บทที่ 2132

เกรงว่าเปลี่ยนเป็นวัยรุ่นอายุยี่สิบกว่าคนไหนก็ตาม ตอนที่ได้ยินว่าพ่อยังมีลูกสาวนอกสมรสคนหนึ่ง ก็เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับความจริง
แบบนี้ในทันที

โดยเฉพาะซูจือหยู

เธอเหมือนกับตู้ไห่ชิงแม่ของเธอ เกลียดความไม่ถูกต้องทางความรู้สึกอย่างจริงจัง

แม้ว่าจนถึงตอนนี้เธอจะไม่เคยความรักที่ถึงขั้นคบหาดูใจเป็นแฟนกัน แต่ถ้าหากเรื่องแบบนี้เกิดกับเธอ เธอก็จะต้องเหมือนกับแม่แบบนั้น
อย่างแน่นอน หย่ากับสามีอย่างเด็ดขาด ไม่มีความลังเลสักนิด

ดังนั้น แม้ว่าเป็นเรื่องยากมากที่เธอจะยอมรับความจริงนี้ในชั่วขณะหนึ่ง แต่กลับสนับสนุนการตัดสินใจทั้งหมดของแม่อย่างไม่มีเงื่อนไข
ซูจือเฟยอยู่ตรงจุดนี้ ค่อนข้างมีลัทธิผู้ชายเป็นใหญ่อยู่ไม่มากก็น้อย

เขารู้สึกว่า ผู้ชายฐานะอย่างพ่อแบบนี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะซื่อสัตย์ต่อการแต่งงานไปตลอดชีวิต

ผู้ชายที่ร่ำรวยมากที่สุด อย่างน้อยมักไม่ค่อยพอใจกับคู่นอนต่างเพศเพียงคนเดียว ด้งนั้นพูดจาหยอกล้อแทะโลมสาวอยู่ข้างนอกเป็น
ครั้งคราว ความจริงก็เป็นเรื่องธรรมดา

เนื่องจากว่าเขาตั้งแต่เด็กก็เติบโตอยู่ในแวดวงสังคมชนชั้นสูง อยู่ในแวดวงนี้เห็นผู้ชายมากมายมีโอกาสก็เล่นสนุกบ้างเป็นครั้งคราว
มีลูกชายนอกสมรสลูกสาวนอกสมส อยู่ในแวดวงนี้หาได้ถมเถไปจริงๆ และก็เป็นเรื่องที่เห็นจนชินตามาตั้งนานแล้ว

เขาเคยเห็นที่สุดยอดมากที่สุด คือมหาเศรษฐีที่ทำอินเทอร์น็ต หาผู้หญิงจำนวนมากมายมาคลอดลูกให้กับเขามากมาย ไม่มีอะไรก็เข้า
สั่งคมโอ้อวด

ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ถ้าหากเรื่องที่พ่อเพียงแค่ปีนั้นมีอะไรกับบอดี้การ์ดข้างกายของเขาคืนเดียวแล้วมีลูกสาวคนหนึ่ง ซูจือเฟย
รู้สึกว่าพ่ออยู่ในแวดงนี้แล้ว เปรียบกันแล้วค่อนข้างที่ถ่อมตนและค่อนข้างให้ความสำคัญกับครอบครั่วแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิงในแวดวงนี้ อันที่จริงแล้วก็เห็นเรื่องนี้จนชินตามาตั้งนานแล้ว

แน่นอนว่า คำพูดนี้เขาไม่ได้พูดให้แม่รวมทั้งน้องสาวฟัง เพราะว่าเขาเข้าใจนิสัยของแม่และน้องสาวดี ในเวลานี้ถ้าหากแก้ต่างให้พ่อ กลัว
ว่าจะถูกเธอสองคนด่าซะย่อยยับ

ภายในใจซูจือหยูโกรธเป็นอย่างมาก

ความรู้สึกเธอที่มีต่อแม่ในเวลานี้รียกได้ว่าเข้าอกเข้าใจ ถ้าหากตัวเองพบเจอกับสามีแบบนี้ ก็จะแยกทางกับเขาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ดังนั้นเธอจึงพูดกับตู้ให่ชิงในโทรศัพท์ ด้วยความโกรธยากที่จะซ่อนเร้นว่า: “เม่ หนูสนับสนุนให้แม่หย่ากับพ่อ! ทำผิดแบบนี้ ยังปิดบังมาขนาดนี้
เรื่องนี้ให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด! เดี๋ยวหนูเจอเขา จะต้องถามต่อหน้าเขาให้ชัดเจน!”

ตู้ให่ชิงกลับไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนกับเธอขนาดนั้น เพียงแค่พูดอย่างราบเรียบว่า: “จือหยู แม่พูดสิ่งเหล่านี้กับพวกลูก เป็นเพราะว่าลูกกับพี่
ชายของลูกก็โตแล้ว เรื่องเหล่านี้พวกลูกมีสิทธิ์รับรู้ได้ แต่ว่านี่เป็นเรื่องระหว่างพวกเรา ลูกก็ไม่จำเป็นเพราะเรื่องนี้ ไม่ลงรอยกันกับพ่อของลูกอีก
นะ ”

“อีกอย่าง หลังจากที่แม่หย่ากับพ่อของลูก พวกลูกสองคนสามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูต่อ ไปได้ และก็สามารถเลือกที่จะไป
ใช้ชีวิตที่บ้านคุณยายได้ หรือว่าพวกลูกจะออกไปใช้ชีวิตเองก็ได้ แม่ก็ไม่มีอะไรที่จะคัดค้าน”

“จากนี้ไป ถ้าหากบ้านคุณปูหรือว่าบ้านคุณตามีรวมตัวครอบครัวอะไร พวกลูกก็ควรจะเข้าร่วมตามปกติ เพียงแต่ว่าแม่และพ่อของพวก
ลูกก็จะไม่เข้าร่วมการประชุมครอบครัวของกันและกันอีกต่อไป สิ่งอื่นก็ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง”

ซูรั่วหลีพูดอย่างค่อนข้างไม่พอใจว่า: “แม่ค่ะ! เรื่องนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องไปประจันหน้ากับผู้หญิงที่นามสกุลเหอคนนั้นนะ? ยั่วยวนสามีคนอื่น
ยังมีหน้าคลอดลูกอีก ผู้หญิงคนนี้มากเกินไปแล้ว!”

“ไม่จำเป็น”ตู้ให่ชิงพูดอย่างไม่แยแสว่า: “เธอก็เป็นคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง แม่ไม่มีอะไรที่จะไปตำหนิเธอ พวกลูกก็ไม่ต้องไปประจันหน้า
กับเธอ เรื่องความรักล้วนแล้วแต่เป็นการตัดสินใจของคนคนหนึ่ง ไม่มีอะไรที่ถูกหรือผิด”

ซูจือหยูถามด้วยน้ำเสียงที่สะอีกสะอื้นเล็กน้อยว่า: “แม่ค่ะ งั้นแผนการต่อไปของแม่คืออะไร?”

ตู้ให่ชิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “แม่ไม่มีแผนการอะไร รอพ่อของลูกเข้าใจแล้ว ก็รีบหย่ากัน ถ้าเขาเข้าใจเร็วหน่อย แม่หย่ากันเสร็จก็จะออก
ไปผ่อนคลาย; ถ้าเขายังไม่เข้าใจสักที งั้นแม่ก็จะไม่เสียเวลากับเขา ออกไปเที่ยวก่อน”

ซูจือหยูรีบพูดว่า: “แม่ แม่อยากไปผ่อนคลายที่ไหนคะ?”

ตู้ห่ชิงยิ้มเล็กน้อย พูดออกมาสองคำ: “เมืองจินหลิง!”