กระบวนค่ายกลพลิกม้วน สัญลักษณ์ผนึกแน่นขนัดเหมือนกระแสน้ำพลุ่งพล่าน ปกคลุมท้องฟ้า
เก้านรกกักเทพ!
เห็นภาพนี้ ระดับจักรพรรดิตระกูลเหวินเหมือนตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง มือเท้าเย็นเยียบ หากปล่อยให้นายน้อยประสบเคราะห์…
ผลลัพธ์นั้นเกรงว่าแม้แต่ท่านย่าเสวี่ยก็คงรับไม่ไหว สำหรับผู้ติดตามอย่างพวกเขา จะต้องชดใช้เรื่องนี้ด้วยชีวิตอย่างแน่นอน!
สิ่งที่ทำให้พวกเขายากจะเชื่อที่สุดคือ ก่อนหน้านี้ตอนที่กระบวนค่ายกลนั้นปรากฏ พวกเขาเห็นอย่างชัดเจนว่าหลินสวินอีกคนปรากฏตัว พุ่งตัวเข้าไปในส่วนลึกของน้ำวนที่เงียบงันนั่น
ยังมีร่างแยกอีกหรือ!?
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ทำเอาระดับจักรพรรดิพวกนี้แทบบ้าแล้ว
พรูด
ขณะที่พวกเขาแบ่งสมาธิ หลินสวินก็สังหาระดับจักรพรรดิขั้นแปดอีกคน เลือดที่สาดกระเซ็นทำให้ระดับจักรพรรดิคนอื่นๆ ตาแทบถลน ต่อสู้สุดพลังโดยไม่กล้าคิดมากอีก
และตอนนี้หลังจากผ่านความตะลึงมากมาย ความกังวลในใจหมีอู๋หยาและเยียนอวี่โหรวได้สลายไปไม่น้อยแล้ว สายตาที่มองหลินสวินก็เปลี่ยนไป
ไม่เจอกันหลายปี พวกเขาถึงขั้นไม่กล้าจินตนาการว่าเหตุใดพลังปราณของหลินสวินจึงน่ากลัวขึ้นขนาดนี้!
นึกย้อนไปถึงตอนที่อยู่ทางเดินโบราณฟ้าดารา พวกเขายังเป็นคนระดับเดียวกันอยู่เลย ตอนนี้เวลาผ่านไป ต่างไม่ใช่คนในโลกเดียวกันนานแล้ว
……
ในเวลาเดียวกัน
ในน้ำวนขนาดใหญ่ที่หยุดนิ่งนั้น
ทันทีที่หลินสวินเข้าไป กระบี่มรรคสีทองหนาหนักไพศาลพลันฟันเข้ามา ม้วนแสงมรรคที่ไม่มีที่สิ้นสุด ปลดปล่อยกลิ่นอายทำลายล้างน่ากลัวออกมา
เคร้ง!!
ตรงหน้าหลินสวิน เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งปรากฏตัวขวางกระบี่นี้ไว้ สาดประกายศักดิ์สิทธิ์สะดุดตา
เงาร่างของหลินสวินพริบไหวเบาๆ
และฝั่งตรงข้าม เงาร่างหนึ่งก็ส่ายไปมาเช่นกัน อดขมวดคิ้วแค่นเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นเยียบไม่ได้ “หลิงเสวียนจื่อ เจ้ารนหาที่ตายจริงๆ!”
คนผู้นี้ก็คือเหวินเซ่าเหิงที่มีฉายาว่าจักรพรรดิกระบี่อวี้เฟิง ระดับมกุฎจักรพรรดิขั้นเจ็ดขั้นสมบูรณ์!
ก่อนหน้านี้ตอนที่หลอมต้นกำเนิดมหามรรค เขาก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวนอกน้ำวนใหญ่แล้ว เดิมทีไม่ได้ใส่ใจ มั่นใจว่าด้วยพลังของพวกท่านย่าเสวี่ยย่อมสามารถสามารถต้านทานอันตรายทั้งปวงได้
ใครจะคิดว่าพร้อมๆ กับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เหวินเซ่าเหิงเองก็ไม่สามารถสงบได้ ล้มเลิกความคิดที่จะหลอมต้นกำเนิดมหามรรคทันที และซ่อนตัวตรงทางเข้าน้ำวนนี้
ตอนนี้เมื่อสิ้นเสียงเขา
ตูม!
กระบี่มรรคสีทองพวยพุ่ง กลิ่นอายปานอมตะเป็นสายๆ ไหลหลั่ง หนึ่งกระบี่ฟันออกไป ประหนึ่งกระบี่ที่จักรพรรดิสวรรค์ไม่เสื่อมสลายฟันมายังโลก เผยอานุภาพปานทำลายล้าง
กลิ่นอายที่โดดเด่นไหลหลั่งทั่วร่างเขา ละอองแสงสาดพรม หว่างคิ้วเต็มไปด้วยไอแห่งการเข่นฆ่า พลังรุนแรงกร้าวแกร่งยิ่ง
กระบี่เดียวก็เผยพลังต่อสู้อันน่ากลัวที่เหนือกว่าคนรุ่นเดียวกันแล้ว!
กลับเห็นหลินสวินลงมืออย่างไม่เกรงใจ เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งคำรามพลางเข้าปะทะ ไม่ออมมือเลยสักนิด
เพราะเขารู้ดีว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเสียเวลาไม่ได้แม้แต่น้อย จะต้องรีบรบรีบจบด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
ก่อนหน้านี้เขาปลดปล่อยร่างแยก ดึงดูดท่านย่าเสวี่ยและพวกชายชุดดำสองคนออกไป ทั้งกำลังต่อสู้ประจัญหน้ากับระดับจักรพรรดิตระกูลเหวินเหล่านั้น
เพื่อช่วงชิงโอกาสในการวางกระบวนค่ายกลเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น
ตอนนี้กระบวนค่ายกลเก้านรกกักเทพเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เหลือเพียงแค่จัดการเหวินเซ่าเหิงนี่
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
เสียงกระแทกดังสะเทือนฟ้าดิน กระบี่มรรคสีทองและเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งปะทะกัน ชั่วพริบตาก็ประชันกันหลายสิบครั้ง
การต่อสู้เพิ่งจะเริ่มขึ้นก็อันตรายและดุเดือดแล้ว
สิ่งที่ทำให้หลินสวินเหนือความคาดหมายคือ เหวินเซ่าเหิงถือว่าแข็งแกร่งมาก ไม่ใช่คนที่มกุฎทั่วไปจะเปรียบได้ รากฐานหนักแน่น สามารถสลายการโจมตีของตนได้ทุกครั้งไป
ในหลายปีมานี้นี่เป็นครั้งแรกที่หลินสวินเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ แม้เป็นบรรพจารย์ขั้นเก้ายังด้อยกว่าเหวินเซ่าเหิงช่วงหนึ่ง
ขณะเดียวกันในใจเหวินเซ่าเหิงก็ไม่สามารถสงบได้ ปั่นป่วนดั่งคลื่นพายุกระหน่ำ
เขาถูกมองเป็นนายน้อย จัดอยู่ใน ‘ห้ายอดจักรพรรดิ’ ของตระกูลเหวิน เดิมก็เป็นปีศาจที่หายากในพันหมื่นปีอยู่แล้ว มรรควิถีทั้งหมดถูกฝึกจนแข็งแกร่งอย่างที่สุด
ในแปดพันปีตั้งแต่ฝึกปราณมาถึงตอนนี้ ในโลกยอดนิรันดร์เขาก็ถือเป็นคนชั้นยอดคนหนึ่ง ชื่อเสียงสะเทือนแดนดินฝั่งหนึ่ง ถูกผู้แข็งแกร่งไม่รู้เท่าไหร่ชื่นชม
ทว่าเหวินเซ่าเหิงกลับคิดไม่ถึง ว่ามกุฎมหาจักรพรรดิขั้นหกที่มาจากทางเดินโบราณฟ้าดาราคนหนึ่ง กลับสามารถข้ามขั้นมาประชันกับตนซึ่งๆ หน้าได้!
นี่เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
หากอยู่ในโลกยอดนิรันดร์และปรากฏคนเช่นนี้ยังถือว่าสามารถเข้าใจได้ อย่างน้อยเท่าที่เหวินเซ่าเหิงรู้ ในเผ่าจักรพรรดิอมตะบางส่วนที่ครอบครองพลังระเบียบระดับสวรรค์ ก็มีสัตว์ประหลาดที่ไม่สามารถใช้หลักเหตุผลทั่วไปวัดได้อยู่เช่นกัน
ทว่าจักรวาลที่ห่างไกลและตกต่ำอย่างทางเดินโบราณฟ้าดารากลับมีคนเช่นนี้ นี่ทำให้เหวินเซ่าเหิงไม่สามารถรับได้
“ฆ่า!”
ผมยาวของเขาปลิวสยาย ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยจิตสังหาร อานุภาพดุจดั่งลมพายุโหมกระหน่ำ ปลดปล่อยมรรควิถีถึงขีดสุด
เขายอมให้เรื่องแบบนี้ดำเนินต่อไปไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นหากเผยแพร่ออกไป ตระกูลเหวินจะต้องอับอาย!
ถึงอย่างไรเขาก็มาจากตระกูลเหวิน เสพสุขกับทรัพยากรฝึกปราณชั้นยอดที่สุดตั้งแต่เกิด ฝึกวิชาที่ยอดเยี่ยมที่สุด ข้างกายยังมีเฒ่าดึกดำบรรพ์มากมายชี้แนะ…
หากคนที่มาจากทางเดินโบราณฟ้าดาราคนหนึ่งยังจัดการไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าไร้ความสามารถเกินไป!
“ดึงดันไปก็ไร้ประโยชน์!”
สีหน้าของหลินสวินราบเรียบ ไม่ดีใจหรือเสียใจ มีเพียงอานุภาพบนร่างที่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น มีท่าทีจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทุกครั้งที่เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งพุ่งออกไปล้วนทำให้เกิดพลังกำราบยิ่งยวด ไม่ว่าเหวินเซ่าเหิงจะต่อสู้อย่างไร การโจมตีก็ถูกสลายทั้งหมด
ไม่นานในเสียงอึงอลดังกระหึ่มนั้น เหวินเซ่าเหิงถูกซัดถอยอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าหล่อเหลาโกรธจนเขียว
เขายากจะเชื่อ ในใจเดือดดาล
ทว่าทุกครั้งที่หลินสวินโจมตี เหมือนปราการสวรรค์กดข่มลงมา ทำให้ทุกครั้งที่เขาสลายการโจมตี ล้วนถูกซัดจนเลือดลมปั่นป่วน อวัยวะสั่นไหว แม้แต่กล้ามเนื้อยังรู้สึกเจ็บแปลบ เริ่มกินแรงขึ้นมาบ้าง
นี่เป็นไปได้อย่างไร
เป็นไปได้อย่างไร!?
ในใจเหวินเซ่าเหิงคำราม แววตาเต็มไปด้วยความดุดันบ้าคลั่ง เขาพลันโบกมือคราหนึ่ง
วู้ม!
ยันต์มรรครูปกระสวยสีเทาที่แปลกประหลาดสายหนึ่งพุ่งยิงออกมา
หลินสวินนัยน์ตาหดรัด เอาเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งมาขวางไว้ตรงหน้าทันที
โครม!
ทันใดนั้นหลินสวินรู้สึกเพียงว่ามีพลังน่ากลัวที่ยิ่งใหญ่ไม่อาจต้านทานกระแทกใส่เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งอย่างแรง ทำให้ทั้งร่างเขาเซถอย เลือดลมรอบตัวพลิกตลบ
เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งส่ายไหวรุนแรงอีกระลอกหนึ่ง ส่งเสียงอื้ออึง
“ยันต์มรรคสยบวิญญาณยังถูกสกัดไว้ได้หรือ”
ห่างออกไปเหวินเซ่าเหิงยิ่งอึ้งงัน เกือบไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง
นี่คือไพ่ตายบนตัวเขา ระดับอมตะคนหนึ่งหลอมขึ้นกับมือ ในยันต์มรรคประทับกลิ่นอายอมตะ ความน่ากลัวของอานุภาพถึงขั้นสามารถสังหารบรรพจารย์ขั้นเก้าได้อย่างง่ายดาย!
แต่ตอนนี้กลับถูกหลินสวินสกัดเอาไว้!
“นี่คือไพ่ตายของเจ้าหรือ”
ไอสังหารเข้มข้นวาบผ่านในดวงตาดำของหลินสวิน
ฟุ่บ!
เงาร่างของเขาแปรเปลี่ยน กายมรรคทั้งสองที่เหลือพุ่งออกมาพร้อมกัน เงาร่างหนึ่งใช้เจดีย์ไร้สิ้นสุด สาดแสงอันเรืองรองพันล้าน เงาร่างหนึ่งใช้ดาบหัก สาดไอเข่นฆ่าที่ดุร้ายล้นฟ้า
สังหารไปทางเหวินเซ่าเหิงพร้อมกับร่างต้น
เหวินเซ่าเหิงเกือบทรุด หลินสวินคนเดียวก็กำราบจนเขาเงยหัวไม่ขึ้นแล้ว ตอนนี้เพิ่มมาอีกสองคน ยังจะสู้อย่างไรได้
เพียงชั่วพริบตา เหวินเซ่าเหิงก็บาดเจ็บหนักแล้ว ทั่วร่างไหม้เกรียม มุมปากกระอักเลือดไม่หยุด ถ้าไม่ใช่เพราะเขาใส่เกราะสีเขียวที่ลึกลับยากจะคาดเดา ช่วยเขาคลี่คลายการโจมตีได้กว่าครึ่ง คงยืนหยัดไม่ไหวนานแล้ว
“หลิงเสวียนจื่อ เจ้าคอยดู!”
เหวินเซ่าเหิงส่งเสียงคำราม บีบยันต์สีเงินอันหนึ่งจนแหลกละเอียดอย่างกะทันหัน ความวิเศษอัศจรรย์พลันถูกแสงมรรคสีฟ้าผืนหนึ่งปกคลุม
โครม!
เงาร่างของเขาพริบไหว กลับฉีกเป็นรูในน้ำวนใหญ่ทั้งอย่างนั้น พุ่งออกไป
หลินสวินจะปล่อยให้เขาหนีได้อย่างไร พลันสังหารออกไปทันที
นอกน้ำวนใหญ่ กระบวนผนึกลายมรรคพลุ่งพล่าน เสี่ยวอู่ที่ควบคุมสถานการณ์อยู่ภายในขับเคลื่อนพลังของกระบวนค่ายกลทันที
ดังนั้นทันทีที่เหวินเซ่าเหิงพุ่งออกมา ก็ถูกผนึกลายมรรคแน่นขนัดนั่นกดข่มอยู่บนร่างกาย พลันเซ เกือบล้มลงบนพื้น
หากไม่ใช่เพราะแสงมรรคสีฟ้าที่ปกคลุมอยู่รอบตัวเขา ช่วยคลี่คลายพลังแห่งการกดข่มที่น่ากลัวนั่น ตอนนี้เขาจะต้องถูกกำราบอย่างสิ้นเชิง ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะดิ้นรนได้อีกต่อไป
“ไอ้คนสมควรตาย!”
เหวินเซ่าเหิงสีหน้าดูแย่ รับรู้ได้ว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีอย่างสิ้นเชิง
โครม!
และไม่ให้โอกาสเหวินเซ่าเหิงได้หายใจด้วยซ้ำ หลินสวินและร่างแยกของเขาก็ได้สังหารมาทันที เตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง เจดีย์ไร้สิ้นสุด ดาบหักสังหารมาโดยพร้อมเพรียงกัน
วิญญาณของเหวินเซ่าเหิงแทบหลุดออกมาแล้ว ส่งเสียงตะโกนด้วยความเดือดดาล “เปิด!”
หยกประดับสีขาวที่ห้อยอยู่บนลำคอของเขาส่องแสงอย่างกะทันหัน ปรากฏเงาร่างมายาที่สูงใหญ่ไร้ขอบเขต
เงาร่างราวกับจอมเทพอมตะ แสงมรรคร้อยล้านตกลงมา ทันทีที่ปรากฏ ก็โบกหมัดตีออกไปทันที
ตูม โครม…
กระบวนค่ายกลคำรามราวกับพลิกฟ้าดิน
สมบัติและวิชามรรคของหลินสวิน กลับถูกหมัดนี้สะเทือนถอย!
นี่ทำให้หลินสวินหรี่ตา ตัดสินได้ในทันทีว่า นี่คงเป็นพลังเจตจำนงของบุคคลอมตะคนหนึ่ง กลิ่นอายที่เผยออกมาแข็งแกร่งเกินไปแล้ว
“เปิด!”
เหวินเซ่าเหิงตะโกน
พลันเห็นสองมือของเงามายาอันสูงใหญ่กุมประทับ กลิ่นอายอันน่ากลัวที่ไม่สามารถเปรียบเทียบได้ก็รวมตัวอย่างบ้าคลั่งในชั่วพริบตานี้
สีหน้าของหลินสวินเปลี่ยนไปทันที พลันส่งเสียงตะโกน “เสี่ยวอู่ ถอย!”
เสี่ยวอู่พุ่งออกไปทันทีโดยไม่คิดมาก
โครม——
เสียงคำรามที่สะเทือนฟ้าดินดังก้องขึ้น ค่ายกลเก้านรกกักเทพระเบิดออกโดยตรง พรั่งพรูกระแสละอองแสงจำนวนนับไม่ถ้วน ม้วนตัวออกมา
พลังนั่น ทำให้พื้นดินล่องลอยที่อยู่ใต้เท้าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงทันที
แม้หลินสวินได้ต้านทานอย่างเต็มกำลังแล้ว เร่งเร้าพลังรอบตัวถึงขีดสุดแล้ว ยังคงถูกซัดจนปลิวออกไป เลือดไหลออกจากริมฝีปาก สีหน้าดูขาวซีดเล็กน้อย
มองในสนามอีกครั้ง เงาร่างเจตจำนงมั่นที่สูงใหญ่ไร้ขอบเขตหายแวบไปแล้ว แม้แต่เหวินเซ่าเหิงยังหนีไปจนหาร่องรอยไม่เจอ
เห็นได้ชัดว่า หลังจากทลายกระบวนค่ายกลออก เหวินเซ่าเหิงไม่กล้าลังเล เลือกที่จะหนีในทันที
หว่างคิ้วของหลินสวินเผยความอึมครึม
พลังต่อสู้ของเหวินเซ่าเหิงแข็งแกร่งมากจริงๆ ฟางเสวียนเจินที่มาจากเรือนกระบี่ต้าเหิงไม่สามารถเทียบกับคนผู้นี้ได้เลย
แต่สำหรับหลินสวิน การคุกคามของเหวินเซ่าเหิงไม่มาก สิ่งเดียวที่เขาคิดไม่ถึงคือ ไพ่ตายของเจ้าหมอนี่ กลับไม่ได้มีเพียงแค่สองชิ้น!
หากไม่ใช่เช่นนี้ วันนี้เจ้าหมอนี่คงไม่มีความเป็นไปได้ที่จะหนีรอดแล้ว
แต่คิดๆ แล้วก็จริง มกุฎมหาจักรพรรดิที่ถือกำเนิดในเผ่าจักรพรรดิอมตะอย่างเหวินเซ่าเหิง ไพ่ตายคงชีพบนตัวจะน้อยได้อย่างไร
ตอนที่หลินสวินสีหน้าอึมครึมไม่สามารถสงบได้
ฝุ่นควันคละคลุ้ง ร่างแยกที่ต่อสู้เข่นฆ่ากับกลุ่มระดับจักรพรรดิตระกูลเหวินก่อนหน้านี้ พุ่งมาจากระยะไกล