองพี่น้องตระกูลซ่งฝห อีกทั้งเฝิงเจียหยีและหวยหลัน พวกคนที่มีการฝึกบำเพ็ญบูโด ต่างก็สูดดมกลิ่นหอมยานี้กันอย่างเต็มที่

“พี่ใหญ่หยาง พี่ทำได้สำเร็จแล้ว!นี่เป็นยาปรุงในขั้นสามชั้นต้นแล้วนะ!แม้ฉันเอง ถึงตอนนี้ที่ปรุงยาได้ถึงขั้นสูงสุด ก็ได้เพียงแค่ชั้นสูงของขั้นสองเท่านั้น!”

ภายในห้อง เฝิงเสียวหว่านพูดด้วยความตื่นเต้นเต็มหน้าว่า “ต้องรู้นะ ตามที่บันทึกในตำรายา ยาจัดลำดับเป็นขั้นที่หนึ่งถึงขั้นที่เก้าเป็นเก้าขั้นใหญ่ ๆ และในแต่ละขั้นก็ยังแบ่งเป็นชั้นต้น ชั้นกลาง ชั้นสูงอีกสามระดับชั้น”

“แต่คุณพี่ใหญ่หยางนี่ วันแรกในการปรุงยา กลับสามารถปรุงยาสำเร็จได้ถึงขั้นสามชั้นต้น ใคร ๆ ก็บอกว่าพรสวรรค์การปรุงยาของฉันนี่เก่งมากแล้ว แต่พอมาเทียบกับพี่ใหญ่หยางแล้ว ฉันนี่กลายเป็นแค่ขยะไปเลย!”

ใบหน้าเฝิงเสียวหว่านเต็มไปด้วยความตื่นใจกอรปกับความศรัทธา พรสวรรค์ด้านการปรุงยาที่หยางเฉินแสดงออกมา ทำให้หล่อนมีความรู้สึกละอายในปมด้อยไปเลย

หยางเฉินหัวเราะหน้าเจื่อน ๆ “ฉันถึงแม้ปรุงยาออกมาได้ถึงขั้นสามชั้นต้น แต่ก็อยู่ภายใต้การช่วยเหลือของเธอ ถ้าไม่ได้เธอคอยดูให้ ฉันเองแค่จะปรุงยาให้ได้ขั้นสอง ก็คงไม่มีทางทำได้สำเร็จ”

เฝิงเสียวหว่านมองใส่ตาคว่ำพูดว่า “พี่ใหญ่หยาง แค่เพียงเวลาสั้น ๆ วันเดียว พี่ก็ก้าวจากคนที่เพิ่งจะจับงานการปรุงยา กลายเป็นคนที่ปรุงยาระดับหมอปรุงยาขั้นสองชั้นกลางได้ ด้วยลำพังความสามารถของตัวเองคนเดียว พรสวรรค์การปรุงยาขนาดนี้ ยังจะเหลือพื้นที่ให้หมอปรุงยาอื่น ๆ อยู่กันได้อีก?”

“จะต้องพูดอีกว่า พี่ยังเพิ่งจะสัมผัสงานปรุงยา ยังไม่คล่องมือนัก ถ้าหากให้เวลาพี่ฝึกให้คล่องอีกระยะหนึ่ง หลังจากนั้นไม่มีฉันคอยช่วย พี่ก็จะสามารถปรุงยาได้ถึงขั้นสามชั้นต้นได้อย่างง่ายดาย ส่วนฉัน ด้วยว่าพลังจิตมีจำกัด คิดจะปรุงยาขั้นสามชั้นต้นด้วยตัวเองนั้น น่ากลัวจะไม่มีโอกาสเอาเลย”

พูดมาถึงตอนนี้ สีหน้าท่าทางของเฝิงเสียวหว่านดูสลดลง

หล่อนเคยคิดไว้ว่าสักวันหนึ่ง จะสามารถปรุงยาขั้นที่สามออกมาได้ จนถึงยาขั้นที่สี่และยาขั้นที่ห้า แต่คิดไม่ถึงว่า พลังจิตของตัวเองมีจำกัด สามารถปรุงยามาได้ถึงขั้นที่สองชั้นสูง ก็มาถึงขีดจำกัดที่สุดของหล่อนแล้ว

หยางเฉินมองดูสีหน้าท่าทางที่หดหู่ของเฝิงเสียวหว่าน พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เสียวหว่าน เธอวางใจนะ พี่จะหาวิธีช่วยทำให้พลังจิตของเธอสูงขึ้นให้ได้!”

เฝิงเสียวหว่านรีบพูดไปว่า “พี่ใหญ่หยาง ฉันก็แค่พูดไปตามเรื่องอย่างนั้นแหละ พี่อย่าได้สิ้นเปลืองพลังมาช่วยเสริมพลังจิตให้ฉันเด็ดขาดเลยนะ พลังจิตใช่จะสร้างเสริมกันง่าย ๆ ได้ที่ไหน?”

หยางเฉินก็รู้ว่าเฝิงเสียวหว่านไม่ต้องการรบกวนเขา เขาจึงไม่พูดอะไรต่อ เพียงแต่เก็บจำเรื่องนี้ขึ้นไว้ อีกหน่อยต้องหาวิธีเสริมสร้างเพิ่มพลังจิตให้เฝิงเสียวหว่านให้ได้แน่นอน

เวลาเดียวกันนี้เอง มุมมืดมุมหนึ่งแถวที่พักหยางเฉิน สาวสวยระดับป่วนเมืองได้นางหนึ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความสะทกสะท้าน “หอมกรุ่นกลิ่นยาเข้มข้นจริง ๆ!หรือจะว่า นี่คือยาขั้นสามตามที่ท่านอาจารย์ติดตามหาอยู่อย่างสุดฤทธิ์?”