บทที่ 2082

ซ่งหวั่นถึงภายใต้สายตาของทุกคน ก้าวเดินไปที่โพเดียม

นักข่าวนับไม่ถ้วนยื่นไมโครโฟนออกไป มีนักข่าวบางคก็ไล่ถามด้วยน้ำเสียงเร่งรีมแล้วก็ม้าคลั่งว่า: “คุณซ่ง คุณซ่ง ฉันเป็นนักข่าวของ
หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจเจียงหนาน ฉันอยากจะขอถามว่า คุณรอดพันออกมาจากอุบัติเหตุตกหน้าฝาในประเทศญี่ปุ่นนั้นได้อย่างไร?”
ซ่งหวั่นถึงหยุดฝีเท้า ยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า: “ตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ปังเอิญว่าฉันไม่ได้อยู่ในรถ”

อีกคนก็ไล่ถามว่า: “งั้นคุณซ่ง ขอถามคุณหน่อยในเมื่อคุณไม่ได้อยู่ในรถ หลายวันมานี้ ฝ่ายตำรวจประเทศญี่ปุ่นตามหาที่อยู่ของคูณทุก
ที่ ทำไมคุณไม่เปิดเผยออกมาสักที?”

ซ่งหวั่นถึงตอบกลับว่า: “ฉันไม่ได้เปิดเผยออกมา เป็นเพราะสงสัยว่อุบัติเหตุที่ฉันประสบนั้นมีคนตั้งใจสร้างขึ้นมา เพื่อความปลอดภัย
ของตัวเอง ดังนั้นก็เลยไม่เปิดเผยต่อสาธารณชน”

ทันทีที่พูดนี้ออกมา ทุกคนในงานทยอยหวาดกลัว!

อุบัติเหตุที่ซ่งหวั่นถึงประสบ มีคนตั้งใจสร้างขึ้นมาเหรอ?! ถ้าหากนี่เป็นความจริง ถ้าอย่างนั้นมีคนจะฆ่าเธอไม่ใช่เหรอ?!

แบบนั้น ลักษณะของเรื่องนี้ ก็มาจากอุบัติเหตุจราจร ได้เพิ่มขึ้นเป็นการฆาตกรรมด้วยวิธีการโหดเหี้ยมอย่างสุดขีดและผลตามมาที่ร้าย
แรงที่สุด!

ซ่งเทียนหมิงและซ่งหรงรี่ก็ยิ่งกลัวจนทั่วร่างกายอ่อนแรง

ถ้าหากซ่งหวั่นถิงมีหลักฐานการก่ออาชญากรรมของพวกเขาจริงๆ ถ้าอย่างนั้นตลอดชีวิตนี้ของพวกเขาก็จบเห่แล้ว!

แม้ว่าคดีนี้จะเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น แต่ว่าบุคคลที่เสียชีวิตในคดีนี้เป็นคนจีน ยิ่งไปกว่านั้นตัวการที่อยู่เบื้องหลังก็เป็นคนจีน ดังนั้นจะได้
รับการลงโทษตามกฎหมายประเทศจีนอย่างแน่นอน

ในประเทศจีน จ้างวานฆ่าคนเป็นหนึ่งในอาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุด

ต่อให้พวกเขาจะอำพรางทำเป็นอุบัติเหตุจราจรไม่ได้ใช้อาวุธอะไรก็ตามและก็ไม่ได้ฆ่าคนอื่นในรถตรงๆ แต่ลักษณะนี้ก็ยังเลวร้ายมาก
ดั่งนั้น ต่อให้สองคนพ่อลูกจะหลีกเสี่ยงโทษประหารวิตได้ แต่อย่างน้อยก็ต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต

ยิ่งเป็นคนร่ำรวย ยิ่งหวาดกลัวจะติดคุก

ตอนที่คนจนยากจนจนหมดปัญญา ถึงขนาดก่ออาชญากรรมเอง ขอแค่มีที่พักอาศัยและมีข้าวกินคำหนึ่งอยู่ในคุก

โดยเฉพาะในประเทคที่มีความชราภาพสูงมากอย่างประเทศญี่ปุ่น ผู้สูงอายุจำนวนมาก เนื่องจากไม่สามารถที่จะหาที่อยู่ตอนแกได้
ทำได้เพียงเดินบนเส้นทางแห่งอาชญากรรม หวังว่าจะใช้ชีวิตตอนแก่อยู่ในเรือนจำ

แต่ว่าคนร่ำรวยไม่ใช่แบบนั้นอย่างแน่นอน

พวกเขามีรถยนต์เครื่องบินเรื่อยอชต์สุดหรูชั้นนำของโลก ยังมีคฤหาสน์สุดหรูชั้นนำในแต่ล่ะที่ของโลก พวกเขาคนเดียวเพลิดเพลินกับ
การปรนนิบัติอย่างดีเยี่ยมของผู้คนหลายสิบคน ใช้ชีวิตเหมือนราวกับสวรรค์บนดินชัดๆ

ให้คนแบบนี้ไปติดคุก นั่นก็ยังทรมานกว่าการฆ่าพวกเขาจริงๆ

ท้ายที่สุดแล้วในเรือนจำก็ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาค ไม่ว่าคุณจะเป็นคนจรจัดที่ยากจนจนไม่มีที่ให้นอนกิน หรีอว่าเป็นร่ำรวยเป็น
อย่างมาก และมหาเศษฐีที่ร่ำรวยเท่าประเทศ เกิดเข้าไปอยู่ในคุก ทุกคนอาจจะอยู่ในห้องขังเดียวกัน และกินข้าวหม้อเดียวกัน

ดังนั้น ในส่วนลึกหัวใจของซ่งเทียนหมิงและซ่งหรงวี่ แทบจะตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก

ในเวลานี้ซ่งหวั่นถิงไม่ได้ตอบคำถามใดของนักข่าวสื่อมวลชนแล้ว เธอก้วเดินตรงขึ้นไปบนโพเดียม มาถึงตรงหน้าลุงใหญ่ซ่งเทียนหมิง
ซ่งเทียนหมิงก็หวาดกลัวอย่างสุดขีด ถึงขนาดเกิดอาการหูอื้ออย่างรุนแรงในหู

เขาคิดว่าซ่งหวั่นถึงปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันจะบันดาลโทสะใส่ตัวเอง แต่กลับคาดไม่ถึงว่า ซ่งหวั่นถิงเพียงแค่ยิ้มให้เขาเล็กน้อย และ
พูดอย่างสุภาพมาก: “ลุงใหญ่ หลายวันนี้ทำให้ลุงกับพี่เป็นห่วงแล้ว”

ทันทีที่พูดแบบนี้ออกมา ซ่งเทียนหมิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกในทันที!

เขาแอบพูดในใจเหมือนได้กิดใหม่ว่า: “เมร่งเย ฉันกลั่วแทบจะตายอยู่แล้วจริง…ดูเหมือนว่าซ่งหวั่นถึงยังไม่รู้ว่าทั้งหมดนี้ฉันเป็นต้วการ
ที่อยู่เบื้องหลัง…พระเจ้าคุ้มครองจริงๆอมิตาพุทธสาธ…”

ซ่งหรงวี่ที่อยู่ข้างๆก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในทันที ส้นประสาทที่ตึงเครียดเกือยจะแตกสลายในขณะที่ซ่งหวั่นถึงเดินเข้ามาใกล้
เมื่อกี้นี้ โชคดีหลายหมื่นเท่า ซ่งหวั่นถิงดูไม่เหมือนกับจะมุ่งเป้าไปที่พวกเขาสองคนพ่อลูก

หลังจากที่ซ่งเทียนหมิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจว่า: “โธ่เอ๊ยหวั่นถึง เธอกลับมาสักทีนะ หลาย
วันที่เธอไม่อยู่ ตัวของลุงเองก็กังวลจนเป็นแทบไม่สบาย คุณปู่ของเธอก็เป็นเพราะว่าเป็นห่วงเธอก็เกิดอาการโรคสมองเสื่อมอย่างกะทันหัน…”
พูดถึงตรงนี้ ซ่งเทียนหมิงถอนหายใจยาว: “เฮ้อ…ไม่เป็นไรนะไม่เป็นไร เธอกลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้วนะ…

ทันทีที่พูดจบ นัยน์ตาก็แดง และน้ำตาทั้งสองก็ไหลออกมาอย่างคาดไม่ถึง

เย่เฉินที่อยู่ข้างล่างเวที มองดูการเล่นละครของยอดนักแสดงอย่างซ่หวั่นถึง และแอบพูดในใจว่า: “ซ่งเทียนหมิง แกคิดว่าตัวเองรอดพ้น
จากหายนะแล้วงั้นเหรอ? อันที่จริงฝันร้ายของแกกำลังเริ่มต้น!”