The king of War บทที่ 2133 ตระกูลเฉินรนหาที่ตาย
คำพูดของเหอจื้อถูกพูดออกมา ทุกคนในตระกูลเหอต่างทำหน้าตื่นเต้น ก็อย่างที่เหอจื้อบอก ถ้าตอนนี้ไม่สามารถเกาะขาของตระกูลบู๊โบราณไว้ได้ ต่อไปก็คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว
เพราะตอนนี้โลกมนุษย์กับโลกบู๊โบราณก็ได้รวมกันอย่างสมบูรณ์แล้ว ในอนาคตข้างหน้าตระกูลบู๊โบราณจะต้องกลายเป็นตระกูลระดับสูงของจิ่วโจวอย่างรวดเร็วแน่นอน
ถ้าตระกูลเหอจะเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของจงโจว ต่อให้เป็นทั้งจิ่วโจว ก็ยังจัดว่าเป็นตระกูลเศรษฐีอันดับต้นๆ แต่เมื่อเทียบกับตระกูลบู๊โบราณแล้ว ก็ยังเป็นได้แค่เศษเสี้ยวเท่านั้น
“เจ้าบ้าน ผมว่าที่เหอจื้อพูดเป็นความจริง ถ้าสานสัมพันธ์กับตระกูลบู๊โบราณตอนนี้จะดีกว่าอนาคตตระกูลเหอในโลกใบใหม่ต้องกลายเป็นตระกูลเศรษฐีที่เป็นรองแค่ตระกูลบู๊โบราณอย่างแน่นอน” “ถูกต้อง! ตอนนี้เราจำเป็นต้องหาทางทำให้เซี่ยเหอยอมเป็นเมียเก็บของคุณชายเฉินให้ได้ มีเพียงวิธีนี้ ตระกูลเหอของเราจึงจะมั่นคงไปอีกร้อยปี!”
“อีกอย่าง คุณชายเฉินถูกใจเซี่ยเหอเข้าแล้ว ถ้าเซี่ยเหอกล้าปฏิเสธ ไม่เพียงจะผูกมิตรกับตระกูลเฉินไม่ได้ แต่จากสาเหตุนี้ยังอาจทำให้ผิดใจกับตระกูลเฉินก็ได้”
“ถ้าเราปฏิเสธการเกี่ยวดองจากตระกูลบู๊โบราณ ตระกูลบู๊โบราณก็ยังไปเกี่ยวดองกับตระกูลอื่นได้อยู่ดี ถึงตอนนั้น ตระกูลเหอไม่เพียงไม่สั่นครองแค่ตำแหน่ง ยังอาจได้รับการกดดันจากรอบด้านด้วย”
……
ชั่วขณะหนึ่ง คนของตระกูลเหอต่างพากันเปิดปาก ความเห็นของทุกคนต่างเป็นไปในทางเดียวกัน คือต้องการเกี่ยวดองกับตระกูลเฉิน
เหอสงขมวดคิ้วเป็นปม ไม่ได้พูดอะไร ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
เหอจื้อยิ้มจนแก้มปริ รอทุกคนพูดจบถึงได้มองไปที่เหอสงแล้วพูดว่า “น้องรอง ตอนนี้แกยังมีอะไรจะพูดอีกมั้ย?”
ทันใดนั้น สายตาทุกคู่ก็ได้มองไปที่ เหอจื้อ
เหอสงขมวดคิ้ว หันมองเหอจื้ออย่างเรียบเฉย จากนั้นก็กวาดตามองทุกคน แล้วพูดไปว่า “ทุกท่านผมรู้ว่าพวกคุณอย่างเกี่ยวดองกับตะกูลบู๊โบราณ แล้วรับทรัพยากรในการฝึกวิชามาจากตระกูลบู๊โบราณ พร้อมยกระดับฐานะของตระกูลเหอในโลกใบใหม่”
“แต่ว่า พวกคุณเคยคิดบ้ามั้ย ลำพังแค่ตระกูลเหอ จะจับตระกูลบู๊โบราณเฉินอยู่มั้ย? การเกี่ยวดองที่พวกเขาพูดถึง แค่การให้หญิงสาวในตระกูลเราไปเป็นเมียเก็บของตระกูลเฉินเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์มีเสียงใดๆ พวกเขาสามารถไล่คนของเราออกมาได้ทุกเมื่อ”
“ถึงตอนที่ตระกูลบู๊โบราณเฉินควบคุมตระกูลเหออย่างสมบูรณ์แล้ว เกรงว่าตระกูลเหอคงจะหายไปด้วยเหมือนกัน หรือพวกคุณคิดว่าเมื่อไหร่ที่ตระกูลบู๊โบราณเฉินใช้ตระกูลเหอฝังรากเข้ามาในจงโจวแล้ว ตระกูลเหอยังจะมีโอกาสที่จะไล่พวกเขาออกจากตระกูลเหอได้อีกเหรอ?”
“ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้สมาคมผู้อาวุโสของจิ่วโจวได้ออกกฎใหม่ที่มุ่งเป้าไปที่ตระกูลบู๊โบราณซึ่งเป้าหมายหลักก็คือโลกบู๊โบราณล่าง ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าเราให้ความช่วยเหลือกับตระกูลบู๊โบราณเฉิน แล้วจะไม่ถูกเอาผิดภายหลังรึไง?”
พูดถึงตรงนี้ เขาได้กับไปมองเหอหยวนหงอีกครั้ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “พ่อครับพ่อต้องคิดให้ดีๆ นะครับ!”
สภาพการณ์ตอนนั้นตกอยู่ในความเงียบ
คนที่มานั่งอยู่ตรงนี้ได้ ไม่ใช่คนโง่ ต่างมีความสามารถในการแยกแยะได้ระดับหนึ่ง พวกเขารู้ดีว่าคำพูดของเหอสงไม่ได้พูดเพื่อขู่ให้กลัว แต่มันเป็นเรื่องจริง
เหอจื้อขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเห็นแล้วว่าหลายคนในตระกูลเหอเริ่มซุบซิบกันแล้ว และมีหลายคนที่คิดว่าเหอสงพูดมีเหตุผล
สายตาของเหอหยวนหงก็เริ่มกังวลขึ้นมา การเป็นผู้นำตระกูลเหอ เขาต้องรับผิดชอบต่อตระกูลเหออยู่แล้ว ถ้าเกิดเป็นอย่างที่เหอสงพูด ตระกูลบู๊โบราณเฉินแค่อยากใช้ตระกูลเหอเพื่อสร้างรากฐานขึ้นในจงโจวจริงๆ ถ้าอย่างนั้นในอนาคต หากต้องการขับไล่ตระกูลเฉินออกไป ก็เป็นเรื่องที่ยากแล้ว
แต่ว่า สินสอดที่ตระกูลบู๊โบราณเฉินให้มา มันช่างดึงดูดเหลือเกิน ถ้าได้สินสอดพวกนั้นมา ตระกูลเหอจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก
“พ่อครับ สิ่งที่น้องรองพูดมาก็ไม่ได้ไร้เหตุผล เพียงแต่ ตระกูลเฉินเป็นฝ่ายมาพูดเรื่องเกี่ยวดองถึงที่แล้ว แล้วพวกเราจะปฏิเสธตระกูลบู๊โบราณเฉินได้ยังไง? ถ้าปฏิเสธไปจริงๆ แล้วตระกูลเฉินจะยอมปล่อยพวกเราไปเหรอครับ?”
“ต่อให้ตอนนี้จะยอมปล่อยไปก่อน แต่ตระกูลเฉินก็จะไปหาตระกูลอื่นเพื่อทำการเกี่ยวดองอยู่ดีรอถึงวันที่ตระกูลเฉินสร้างรากฐานในจงโจวได้แล้ว คิดว่าจะยอมปล่อยตระกูลเหอไปมั้ย?”
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เราจะมาเลือกว่าจะเกี่ยวดองกับตระกูลเฉินมั้ย แต่มันไม่มีทางให้เราเลือกพวกเราจำเป็นต้องยอมรับเท่านั้น!”
เหอจื้อได้พูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
พอได้ฟังอย่างนั้น สีหน้าของทุกคนก็บึ้งตึงขึ้นมา
ใช่แล้ว!
ผู้นำตระกูลบู๊โบราณเฉินมีพูดเรื่องเกี่ยวดองถึงที่ พวกเขาจะปฏิเสธได้เหรอ? กล้าปฏิเสธเหรอ?
“ทำไมจะไม่กล้า?”
เหอสงพูดด้วยสีหน้าที่เฉยชาว่า “ในเมื่อตระกูลบู๊โบราณเฉินคิดจะใช้การเกี่ยวดองมาฝังรากในโลกมนุษย์ก็แสดงว่า พวกเขาก็มีสิ่งที่ต้องกังวลเหมือนกัน ไม่อย่างนั้น ถ้าพวกเขาใช้กำลังเข้าบังคับ มีตระกูลไหนบ้างที่กล้าปฏิเสธ?”
“ทำไมพวกเขาถึงต้องกังวล? เห็นได้ชัดว่ากลัวสมาคมผู้อาวุโสของจิ่วโจว ดังนั้น ในโลกใบใหม่นั้น พวกเขาก็ไม่ได้เป็นอิสระซะทีเดียว แต่บนหัวยังมีกระบี่แห่งกฎที่แขวนอยู่บนหัว พวกเขาไม่กล้าทำอะไรเกินไปหรอก”
พูดจบ เขาก็มองไปที่เหอหยวนหง แล้วพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า “พ่อครับ ห้ามตระกูลบู๊โบราณเฉินใช้ตระกูลเหอมาฝังรากในโลกมนุษย์เด็ดขาดเลยนะครับ ไม่อย่างนั้น พวกเราไม่เพียงจะผิดใจกับสมาคมผู้อาวุโส ยังจะกลายเป็นหุ่นเชิดของตระกูลบู๊โบราณเฉินด้วย!”
เหอจื้อก็รีบพูดขึ้นมาว่า “พ่อครับ นี่เป็นโอกาสเดียวของตระกูลเหอ! ต่อให้เป็นอย่างที่น้องรองคาดเดาจริง ตระกูลบู๊โบราณเฉินก็แค่ยืมกำลังของตระกูลเหอเพื่อสร้างรากฐานในจงโจวเท่านั้น และหลังจากนี้ พวกเขาก็จะทำตามกฎที่สมาคมผู้อาวุโสตั้งขึ้นมา และไม่กลัาทำอะไรตระกูลเหอแน่นอนครับ”
“ยังไง ตระกูลเหอของเราก็สามารถใช้ประโยชน์จากการที่ตระกูลเฉินต้องการฝังรากที่จงโจวโดยการได้มาซึ่งทรัพยากรในการฝึกวิชาได้นะครับ”
คนอื่นๆ ต่างพากันเงียบ ทุกอย่างมันต้องขึ้นอยู่กับเหอหยวนหงคนเดียว
เวลาค่อยดำเนิดผ่านไป เหอหยวนหงยังไม่ยอมเปิดปาก แต่มองจากคิ้วที่ขมวดเป็นปมของเขากับสีหน้าที่เป็นกังวล ก็สามารถดูออกว่าเขากำลังลังเลอย่างหนัก
ในที่สุด สายตาของเหอหยวนหงก็มองไปที่ทุกคน สายตาเป็นประกาย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “เหอจื้อพูดถูก นี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งของตระกูลเหอ ถ้าทำสำเร็จ ฐานะของตระกูลเหอในโลกใบใหม่ จะต้องพุ่งทะยานแน่นอน!”
มุมปากของเหอจื้อได้แย้มขึ้น และรีบพูดไปว่า “พ่อช่างปราดเปรื่องยิ่งนัก!”
เหอสงสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างหนัก จึงรีบเกลี้ยกล่อมไปว่า “พ่อครับ พ่อต้องคิดให้ดีๆ นะครับ!”
เหอหยวนหงโบกมือ แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันได้ตัดสินใจไปแล้ว”
พูดจบ เขาก็มองไปที่เหอจื้อ แล้วพูดพร้อมหรี่ตาว่า “เรื่องเกลี้ยกล่อมเซี่ยเหอ ยกให้เป็นหน้าที่ของแกแล้วกัน”
เหอจื้อดีใจ เขาเข้าใจความหมายของเหอหยวนหง แผนที่จะทำให้เซี่ยเหอความจำเสื่อมที่เขาเพิ่งเสนอไปเมื่อกี้ เห็นได้ชัดว่าเหอหยวนหงเห็นด้วยแล้ว
เหอจื้อรีบตอบไปว่า “ครับพ่อ!”
“เลิกประชุม!”
เหอหยวนหงโบกมือ แล้วเดินออกจากห้องประชุมไป
เหอสงสีหน้าซีดเซียว กัดฟันแล้วหันไปพูดกับเหอจื้อด้วยความโมโหว่า “เหอจื้อการที่พี่ทำแบบนี้ ไม่รู้สึกผิดกับน้องสามบ้างเหรอ?”
เหอจื้อขำอย่างไม่ชอบใจ “ถ้าน้องสามยังอยู่ เขาต้องสนับสนุนที่ฉันทำแบบนี้แน่! อีกอย่าง การที่ลูกสาวของน้องสามได้เป็นเมียเก็บของคุณชายเฉิน ก็ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งแล้ว!”
พูดจบ เขาก็ได้เดินจากไป
คนอื่นๆ ของตระกูลเหอต่างพากันจากไป
ในเวลาเดียวกัน ที่พักของหยางเฉิน
หยางเฉินกำลังปรุงยา จู่ๆ หวยหลินก็เดินเข้ามา
“พี่หยาง ฉันเพิ่งได้รับข้อมูลมา หลังออกจากตระกูลเซี่ยสองพ่อลูกเฉินไห่โจวกํบเฉินหยางก็ไปสู่ขอที่ตระกูลเหอตระกูลเศรษฐีอันดับหนึ่งของจงโจวค่ะ และตระกูลเหอก็ได้ตอบรับแล้วว่าจะเกี่ยวดองกับตระกูลเฉิน”
หวยหลันสีหน้าเคร่งขรึมอย่างถึงที่สุด แล้วพูดต่อว่า “และหญิงสาวที่ถูกเฉินหยางเลือก คือเพื่อนของคุณ เซี่ยเหอค่ะ!”