The king of War บทที่ 2128 อันตรายจริงๆ ที่แอบซ่อน
หยางเฉินแทบจะถูกกู้ไท่ชูไล่ออกมาเลย แต่เขาก็ไม่ได้อารมณ์เสียแต่อย่างใด ตรงกันข้าม ในใจกลับกำลังดีใจด้วยซ้ำ
ตอนนี้โลกบู๊โบราณกับโลกมนุษย์ได้หลอมรวมอย่างสมบูรณ์แล้ว เพื่อการที่สามารถรวมเข้ากับโลกใบใหม่ได้ง่ายขึ้น เหล่าตระกูลบู๊โบราณก็ใช้วิธีต่างๆ เพื่อเข้ายึดครองตระกูลต่างๆ ในโลกมนุษย์
ตระกูลส่วนใหญ่ในโลกมนุษย์ โดยเฉพาะพวกตระกูลระดับสองต่างอยากใช้การเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลบู๊โบราณ มาทำให้ฐานะของตระกูลสูงขึ้น ถึงขั้นยอมใช้หญิงสาวในตระกูลเป็นเครื่องมือด้วยซ้ำ
ตระกูลกู้ก็ถือเป็นตระกูลระดับสอง การที่สามารถปฏิเสธการเกี่ยวดองกับตระกูลบู๊โบราณได้ ก็ถือว่ามีดีอยู่เหมือนกัน
“คุณปู่อย่าโกรธไปเลยนะคะ หยางเฉินเป็นแค่คนธรรมดา ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยซ้ำ ถึงได้พูดบ้าๆ อย่างนั้น ปู่เป็นคนมีเมตตาอย่าไปใส่ใจคนต่ำๆ แบบนั้นเลยค่ะ”
กู้ซือซือมองดูกู้ไท่ชูที่กำลังโกรธเกรี้ยว จึงรีบเข้าไปเกลี้ยกล่อม
เซี่ยหลินก็พูดกับกู้ไท่ชูด้วยดวงตาที่แดงก่ำว่า “คุณตา หนูขอโทษ หนูเองก็นึกไม่ถึงว่าหยางเฉินจะถูกอย่างนั้นออกมา คุณตาไม่ต้องเป็นห่วง ต่อไปหนูจะไม่ติดต่อกับเขาอีกแล้ว”
กู้ไท่ชูหายใจเข้าลึกๆ พยายามอดกลั้นความโกรธในใจเอาไว้ แล้วค่อยมองไปยังหลานทั้งสอง
กู้ไท่ชูมองไปที่เซี่ยหลิน แล้วพูดไปว่า “เสี่ยวหลิน ปู่ผิดเอง ปู่มองคนผิดไป ถึงได้ให้แกไปข้องเกี่ยวกับเขา”
เซี่ยหลินรีบส่ายหน้า ในใจมีแต่ความรู้สึกผิด และรีบพูดไปว่า “คุณปู่คะ เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับคุณปู่เลย ถ้าจะโทษก็ต้องโทษหยางเฉินที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี”
กู้ไท่ชูไม่ได้พูดอะไรต่อ ถอนหายใจแล้วเดินจากไป
ไม่นาน กู้ไท่ชูก็กลับมาถึงห้อง แล้วเรียกพ่อบ้านมา
“เฮ้อ!”
กู้ไท่ชูถอนหายใจออกมายาวๆ แล้วพูดด้วยสีหน้าที่ผิดหวังว่า “ตอนแรกฉันก็คิดว่า ผู้อาวุโสสี่ของสมาคมผู้อาวุโสจะเป็นคนที่ทำเพื่อประชาชนซะอีก นึกไม่ถึงว่าพออยู่ต่อหน้าตระกูลบู๊โบราณแล้ว จะทำอะไรไม่ได้เลย”
“จากนี้ไป เกรงว่าตระกูลบู๊โบราณคงจะเข้ามาควบคุมสิทธิ์ในการสั่งการทั้งหมดของโลกมนุษย์แล้ว ส่วนตระกูลกู้ของเรา จากการที่ปฏิเสธตระกูลบู๊โบราณเฉินไป ก็คงไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแล้วล่ะ”
พ่อบ้านพูดออกมาว่า “เจ้าบ้าน คุณเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่าครับ? ชายหนุ่มเมื่อกี้ที่ชื่อหยางเฉินไม่ใช่ผู้อาวุโสสี่ไม่ใช่เหรอครับ?“ พอได้ยินอย่างนั้น กู้ไท่ชูก็ถึงกับอึ้ง
เขาหวนคิดไปแวบหนึ่ง การที่เขาคิดว่าหยางเฉินคือผู้อาวุโสสี่ก็เพราะตอนอยู่โรงแรมจงโจวเดิมทีการประชุมที่กองยุทธการจัดขึ้นบอกผู้อาวุโสสี่จะปรากฏตัว แต่ก่อนที่ผู้อาวุโสสี่จะปรากฏตัว จู่ๆ กองยุทธการก็ประกาศว่าการประชุมสิ้นสุดลงแล้ว และให้พวกเขาออกจากโรงแรมจงโจว
ผลปรากฏว่า ตอนที่กำลังออกไป เขาเห็นหยางเฉินเข้าลิฟต์ชมวิวขึ้นไปชั้นบนสุดตามลำพัง
และในตอนนั้น ชั้นบนสุดของโรงแรมจงโจว มีเพียงผู้แข็งแกร่งของห้าตระกูลบู๊โบราณเท่านั้น
จากนั้นก็มีข่าวถูกปล่อยออกมาว่า ผู้แข็งแกร่งทั้งสิบห้าคนของตระกูลบู๊โบราณทั้งห้า ต่างตายอยู่ในชั้นบนสุดของโรงแรมจงโจว
อีกอย่าง เซี่ยหลินกับกู้ซือซือยังบอกเขาอีกว่า หยางเฉินมาจงโจวด้วยเที่ยวบินเดียวกัน แถมที่บังเอิญคือ ตอนที่พวกเธอมา ยังเป็นจังหวะเดียวกันกับตอนที่ผู้อาวุโสสี่มาถึงจงโจวด้วย
กู้ไท่ชูขมวดคิ้วแล้วพูดไปว่า “หรือว่า ฉันจะเข้าใจผิดไปจริงๆ? หยางเฉินไม่ใช่ผู้อาวุโสสี่?”
พ่อบ้านรีบเดินมาข้างหนา แล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าบ้าน ผมรู้สึกว่าคุณจะเข้าใจผิดไปจริงๆ นะครับ สิ่งที่สามารถมั่นใจได้ตอนนี้คือที่โรงแรมจงโจวผู้อาวุโสสี่ได้สังหารผู้แข็งแกร่งของตระกูลบู๊โบราณไปสิบห้าคน”
“เมื่อเป็นแบบนั้น ก็ยืนยันได้ว่า ผู้อาวุโสสี่ได้ผิดใจกับตระกูลบู๊โบราณอย่างสมบูรณ์แล้ว จากตรงจุดนี้ก็เห็นได้ว่าเขาไม่ได้เกรงกลัวตระกูลบู๊โบราณแม้แต่น้อย”
“ดังนั้น ผู้อาวุโสสี่จึงไม่มีทางคิดจากมุมของตระกูลบู๊โบราณอย่างแน่นอน แต่ชายหนุ่มที่เพิ่งมาที่บ้านตระกูลกู้ของเราเมื่อกี้เห็นได้ชัดว่าคิดผ่านมุมมองของตระกูลบู๊โบราณ”
กู้ไท่ชูรู้สึกว่ามีบางอย่างที่มันไม่ปกติ แต่สิ่งที่พ่อบ้านพูดมามันก็มันเหตุผล ผู้อาวุโสสี่ที่แท้จริงไม่มีทางคำนึงถึงผลประโยชน์ของตระกูลบู๊โบราณอย่างแน่นอน
กู้ไท่ชูถอนหายใจ แล้วพูดไปว่า “บางที ฉันอาจจะเข้าใจผิดไปจริงๆ ก็ได้!”
ด้านนอก เซี่ยหลินกับกู้ซือซืออยู่ด้วยกัน
เซี่ยหลินตาแดง และพูดเสียงสะอื้นว่า “พี่ซือซือ ฉันนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าคุณลุงจะเป็นคนแบบนั้น เขาคิดจะให้พวกเราแต่งไปเป็นเมียเก็บในตระกูลบู๊โบราณ เสียแรงที่ก่อนหน้านี้ฉันอุตส่าห์เป็นห่วงเขา ยังเสนอไปเองว่าถ้าเขามีปัญหาอะไรในจงโจวก็สามารถมาหาฉันได้ทุกเมื่อ”
กู้ซือซือจับมือของเซี่ยหลินไว้ แล้วปลอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “เสี่ยวหลิน เธอเองก็ไม่ต้องเสียใจไปหรอก หยยางเฉินก็เป็นแค่คนคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเธอเท่านั้น ไม่มีค่าพอให้เธอต้องไปใส่ใจหรอก”
“ยังไง คุณปู่ก็ปฏิเสธเฉินไห่โจวไปแล้ว ต่อให้ตระกูลเฉินจะข่มขู่ยังไง คุณปู่ก็ไม่มีทางส่งเราไปเป็นเมียเก็บของตระกูลเฉินแน่นอน”
เซี่ยหลินพยักหน้าอย่างแรง “ใช่ คุณปู่ได้ปฏิเสธไปแล้ว พวกเราจึงไม่ต้องกังวลอีก”
ถึงกู้ซือซือจะกำลังให้กำลังใจเซี่ยหลิน แต่ในความเป็นจริง ในใจของเธอกลับเป็นกังวลมาก
เธอรู้ดีว่าการที่กู้ไท่ชูปฏิเสธเฉินไห่โจวนั้น จะทำให้ตระกูลกู้อันตรายขนาดไหน
ในตอนที่กำลังกังวลเรื่องนี้อยู่ ชายวัยกลางคนที่ใส่สูทผูกไทคนหนึ่งได้วิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ
“ประธานหลี่ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”
พอเห็นชายวัยกลางคน กู้ซือซือจึงรีบเดินเข้าไปถาม
ชายวัยกลางคนทำหน้าร้อนรน ระหว่างที่ตรงไปยังห้องของกู้ไท่ชู ก็หันมาพูดกับกู้ซือซือว่า “กิจการทุกอย่างของตระกูลกู้ ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากทุกด้าน ถ้าไม่มีวิธีแก้ไขภายในสองวัน ตระกูลกู้ก็จะล้มละลายทันที”
กู้ซือซือเบิกตาโต แล้วอุทานไปว่า “ว่ายังไงนะ?”
เธอยังอยากถามอะไร แต่ชายวัยกลางคนได้เข้าไปในห้องกู้ไท่ชูแล้ว
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”
เซี่ยหลินก็ทำหน้าช็อกไม่ต่างกัน แล้วพูดอย่างจนใจว่า “ยังไงตระกูลกู้ก็ถือเป็นตระกูลระดับสองของจงโจว ทำไมถึงประสบปัญหาที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
กู้ซือซือพูดด้วยดวงตาที่แดงก่ำว่า “บางที ตระกูลบู๊โบราณเฉินอาจอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็ได้!”
เซี่ยหลินพูดออกมาด้วยความตกใจว่า “ตระกูลบู๊โบราณเฉิน? จะบอกว่า เป็นเพราะคุณปู่ปฏิเสธการเกี่ยวดองกับตระกูลเฉินอย่างนั้นเหรอ?”
“แต่ว่า ตระกูลบู๊โบราณเฉินร้ายกาจแค่วิถีบู๊ไม่ใช่เหรอ? พวกเขาไม่ได้มีกิจการอะไรในจงโจวเลย แล้วจะไปทำให้ตระกูลกู้ได้รับผลกระทบทางธุรกิจที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ยังไง?”
กู้ซือซือมองหน้าเซี่ยหลินแล้วพูดไปว่า “ตระกูลบู๊โบราณเฉินไม่ได้มีธุรกิจอะไร แต่ว่า ตระกูลเฉินสามารถสั่งให้ตระกูลระดับสูงของจงโจวมาเล่นงานตระกูลกู้ได้!”
เซี่ยหลินเบิกตาโต แล้วเข้าใจความหมายของกู้ซือซือได้อย่างรวดเร็ว
กู้ซือซือพูดต่อ “จงโจวไม่ได้มีแค่ตระกูลกู้ ยังมีอีกตระกูลอีกมากมายที่แกร่งกว่าและเทียบเท่าตระกูลกู้ การที่ตระกูลกู้ปฏิเสธตระกูลเฉิน ไม่ได้หมายความว่าตระกูลอื่นจะปฏิเสธตระกูลเฉินด้วย”
“ด้วยความสามารถทางวิถีบู๊ของ ตระกูลบู๊โบราณเฉิน การจะเชื้อเชิญตระกูลต่างๆ ให้ร่วมมือกันเล่นงานตระกูลกู้ไม่ใช่เรื่องยากเลย”
เซี่ยหลินถึงกบเข่าอ่อน ถ้าไม่ได้กู้ซือซือรับไว้ เธอคงล้มไปแล้ว
เธอพูดทั้งน้ำตาว่า “ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”
ในเวลาเดียวกัน หยางเฉินได้กลับไปถึงที่พักแล้ว พอกลับมาถึงที่พักก็ได้รับข้อมูลของตระกูลกู้ทำเอาเขาถึงกับทำหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
หยางเฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ตอนแรกคิดว่า ขอแค่ทำให้ตระกูลบู๊โบราณยอมทำตามกฎใหม่ปัญหาก็จะได้รับการแก้ไขแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่า ปัญหาที่ใหญ่จริงๆ ไม่ใช่ตระกูลบู๊โบราณ แต่เป็นตระกูลระดับสูงของโลกมนุษย์ซะได้”