บทที่ 2029
คฤหาสน์อิโตะในตัวเมืองโตเกียว
เย่เฉินกับซ่งหวั่นถึง ก็เตรียมตัวพร้อมที่จะออกเดินทางแล้ว
คืนนี้เป็นโอกาสดีที่จะลักลอบเข้าเมือง
เพราะว่าคืนนี้ หน่วยลาดตระเวนยามชายฝั่ง กำลังจะซ่อมแซมอุปกรณ์
ดังนั้น ในทะเลจะมีเวลาว่างเปล่าไม่กี่ชั่วโมง
ประกอบกับยามชายฝั่งของประเทศญี่ปุ่นยังเข้มงวดในเรื่องของการเข้าออก พลังงานส่วนใหญ่ของพวกเขา ก็กำลังพยายามทำทุกอย่างที่จะทำได้ เพื่อปราบปรามผู้อพยพผิดกฎหมายที่
ล้กลอบเข้าประเทศญี่ปุ่น หรือว่าลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศญี่ปุ่น
สำหรับคนและสิ่งของที่ลักลอบออกจากประเทศญี่ปุ่น ไม่ค่อยสนใจ
ดังนั้นแบบนี้ ก็สามารถที่จะออกจากโตเกียวได้อย่างง่ายดาย
นางาฮิโกะ อิโตะเตรียมขบวนรถไว้แล้ว ตั้งใจส่งเย่เฉินและซ่งหวั่นถึงไปที่ท่าเรือด้วยตัวเอง
และอิโตะ นานาโกะก็กำลังมีความคิดนี้เหมือนกัน
ในใจของเธอก็ย่อมอาลัยอาวรณ์ต่อเย่เฉินเป็นอย่างมาก แต่ว่าในใจของเธอก็รู้ดีว่า ตัวเองไม่สามารถที่จะรั้งเย่เฉินไว้ได้ด้วยซ้ำ
ดั่งนั้น ได้ไปส่งเย่เฉินที่ท่าเรือ ในใจของเธอก็พึงพอใจมากแล้ว
ดังนั้น หลังจากที่ทุกคนเตรียมตัวเสร็จ เย่เฉินกับซ่งหวั่นถึง ภายใต้นางาฮิโกะ อิโตะกับอิโตะ นานาโกะสองพ่อลูกที่ไปเป็นเพื่อน ก็นั่งรถไปที่ท่าเรือ
บนรถ นางาฮิโกะ อิโตะพูดกับเย่เฉินว่า: “คุณเย่ ฮาชิโมโตะ ชินคิจิของบริษัทนิปปอนสตี ผมได้ส่งนินจาให้นำตัวไปที่ท่าเรือแล้ว”
เย่เฉินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ: “ลำบากคุณแล้วคุณอิโตะ”
นางาฮิโกะ อิโตะรีบพูดว่า: “คุณเย่ไม่จำเป็นต้องเกรงใจมากขนาดนี้ เป็นสิ่งที่ผมควรทำทั้งนั้น”
หลังจากขบวนรถขับไปได้สี่สิบนาที ก็มาถึงท่าเรือใหญ่ของโตเกียว
ท่าเรือโตเกียวทั้งหมดครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่มาก ตามแนวชายฝั่งอย่างน้อยก็หลายกิโลเมตร
ตำแหน่งท่าเทียบเรือส่วนใหญ่ ก็ล้นเป็นตำแหน่งท่าเทียบเรือพิเศษสำหรับเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่มากและเรือขนส่งสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ ตำแหน่งท่าเทียบเรือเหล่านี้อยู่ใกล้กับพื้นที่
ปฏิบัติการ ไม่เพียงแค่มีคนงานจำนวนมากที่ทำงานที่นี่ ยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงที่จะลักลอบขนของเถื่อนมากที่สุด ดังนั้นทางศุลกากรตรวจสอบอย่างเข้มงวดมาก
ตำแหน่งเทียบท่าเรือที่นางาฮิโกะ อิโตะเตรียมไว้สำหรับซงหวั่นถึง อันที่จริงเป็นท่าเรือที่ค่อนข้างเล็กเรียบง่ายแห่งหนึ่ง
ตำแหน่งท่าเทียบเรือประเภทนี้สามารถเทียบท่ได้เพียงไม่กี่พันต้นเท่านั้น และการตรวจตราค่อนข้างไม่รอบคอบ
อันที่จริงแล้ว ล้กลอบเข้าเมืองไม่ได้เริ่มต้นจากนั่งเรือ เพราะว่าท่าเรือโตเกียวยังอยู่ในเขตปกครองและภายในทะเลอาณาเขตของประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น ขึ้นเรือจากตรงนี้ได้ผิดกฎหมาย
ขึ้นเรือจากที่นี่ ตราบใดที่ไม่ได้ออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ได้เข้าสู่น่านน้ำข้ามพรมแดนโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งหมดนี้สมเหตุสมผลและถูกกฎหมาย
ท่าเรือในเวลานี้ มีเรือยอชต์ขนาดล็กและขนาดกลางหลายลำจอดเทียบท่าที่ท่าเรือ ซึ่งหนึ่งในนั้นที่ใหญ่ที่สุด ก็คือเรือสำราญสุดหรูที่นางาฮิโกะ อิโตะจัดเตรียมไว้ให้เย่เฉิน
ขบวนรถขับตรงไปยังท่าเรือ จอดอยู่ตรงที่ประตูขึ้นเรือของเรือยอชต์ แม้ว่านางาฮิโกะ อิโตะจะสูญเสียขาทั้งสอง แต่ยังให้คนประคองเขาขึ้นบนรถเข็น และลงรถไปส่ง
หลังจากที่เย่เฉินกับซ่งหวั่นถึงลงรถ นางาฮิโกะ อิโตะก็เอ่ยปากพูดว่า : “คุณเย่ ลูกเรือและกัปต้นเป็นคนสนิทของผม คุณวางใจได้เลย!”
เย่เฉินพยักหน้า: “ลำบากคุณอิโตะแล้ว”
นางาฮิโกะ อิโตะรีบพูดว่า: “คุณไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น!”
เย่เฉินมองดูเวลา และเอ่ยปากพูดกับนางาฮิโกะ อิโตะสองพ่อลูกว่า: “ดึกมาแล้ว พวกเราก็ยังรีบร้อนเดินทาง ก็ไม่พูดอะไรมากนักกับทั้งสองคนแล้ว พวกเราหวังว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีก!”
นางาฮิโกะ อิโตะมือประสานคารวะ และพูดด้วยความเคารพว่า: “คุณเย่ หวังว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีก!”
อิโตะ นานาโกะพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์: “เย่เฉินซ้ง หวังว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีก!”
เย่เฉินมองดูเธอแล้วยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า: “นานาโกะ ดูแลตัวเองด้วย!”