ตูม!

หลินสวินเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ตอนนี้ยามโจมตีเหมือนเทพที่กระตุ้นสุริยันจันทราดารา แววตาสาดประกายหมื่นจั้ง แปลงเป็นลักษณ์ประหลาด ดุจหุบเหวบดบังฟ้าดิน ปรากฏหมื่นลักษณ์ทั่วหล้า

ท่ามกลางความเลือนราง หุบเหวใหญ่นั่นยังแปลงเป็นเตาหลอม แผ่กลิ่นอายน่าเกรงขามที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ เหมือนสามารถทำลายล้างสรรพสิ่ง

นี่เป็นการสะท้อนถึงมรรควิถีทั้งตัวหลินสวิน ปลดปล่อยออกในยามนี้ ล้วนกลายเป็นส่วนหนึ่งในอานุภาพของเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง กดกำราบไปทางเหิงเทียนซั่ว

กลิ่นอายระดับนั้น อานุภาพระดับนั้น ความอหังการระดับนั้น สะเทือนทุกคนทั้งที่นั้น!

ในสายตาพวกเขา อานุภาพของหลินสวินตอนนี้แตกต่างกับที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง แข็งแกร่งถึงขั้นทำให้พวกเขาที่มองอยู่ไกลๆ ยังเกิดความหวาดกลัวในใจ รู้สึกกดดันหาใดเปรียบ

เหิงเทียนซั่วหน้าเปลี่ยนสีไป

เขาในฐานะบรรพจารย์มรรค หากต่อสู้กับระดับเดียวกันจนมาถึงขั้นนี้ก็ช่างเถอะ แต่ตอนนี้เขาดันสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามจากมหาจักรพรรดิขั้นเจ็ดคนหนึ่ง!

นี่เป็นประสบการณ์ที่เขาไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่ฝึกปราณมา ทำให้เขายากจะยอมรับ สีหน้ายิ่งอึมครึม ไอสังหารเปี่ยมล้น เดือดดาลถึงขีดสุด

ตูม!

ทวนศึกสีเลือดกวาดขวาง เจือไอสังหารแห่งระดับบรรพจารย์ที่สูงล้ำเกินคาดเดา ย้อนขึ้นฟ้าไป โจมตีเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งที่จู่โจมลงมา

ชั่วขณะนี้ฟ้าดินเหมือนดั่งแรกกำเนิด ทุกอย่างแตกสลาย ไอแรกกำเนิดอบอวล เต็มไปด้วยประกายศักดิ์สิทธิ์และผสมปนเป

หลินสวินที่เปิดฉากตอบโต้โจมตีอย่างสะเทือนฟ้าดินในทันที ทำให้ร่างของเหิงเทียนซั่วสั่นไหวรุนแรง กระเด็นออกไป

เปรี๊ยะ!

ห้วงอากาศทรุดทลาย เหิงเทียนซั่วกระเด็นออกไปไม่รู้ไกลเท่าไหร่ เห็นชัดว่าสะบักสะบอมมาก แต่ร่างกายไม่ได้บาดเจ็บอะไร ยังคงแข็งกร้าวอย่างที่สุด

ผมทั้งศีรษะของเขายุ่งเหยิง แสงศักดิ์สิทธิ์ในดวงตาราวกับมหาสมุทร ลึกล้ำและไพศาล ยามจ้องมองผู้คนสามารถกลืนกินจิตวิญญาณของเขาได้ ชวนกดดันอย่างที่สุด

ทว่าแม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิด ร่างกายไร้บาดแผล แต่อย่างไรก็ยังถูกซัดสะเทือน นี่นำพาความกระทบกระเทือนมาให้ผู้คนอย่างมาก ตกตะลึงเพราะเหตุนี้ จิตใจล้วนสั่นไหว

“ฆ่า!”

เหิงเทียนซั่วเองก็รู้สึกอับอาย ไอสังหารในดวงตารุนแรงกว่าเดิม

เขาโจมตีหนักขึ้น ไอสังหารซัดเก้าชั้นฟ้า พยายามหาโอกาสฟันสังหารหลินสวิน อีกทั้งยังต้องทำอย่างเด็ดขาดรวดเร็ว ล้างความอับอายก่อนหน้านี้

ใต้ท้องฟ้าผมดำของหลินสวินแผ่สยาย ดวงตาทั้งคู่ลุ่มลึก ยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนราชันเทพ ประกายแสงที่ไหลลู่ลงจากเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งห่อหุ้มร่างเขาไว้ภายใน กลายเป็นเกิดมหาสมุทรที่เรืองรองแถบหนึ่ง ทำให้ฟ้าดินแถบนั้นสั่นไหว

เผชิญหน้ากับการโจมตีที่รุนแรงกว่าเดิมของเหิงเทียนซั่ว หลินสวินไม่เคยถอยหนี กลับพุ่งเข้าไปรับ

เมฆสิบทิศไหวเคลื่อน ปราณกระบี่ม้วนตัวดั่งมหาสมุทร ประกายสังหารเป็นสายๆ พวยพุ่ง แข็งแกร่งทรงพลัง กฎเกณฑ์ตัดสลับซับซ้อน

กระบวนผนึกมากมายในเมืองตั้งต้นฟื้นตื่น พริบไหวส่องประกาย มีพลังลึกลับปรากฏเป็นระยะๆ คุ้มกันพื้นที่ต่างๆ ในเมืองนี้ ไม่เช่นนั้นเกรงว่าคงถูกทำลายยับเยินไปนานแล้ว

ทั้งสองกลายเป็นแสงมรรคสองสาย ชั่วพริบตาเดียวก็ปะทะกันหลายร้อยครั้ง ซัดจนฟ้าถล่มดินทลาย ดาราไหลเคลื่อน ปรากฏการณ์ประหลาดต่างๆ ปรากฏขึ้น

ที่แตกต่างกับก่อนหน้านี้ คือหลินสวินในตอนนี้คล้ายมีพลังสูสีกับเหิงเทียนซั่ว ไม่เคยถูกกดดันและบาดเจ็บอีก!

นี่ทำให้เกิดเสียงอุทานตกใจและตะลึงไม่รู้เท่าไหร่ ต่อให้เป็นมกุฎมหาจักรพรรดิเหมือนกันก็ยังตื่นตกใจนัก

ใครก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าหลินสวินจะแข็งแกร่งจนถึงขั้นน่ากลัวขนาดนี้ สามารถตีเสมอบรรพจารย์มรรคได้!

นี่ทำลายความรู้ความเข้าใจของผู้คนโดยสมบูรณ์!

ไม่นานเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งก็พุ่งทะลวงฟ้า โจมตีเหิงเทียนซั่วอย่างหนักหน่วงภายใจ้เสียงกึกก้องกัมปนาท ทำเอาอีกฝ่ายสะเทือนถอยหลัง สีหน้าเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวขาวสลับกัน

ในที่นั้นต่างแตกตื่น ทุกคนหวั่นไหว หลินสวินเหมือนจักรวาลที่หมุนย้อนกลับ เปิดฉากโจมตีที่คมกริบเลิศล้ำ!

“สามารถบีบให้ข้าใช้พลังทั้งหมด หลิงเสวียนจื่อ เจ้าสามารถตายอย่างไม่เสียดายได้แล้ว!”

เหิงเทียนซั่วในตอนนี้สีหน้าอึมครึมดุจสายน้ำ ทุกคำล้วนเจือเสียงมรรค เห็นได้ชัดว่าถูกยั่วโทสะถึงขีดสุด ตัดสินใจใช้วิธีการเด็ดขาด

ตูม!

กลิ่นอายรอบตัวเขาปั่นป่วน ทวนศึกสีเลือดในมือโจมตีพาดผ่านท้องฟ้า

ทันใดนั้นทั้งหน้าและหลังร่างเขาดวงดาวสีทองขนาดใหญ่ดวงแล้วดวงเหล่า เขาเหมือนเทพองค์หนึ่งมาเยือนโลก แผ่อานุภาพทรงพลัง

นี่เป็นอานุภาพที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง เพียงการโจมตีเดียวกลับเหมือนเขตแดนดาราสีทองแถบหนึ่งกระแทกลงมา ดวงดาวโบราณโคจร ธารดาราสีทองไหลหลั่งพาให้คนใจสะท้าน

อานุภาพระดับนั้นทำเอามหาจักรพรรดิไม่รู้เท่าไหร่สะท้านไหวอย่างสิ้นเชิง มือเท้าเย็นเฉียบ

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

หลินสวินควบคุมเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง เสียงปะทะกังวาน พุ่งชนกับทวนศึกสีเลือดอย่างต่อเนื่อง สาดแสงบาดตา ไอสังหารราวกับคลื่นสมุทรซัดสาด

ส่วนดวงดาวเหล่านั้นยิ่งสั่นไหวรุนแรง ราวกับเขตแดนดาราที่ไพศาลแห่งหนึ่งกระเพื่อมไหว ดาวเก่าแก่แต่ละดวงแผ่อานุภาพไร้ขอบเขต

ประกายดาราพร่าเลือน ปกคลุมเงาร่างของหลินสวินเข้าไปโดยสมบูรณ์

มองจากภายนอกเหมือนโลกเล็กๆ แห่งหนึ่ง ทว่ามองจากภายใน มันกว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต

โลกบรรพจารย์!

นี่คือพลังแห่งเขตแดนที่บรรพจารย์มรรคเท่านั้นจึงจะครอบครองได้ ไม่ใช่มายา และไม่ต่างอะไรกับของจริง ควบรวมจากมหามรรคระดับบรรพจารย์ที่สมบูรณ์แบบสายหนึ่ง

และในโลกนี้ เหิงเทียนซั่วสูงหมื่นจั้ง ยืนตระหง่านอยู่ในธารดาราจักรวาล อานุภาพศักดิ์สิทธิ์ไร้ใดเปรียบ

เขาแปลงเวิ้งฟ้าไพศาล ทำให้ตนกลายเป็นนายเหนือหัวหนึ่งเดียว สามารถทำลายสรรพสิ่ง ยามทวนศึกสีเลือดร่วงลงมา ธารดาราถล่มทลาย สรรพสิ่งแตกสลาย

ในโลกบรรพจารย์ของเขา ทุกสิ่งล้วนเป็นมดและเศษฝุ่น เหล่าคนที่มองดูการต่อสู้อยู่แทบจะหยุดหายใจ

“ในโลกบรรพจารย์หลอมทองของข้า ไม่มีใครสามารถฝืนเจตจำนงของข้าได้!”

เหิงเทียนซั่วตะโกนลั่น

โครม!

ท้องฟ้าแตกร้าว หมู่ดาวทองอร่ามสั่นไหว ร่วงหล่นลงมา โจมตีไปยังหลินสวิน

แต่ก็เป็นตอนนี้เองที่เห็นเงาร่างของหลินสวินพร่าเลือนไป แปลงเป็นภาพหุบเหวใหญ่ในชั่วพริบตา

ยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขต ลึกล้ำไม่อาจคาดเดา

เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งเหมือนตื่นจากการหลับใหล ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในหุบเหวของหลินสวิน ลายมรรคตัดสลับไปมาสาดประกายแสงนับไม่ถ้วน

กลิ่นอายทำลายล้างที่ไม่อาจจินตนาการได้แผ่ขยายออกมา

ธารดาราสีทองที่ร่วงลงมาเหล่านั้น หายไปในหุบเหวใหญ่อย่างเงียบเชียบ ก็เหมือนก้อนหินตกลงในมหาสมุทร มีเพียงวงคลื่นกระเพื่อมเล็กน้อยก็ถูกกลืนลับหายไป

หลินสวินในตอนนี้สำแดงมรรควิถีแห่งตนถึงขีดสุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผสานเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ปลดปล่อยในโลกบรรพจารย์ของเหิงเทียนซั่ว

ดั่งหุบเหวใหญ่แห่งหนึ่งกำลังกลืนกินดวงดาวหมื่นกาล มีพลังเหนือจำกัด!

เหิงเทียนซั่วนัยน์ตาหดรัดโดยพลัน แทบไม่กล้าเชื่อ เขากวัดแกว่งทวนศึกสีเลือด มีดาวสีทองอร่ามพรั่งพรูออกมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับหมายจะทำลายล้างโลก พุ่งเข้าหาหลินสวินเพียงคนเดียวทั้งหมด

ทว่าต่อให้การจู่โจมของเขาจะน่ากลัวเพียงใด ดวงดาวสีทองที่พร่างพราวสว่างไสวนั่นล้วนถูกหุบเหวใหญ่กลืนกิน บดขยี้ และทำลายล้าง!

สุดท้ายพร้อมๆ กับเสียงดังครืนโครม โลกบรรพจารย์แห่งนี้ถึงกับถูกหุบเหวกลืนกินไปมุมใหญ่ทั้งอย่างนั้น

เหิงเทียนซั่วสีหน้าขาวซีด แทบกระอักเลือด ในดวงตาเต็มไปด้วยความยากจะเชื่อ

มกุฎมหาจักรพรรดิขั้นเจ็ดคนหนึ่ง ถึงกับสามารถสั่นคลอนโลกบรรพจารย์ที่ควบรวมออกมาจากมรรควิถีทั้งหมดของตนได้หรือ

“หลอมทองหลั่งอัคคี หมื่นดาราทำลายล้าง!”

เขาส่งเสียงคำราม กฎเกณฑ์ลายมรรคที่เก่าแก่พริบวาบออกมาจากทั้งร่าง ถักทอเป็นผืนฟ้าที่ประหนึ่งมีธารดาราสีทองลุกโชน พุ่งเข้าสังหารหลินสวิน

“เปิด!”

หลินสวินตะโกน ฟ้าสะเทือนดินสะท้าน หุบเหวใหญ่ไร้สิ้นสุดพาดขวางกลางอากาศ โคจรถึงขีดสุด ประหนึ่งหลุมดำที่ขวางกั้นฟ้าดารา กลืนกินดวงดาวสิบทิศ

อานุภาพระดับนั้นน่ากลัวไร้ขอบเขต เขตแดนดาราทั้งแถบพังทลาย ทำเอาจิตใจของคนที่มองดูการต่อสู้อยู่เกือบจะเสียการควบคุม

ใครจะกล้าจินตนาการว่ามกุฎมหาจักรพรรดิขั้นเจ็ดคนหนึ่ง กลับแข็งแกร่งถึงขั้นสามารถกำราบบรรพจารย์มรรคได้!

ปึง!

เสียงหนักทึบหนึ่งดังขึ้น ทำเอาฟ้าดินสะเทือน ก็เห็นโลกบรรพจารย์ที่เหิงเทียนซั่วควบรวมถูกระเบิดออกอย่างสิ้นเชิงในชั่วขณะนี้ ทั้งร่างของเขาถูกซัดสะเทือนรุนแรง กระอักเลือดออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป!

หุบเหวใหญ่พาดขวาง เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์แถบแล้วแถบเล่า กดข่มไปทางเหิงเทียนซั่ว ทำเอาเขายังไม่ทันทรงตัวได้ก็ประสบการกดข่มที่น่ากลัวอีกครั้ง ตกอยู่ในสถานการณ์เป็นรอง!

“เหิงเทียนซั่วได้รับบาดเจ็บแล้ว…”

ทุกคนสายตาเลื่อนลอย ตั้งแต่ตอนแรกที่เหิงเทียนซั่วกดข่มหลินสวิน จากนั้นถูกหลินสวินโต้กลับ โจมตีกลับจนสูสีกัน

มาตอนนี้เขากลับตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ!

นี่ทำให้ทุกคนล้วนรู้สึกอึ้งงัน

อันที่จริง ก็เป็นตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป ที่เหิงเทียนซั่วพบเจอการกำราบอันน่ากลัว หลินสวินปลดปล่อยอานุภาพทั้งหมด หุบเหวใหญ่เคลื่อนขวาง เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งออกโจมตี กดข่มครั้งแล้วครั้งเล่า ไพศาลดุจมหาสมุทร ไม่มีหยุดพัก

ต่อให้เหิงเทียนซั่วจะโกรธถึงขีดสุด โต้ตอบทุกวิถีทาง แต่ก็ยังคงถูกตีจนถอยร่นครั้งแล้วครั้งเล่า บาดเจ็บต่อเนื่อง กระอักเลือดไม่หยุด!

ตอนนี้เขาประสบอันตรายอย่างแท้จริงแล้ว ด้วยระดับพลังของเขา เดิมทีไม่ต้องกลัวเกรงหลินสวินด้วยซ้ำ ทว่าในตอนนี้เขากลับรู้สึกถึงภัยคุกคามหนักหน่วง

“อ๊าก…”

เหิงเทียนซั่วพุ่งโจมตีเต็มกำลัง ราวกับสู้สุดชีวิต กฎเกณฑ์ระดับบรรพจารย์ที่ดุดันสาดออกมาจากทั่วร่าง พาดกวาดท้องฟ้า กดข่มจนห้วงอากาศทรุดทลาย ถึงได้สลายการกดข่มของหลินสวินได้ในที่สุด

ทว่าเพียงครู่หนึ่งหลังจากนั้น เมื่อหลินสวินโจมตีอย่างแข็งกร้าว ทำเอาเหิงเทียนซั่วโงนเงน หน้าอกเกือบถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งแหวกออก เลือดสดสาดกระเซ็นราวกับน้ำตก!

เหิงเทียนซั่วในตอนนี้เต็มไปด้วยเลือดทั้งตัวแล้ว ร่างถูกซัดแตกยับ ดูน่าอนาถยิ่ง

ผู้คนล้วนรู้สึกเหมือนแทบบ้า นั่นเป็นถึงบรรพจารย์มรรคคนนหนึ่ง จะถูกมกุฎมหาจักรพรรดิขั้นเจ็ดกำราบได้อย่างไร

แม้แต่มกุฎมหาจักรพรรดิอย่างพวกเซี่ยงเสี่ยวหยวน เยวี่ยตู๋ชิวยังอึ้งงัน ในใจไหวกระเพื่อมรุนแรง ความแข็งแกร่งของพลังที่หลินสวินสำแดงออกมาในการต่อสู้ครั้งนี้ล้มล้างความรู้ของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเขาสัมผัสถึงความสะท้านไหวที่ไม่เคยมีมาก่อน

บรรพจารย์มรรคแข็งแกร่งดุจปราการสวรรค์ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน น้อยคนนักที่จะสามารถสั่นคลอนและก้าวข้าม อย่างน้อยในโลกพันจักรวาล นี่ก็เหมือนกฎเหล็กข้อหนึ่ง!

แต่ตอนนี้เห็นชัดว่ามีความเป็นไปได้ว่ากฎเหล็กข้อนี้จะถูกทำลาย!

“เขาเองก็เคยได้ยิน ว่าในโลกยอดนิรันดร์ ในขุมอำนาจใหญ่ที่ครอบครองระเบียบชั้นยอดระดับสวรรค์ มีสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวยิ่งสามารถทำได้ถึงขั้นนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เคยเห็นมาก่อน จึงมองว่าเป็นข่าวลือมาโดยตลอด แต่ตอนนี้…”

เยวี่ยตู๋ชิวพึมพำ “นี่ดูเหมือน… จะเป็นเรื่องจริงสินะ…”

“นี่ก็คือจุดประสงค์ที่พวกเราข้ามแดนใหญ่พันศึกมุ่งหน้าไปโลกยอดนิรันดร์ ไม่เช่นนั้น อยู่แค่ในแดนใหญ่พันศึก จะได้เห็นเรื่องที่น่าตกตะลึงเช่นนี้ได้อย่างไร”

เซี่ยงเสี่ยวหยวนพูดเนิบช้า ในดวงตาวาบแวว

“อ๊าก…”

ใสนามรบสถานการณ์ของเหิงเทียนซั่วน่าอนาถยิ่ง หลินสวินกำราบเขาอย่างสิ้นเชิงแล้ว ดำเนินการโจมตีไม่หยุด ทำให้เขาเนื้อตัวแตกยับ กระดูกขาวโผล่ออกมา เลือดสดสาดกระเซ็น ได้รับบาดเจ็บสาหัส

“บนโลกนี้ไม่มีใครสามารถก้าวข้ามระดับบรรพจารย์ได้ ต่อให้เจ้าจะเย้ยฟ้าแค่ไหน ก็ไม่ได้!”

ดวงตาของเขาเผยความบ้าคลั่ง แผ่กลิ่นอายรุนแรงทั่วทั้งตัว ราวกับจะสู้สุดชีวิต ทั้งคล้ายจะใช้ไพ่ตายที่เก็บเอาไว้

กลิ่นอายน่ากลัวสายหนึ่งอบอวล เงาร่างสีดำสายหนึ่งปรากฏเบื้องหน้าเขา กลิ่นอายคลุมเครือที่ราวกับเป็นอมตะไหลเคลื่อน

เหล่าผู้กล้าที่อยู่ในที่มืดต่างตื่นตระหนก รู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมา คล้ายว่าจะหายใจไม่ออก ราวกับตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง

“หืม?”

ในดวงตาหลินสวินสาดประกายสองสาย เหมือนสายฟ้าที่กรีดผ่านท้องฟ้าสองเส้น ตระหนักได้ว่านี่ไม่ใช่พลังของเหิงเทียนซั่ว แต่เป็นอานุภาพน่ากลัวที่ระดับอมตะเท่านั้นจึงจะครอบครองได้

กลิ่นอายของเงาร่างนี้แข็งแกร่งหาใดเปรียบ ม้วนตลบห้วงอากาศแถบนี้ ประหนึ่งดาบยาวที่แหลมคมที่สุดเล่มหนึ่งกรีดผ่านร่างผู้คน ทำให้คนล้วนรู้สึกพังทลาย

“นี่… คือพลังเจตจำนงอมตะ เหนือกว่าระดับบรรพจารย์ สามารถทำลายล้างทุกอย่างให้ดับสิ้น!” มีคนพูดอย่างตกใจ

เงาร่างสีดำนี้แม้เป็นเพียงเจตจำนงสายเดียว แต่ก็เหนือกว่าเหิงเทียนซั่ว! เพราะกลิ่นอายระดับอมตะนั่นห่างไกลและน่ากลัวเกินไป

ส่วนหลินสวินก็ตระหนักได้ในทันทีว่าเงาร่างสีดำนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เขาในตอนนี้จะสามารถรับมือได้

“หลิงเสวียนจื่อ คราวนี้ดูสิว่าเจ้าจะรอดหรือไม่!”

เหิงเทียนซั่วส่งเสียงคำราม เขาเผ้าผมยุ่งเหยิงราวกับบ้าคลั่ง

และเบื้องหน้าเขา เงาร่างสีดำพลันมองมายังหลินสวิน

นั่นมันดวงตาอะไรกัน

ไร้ปรานี เย็นชา เต็มไปด้วยกลิ่นอายเฉยเมยของความตาย ประหนึ่งจอมมารในโลกอันมืดมิดมาเยือน ทำให้คนรู้สึกสิ้นหวัง

ร่างกายของเขาห้อมล้อมด้วยกลิ่นอายอมตะ ทำให้ท้องฟ้าผืนนี้ถล่มทลาย กลิ่นอายดุดันไหลพราก เพียงแค่กลิ่นอาย ก็สะเทือนหุบเหวที่แปรออกจากรอบตัวหลินสวินจนสลายโดยตรง!

ทุกคนอกสั่นขวัญหนี

แม้หลินสวิน ในที่สุดสีหน้าก็เปลี่ยนแล้ว

ชั่วขณะนี้ ไอสังหารของเงาร่างสีดำม้วนจักรวาลจนเหมือนมืดมนลงทันใด เขาราวกับมารตนหนึ่งข้ามโลกมา ควบคุมทุกอย่างที่นี่

คนที่มองดูการต่อสู้ไกลออกไป รู้สึกเพียงว่าจิตใจสั่นสะท้านอย่างรุนแรง จิตรับรู้สึกขวางกั้น ภาพตรงหน้าแสบตา ไม่เห็นภาพในที่นั้นอีก

เพราะพลังอมตะเช่นนี้ สูงส่งน่ากลัวเกินไป!

ในช่วงเวลาที่อันตรายหาใดเปรียบนี้ หลินสวินยื่นมือตบบนเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง

วู้ม!

ในเตาหลอม เพลิงระเบียบดับสูญที่ถูกกำราบ พุ่งออกมาอย่างกะทันหัน เหมือนคลื่นเทพที่สะดุดตาหาใดเปรียบ ห้อมล้อมด้วยพลังระเบียบปานทำลายล้าง ตีออกไปอย่างรุนแรง

แต่หลินสวินเคลื่อนย้ายผ่านอากาศไปทันที หนีห่างไปไกล

มีเพียงเขาที่รู้ดีที่สุดว่า เพลิงระเบียบดับสูญน่ากลัวเพียงใด!

โครม!

ฟ้าดินราวกับถูกหมุนกลับ หมื่นลักษณ์พลิกคว่ำ

กลิ่นอายอมตะเป็นคลื่นที่สังหารมาทางหลินสวิน ตอนนี้ราวกับสิ่งเปราะบาง ถูกเพลิงระเบียบดับสูญที่ราวกับคลื่นเทพบดขยี้

จากนั้นพร้อมกับที่เพลิงระเบียบดับสูญอบอวล เงาร่างสีดำที่แปรจากเจตจำนงอมตะ กลายเป็นฝุ่นผงสลายไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตา

เหิงเทียนซั่วอึ้งงัน นี่ก็คือไผ่ตายของเขา คือไพ่ตายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา แต่ตอนนี้…

ถูกกำจัดไปง่ายๆ เช่นนี้!

“แย่แล้ว!” ครู่ต่อมา เหิงเทียนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างหนัก กะพริบร่างเคลื่อนย้าย แต่กลับช้าไปก้าวหนึ่ง

ก็เห็นว่า…

เพลิงระเบียบดับสูญกะพริบอย่างแปลกประหลาด สาดเปลวเพลิงระเบียบ ติดอยู่บนทวนสงครามนองเลือดในมือเขา

อาวุธที่ต่อสู้เคียงข้างเหิงเทียนซั่วมาไม่รู้กี่หมื่นปี กลับเหมือนไม้ที่ไวต่อไฟ กลายเป็นขี้เถ้าล่องลอย

ในเวลาเดียวกัน เพลิงระเบียบดับสูญเหมือนแส้เทพ ปกคลุมลงไปยังเหิงเทียนซั่ว

“ไม่…!”

เหิงเทียนซั่วหนังหัวชาวาบ ตกใจจนวิญญาณแทบหลุดจากร่าง ใช้พลังทั้งหมดไปปะทะ

เพียงแต่สุดท้ายก็ก็ไม่มีประโยชน์

เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น ร่างมรรคที่เรียกได้ว่าไม่เสื่อมสลายของเขา ก็กลายเป็นฝุ่นธุลีสาดกระจาย!

——