บทที่ 2036

เย่เฉินยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ: “ความหมายของคุณผมเข้าใจ เนื่องจากว่าเลือดข้นกว่าน้ำ ไว้ชีวิตพวกเขาก็พอไปได้ แต่ว่า….มีเรื่องหนึ่งที่คุณ
ต้องระวัง”

ซ่งหวั่นถิงรีบพูดว่า: “อาจารย์เยโปรดพูดมาเถอะ!”

เย่เฉินพูดว่า: “คุณสามารถไว้ชีวิตพวกเขา แต่ต้องจำไว้ว่า โทษตายหลีกเสี่ยงได้ แต่โทษเป็นนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะเดียวกันที่ไว้ชีวิต
ของพวกเขา ก็ต้องลงโทษพวกเขาให้เพียงพอ ยิ่งไปกว่านั้นต้องจำกัดความเป็นไปได้ของพวกเขาในอนาคตทั้งหมดอย่างสมบูรณ์ ด้วยวิธีนี้
เท่านั้นที่สามารถขจัดหายนะที่จะตามมาทีหลังได้อย่างเต็มที่!”

ซ่งหวั่นถิงพยักหน้า: “ฉันรู้แล้วอาจารย์เย่ เรื่องนี้ ฉันจะไตร่ตรองดีๆอย่างแน่นอน”

ในขณะที่พูด จู่ๆเย่เฉินก็ได้ยิน เสียงก้องแผ่วเบามาจากด้านหลังอย่างฉับพลัน

เขาหันหน้ามองไป ห่างจากเรือของตัวเองประมาณหนึ่งถึงสองกิโลเมตรกว่า มีเรือลำเล็กกว่ากำลังพุ่งเข้ามาหาตัวเองด้วยความเร็วอย่าง

เต็มที่ เรือกำลังขับเคลื่อนอยู่ในทะเล เสียงลมและเสียงคลื่นกระบกันดังเป็นอย่างมาก ในเวลาอย่างนี้ ยากที่จะได้ยินเสียงขับเคลื่อนของเรือลำ
อื่น

อยู่ในระยะไกลขนาดนี้ แม้จะเปิดหวูดเรือจนสุดก็ตาม ก็ยากมากที่จะได้ยินเสียง

หากไม่ใช่ว่าประสาทสัมผัสการได้ยินของเย่เฉินว่องไวกว่าคนทั่วไปมาก ก็เป็นไม่ได้ที่จะได้ยินด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นว่าในทะเลอันว่างเปล่านี้ ยังมีเรือตามติดตัวเอง เย่เฉินก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ดูเหมือนค่อนข้างจะไม่ชอบมาพากลในทันที
เขาพูดกับซ่งหวั่นถึงในทันทีว่า: “หวั่นถึง คุณกลับไปที่ห้องก่อน!”

เมื่อซ่งหวั่นถึงเห็นการแสดงออกที่เคร่งขรึมของเย่เฉิน ก็รู้สึกว่าเรื่องราวดูเหมือนจะค่อนข้างไม่ชอบมาพากล

ดังนั้นเธอจึงรีบถามว่า: “อาจารย์เย่ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”

เย่เฉินมองไปทางแสงสีแดงที่กำลังใกล้เข้ามาจากในระยะไกลอย่างไม่หยุดหย่อน มุมปากแสยะยิ้มเล็กน้อย และพูดอย่างสนุกสนานว่า:
“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมีแขกใหม่อีกแล้ว”

ซ่งหวั่นถิงมองตามสายตาของเขาไป เธอเห็นเพียงเรือลำหนึ่งอยู่ในทะเล อยู่ตรงด้านหลังเรือของพวกเขา และเข้าใกล้อย่างไม่หยุด
หย่อน

เธอถามด้วยความประหลาดใจว่า: “อาจารย์เ คุณสงสัยว่าเป้าหมายของเรื่อลำนั้นเป็นพวกเราเหรอ?”

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย: “เป้าหมายของพวกเขาอาจเป็นผม ไม่มีคุณ”

ซ่งหวั่นถึงพูดเด๊ดเดี่ยวแน่วแน่มั่นคงในทันทีว่า: “อาจารย์เย่ ฉันจะอยู่กับคุณ!”

เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ไม่ต้อง คุณรีบกลับไปอยู่ในห้องดีกว่า ผมคนเดียวสามารถจัดการปัญหาอะไรก็ง่ายดาย”

“แต่ว่า….”

การแสดงออกของซ่งหวั่นถิงเพิ่มมากขึ้น ถ้าหากไม่มีอันตรายอะไรจริงๆ เธอก็คงจะไม่ยินยอมให้เย่เฉินอยู่คนเดียว

ในเวลานี้เย่ฉินพูดปลอบใจว่า: “หวั่นถิง แต่ว่าอะไร คุณอยู่ที่นี่ก็ช่วยอะไรผมไม่ได้ อาจจะกลายเป็นปัญหา รีบกลับไปที่ห้อง ก็จะทำให้
ผมสบายใจมากกว่า”

จากนั้น เย่เฉินก็พูดเสริมว่า: “สภาพของผมคุณก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ คนธรรมดาทั่วไป ก็ไปเป็นไม่ได้ที่จะทำร้ายผมได้ด้วยซ้ำ”
ซ่งหวั่นถึงลังเลครั้งแล้วครั้งเล่า พยักหน้าเบาๆ และพูดกำชับว่า: “อาจารย์เย่ งั้นคุณต้องระวังตัวด้วย!”

เย่เฉินพยักหน้าพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ได้ วางใจเถอะ”

ทันทีที่เสียงลดลง กะลสีเรื่อคนหนึ่งก็วิ่งออกจากบันไดบนดาดฟ้ และพูดอย่างวิตกก้งวลเล็กน้อยว่า: “อาจารย์เย่ ด้านหลังมีเรือลำหนึ่ง
ตามพวกเราอยู่ตลอด กำลังพุ่งมาทางพวกเราอย่างสุดกำลัง! กัปต้นสงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นผู้มาไม่ดี ให้ผมมาขอชี้แนะของคุณ! คุณตั้งใจจะทำยัง
ไง?”

เย่เฉินยิ้มอย่างไม่ใส่ใจแล้วพูดว่า: “พวกเขาน่าจะพุ่มเป้ามาที่ฉัน เดี๋ยวพวกนายทุกคนห้ามขึ้นมาที่ดาดฟ้า ทุกอย่างของที่นี่มอบให้ฉันมา
จัดการ”

กะลาสีคนนั้นรีบพูดว่า: “แบบนี้ไม่ได้นะคุณเย่ คุณอิโตะรวมทั้งท่านประธานกำชับพวกเราไว้ ต้องส่งคุณและคุณซ่งกลับถึงประเทศจีน

อย่างปลอดภัย ถ้าหากอีกฝ่ายเป็นผู้มาไม่ดีจริงๆ งั้นพวกเราก็จะต่อสู้กับพวกเขาแล้ว! ในเวลาเดียวกันขอความช่วยเหลือจากคุณอิโตะ ให้เขาส่ง
กำลังเสริมมาโดยเร็วที่สุด!”

เย่เฉินโบกมือ: “ไม่จำเป็น ฟังฉัน ส่งคุณซ่งกลับไปที่ห้อง ต่อจากนั้นทุกคนอยู่ในห้องโดยสาร ไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ไม่ว่ายังไงก็ตาม
ห้ามขึ้นมาที่ดาดฟ้า!”