บทที่ 2237 ต้องไปโลกกลาง

The king of War

The king of War บทที่ 2237 ต้องไปโลกกลาง

หยางเฉินเหม่อไปพักใหญ่ หรือว่าแม่ของเขายังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้จริง ๆ?

แล้วพ่อล่ะ

เขาไปอยู่ที่ไหน?

ตู้อวี้ซานรีบบอกต่อว่า “หยางเฉิน แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่านายเป็นใคร แต่สิ่งที่ฉันมั่นใจแน่นอนคือพ่อแม่ของคุณมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่แน่นอน”

“จากความแข็งแกร่งของนายในปัจจุบัน แม้แต่ในโลกบู๊โบราณกลาง นายก็เป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอดอยู่ดี บางทีพอไปอยู่ในโลกโบราณ นายก็น่าจะเป็นชั้นยอด”

“ถ้าบอกว่านายเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งจริง ๆ คงมีแต่พลิกลิขิตฟ้า ถึงจะเติบโตมาถึงทุกวันนี้ได้ แต่เห็นได้ชัดว่านายไม่ใช่คนประเภทที่พลิกลิขิตฟ้า ”

“ฉันเดาว่า อย่างน้อยพ่อแม่ของนายก็มาจากตระกูลชั้นนําของโลกโบราณ และเป็นคนที่มีพรสวรรค์โดดเด่นมากในวงการบูโด รอให้นายไปที่โลกบู๊โบราณบนก่อนเถอะ จากข่าวเหล่านี้ที่ฉันบอกนาย น่าจะพอถามข่าวเกี่ยวกับพ่อแม่ของนายได้ง่ายๆ”

หยางเฉินเงียบกริบ แต่ในใจกลับเกิดคลื่นลูกใหญ่

สําหรับพรสวรรค์ในการต่อต้านลิขิตฟ้าของเขา เขาเคยสงสัยจริงๆ ตอนนี้ได้ยินตู้อวี้ซานพูดแบบนี้ ดูเหมือนว่ามีความเป็นไปได้แบบนั้น

ถ้าพ่อแม่เขาไม่มีพรสวรรค์บูโดที่แข็งแกร่ง ตัวเขาจะมีพรสวรรค์บูโดที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้ได้อย่างไร?

ตั้งแต่เขาเข้าสู่เส้นทางบูโด ก็เหมือนแขวนหลวงพ่อทันใจอย่างไรอย่างนั้น ความแข็งแกร่งก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในโลกมนุษย์ เขาเป็นอัจฉริยะบูโดชั้นนํา ในโลกบู๊โบราณล่างเขายังคงเป็นอัจฉริยะบูโดชั้นนํา

ทุกวันนี้โลกบู๊โบราณกลางเริ่มหายไป นักบูโดชั้นนํากลุ่มแรกได้มายังโลกมนุษย์ หลิวชิ่งเดิมทีพวกเขาเป็นจอมคนของสำนักเทียนไห่ และยังคงไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของหยางเฉิน

กุญแจสําคัญคือจอมคนที่มาจากโลกบู๊โบราณกลางเหล่านี้ล้วนแก่กว่าหยางเฉินหลายปี

นี่ก็แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ใน เขายังคงเป็นโลกบู๊โบราณกลาง อัจฉริยะทางศิลปะการต่อสู้ชั้นนําอยู่ดี

ถ้าจะบอกว่า เขาเป็นแค่คนธรรมดาที่มีพรสวรรค์บูโดที่ทรงพลังเช่นนี้จริงๆ แต่เขาจะมีพลังที่แข็งแกร่งมากขนาดนี้ได้อย่างไร?

หรือว่า อย่างที่ตู้อวี้ซานจะพูดถูกจริงๆ เขามีหนึ่งในร่างบูโดทั้งสิบที่แม้แต่ผู้มีอํานาจในโลกบู๊โบราณสูงก็อิจฉา

ปูมหลังของเขาเองก็ไม่ธรรมดา?

ทันใดนั้นหยางเฉินก็มองไปที่ตู้อวี้ซานอีกครั้งและถามว่า แล้วข่าวเกี่ยวกับพ่อของฉันล่ะ

สิ่งที่ตู้อวี้ซานพูดเมื่อกี้ล้วนเป็นข่าวเกี่ยวกับแม่และการคาดเดาเกี่ยวกับที่มาที่ไม่ธรรมดาของเขา ไม่มีข่าวที่เกี่ยวข้องกับพ่อ

ตู้อวี้ซานส่ายหัวและพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า ที่มาของพ่อนายกลัวว่าจะยิ่งซับซ้อนกว่านั้น”

หยางเฉินขมวดคิ้ว พูดเสียงเย็น “ทําไม?”

ตู้วี้ซานว่า “ไม่เจอเลยข่าวเกี่ยวกับพ่อของนาย เพื่อปกป้องระบบของพันธมิตร ต่อให้เป็นข่าวกรองโลกบู๊โบราณกลางเราก็สามารถสอบถามได้ แต่ข่าวเกี่ยวกับพ่อของนายไม่มีเลย”

“ฉันสงสัยด้วยซ้ำว่าเขาไม่ได้เป็นคนของโลกนี้”

หยางเฉินตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ได้เป็นคนของโลกนี้?

ตู้อวี้ซานเห็นหยางเฉินสงสัย เลยรีบบอก “แน่นอน บางทีการดํารงอยู่ของเขาอาจเป็นระดับที่เราไม่สามารถเข้าถึงได้ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาของฉันเท่านั้น”

พูดจบ เขาก็มองหยางเฉินด้วยสีหน้ากังวลแล้วพูดว่า “คุณหยาง ฉันบอกทุกอย่างที่ฉันรู้กับนายแล้ว ตอนนี้ นายจะยอมปล่อยให้ฉันมีชีวิตรอดได้แล้วใช่ไหม?”

หยางเฉินไม่ตอบ เอาแต่จมอยู่กับสิ่งที่ตู้อวี้ซานบอกเขา

หรือว่าแม่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้จริงๆ

ส่วนคุณพ่อนั้นเขาไม่รีบ ถ้าบอกว่าแม่ยังมีชีวิตอยู่จริง ขอแค่เจอแม่ก็จะน่าจะรู้ที่อยู่ของพ่อแล้ว

เมื่อนึกถึงตรงนี้ จู่ ๆ เขาก็มองไปที่ตู้อวี้ซาน

ตอนนี้ ตู้อวี้ซานรู้สึกแค่ว่าเขาเย็นถึงกระดูก เขาไม่กล้าแม้จะหายใจแรง มองหยางเฉินด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

ถ้าหยางเฉินจะฆ่าเขา เขาไม่มีพลังต่อต้านแม้แต่น้อย

ทันใดนั้นหยางเฉินก็พูดออกมาเสียงเย็น “ภายในสามเดือน หาที่อยู่ของแม่ของฉัน นายมีชีวิตอยู่ได้ ถ้าหาไม่เจอ นายตาย!”

พูดจบ แรงกดดันที่น่ากลัวนั้นก็หายไปทันที

ตู้อวี้ซานจึงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เขาดีใจมากและรีบรับปากในทันที “ขอบคุณคุณหยางที่ไม่ฆ่าผม! คุณวางใจได้ว่าภายในสามเดือนผมจะหาแม่ของคุณให้เจอแน่นอน”

สิ่งที่ทําให้เขาดีใจคือหยางเฉินยินดีที่จะปล่อยให้เขารอดชีวิตจริง ๆ

เขารู้ ว่าหยางเฉินจะไปที่สำนักเหอฮวนที่โลกบู๊โบราณกลางแน่นอน สำนักเหอฮวนเป็นหนึ่งในแปดสำนักดังของโลกบู๊โบราณกลาง ว่ากันว่าเจ้าสำนักเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหกชั้นยอด

ตราบใดที่หยางเฉินยังกล้าไป ยังไงก็ไม่มีทางรอดกลับมา!

รอให้หยางเฉินตายไป เรื่องการตามหาแม่ของหยางเฉินก็ถือว่าจบแล้ว

ในขณะที่ตู้อวี้ซานกำลังมีความสุข หยางเฉินก็ยกนิ้วชี้ขึ้นมาและกดลงไปบนจุดลมปราณของตู้อวี้ซานด้วยความรวดเร็ว

ตู้อวี้ซานเบิกตากว้างทันที เขาแค่รู้สึกว่าหลังจากถูกหยางเฉินกดจุดอยู่สองสามครั้ง ร่างกายของเขาคล้ายถูกโซ่ตรวน

ตู้อวี้ซานถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนกว่า “คุณหยาง คุณทําอะไรผม?”

หยางเฉินตอบเสียงเย็น “ฉันได้ฝังเครื่องหมายการทําลายไว้ในร่างกายของนายแล้ว ในอนาคตไม่ว่านายจะไปที่ไหน ฉันก็หานายเจอได้ทันที นอกจากนี้ นายอย่าคิดที่จะวางแผนอื่น เพราะเพียงแค่ฉันคิด ฉันก็สามารถททำให้นายตายได้โดยไม่มีที่ฝังศพ!”

พอเขาพูดจบ ตู้อวี้ซานคล้ายรู้สึกเป็นอัมพาต ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

ไม่ใช่ว่า ตราบใดที่หยางเฉินยังมีชีวิตอยู่ ชาตินี้ก็คงจะไม่มีทางหนีจากมือของหยางเฉินไปได้เหรอ?

แม้ว่าจะถูกหยางเฉินตรวนไว้ แต่อย่างน้อยเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ เขากัดฟันแล้วพูดว่า “คุณหยางวางใจได้ ในเมื่อผมเลือกที่จะยอมจํานนแล้ว ผมจะไม่ทรยศ!”

จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “คุณหยาง อย่างนั้นผมจะขอเริ่มก่อนหนึ่งก้าว จัดคนของพันธมิตรพิทักษ์ค้นหาเบาะแสของแม่คุณให้เร็วที่สุด”

หยางเฉินพยักหน้า เมื่อเขาโบกมือ ค่ายใหญ่กลลับก็หายไป

ตู้อวี้ซานมองหยางเฉินด้วยความตกใจและรีบไป

แม้แต่วิญญาณนักบูโดโบราณที่ทรงพลังในร่างกายของเขาก็ถูกหยางเฉินกําจัด สิ่งที่เขาพอจะพึ่งพาได้ที่ใหญ่ที่สุดของเขาหายไปแล้ว ตอนนี้ยังโดนหยางเฉินทำฝังเครื่องหมายการทําลายไว้ในร่างกายเขาอีก เขาทําได้แค่หงุดหงิดใจ

เมื่อเห็นตู้อวี้ซานจากไป หลิวชิ่งและคนอื่นๆ ก็ประหลาดใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าหยางเฉินจะปล่อยตู้อวี้ซานไปจริงๆ

“คุณหยาง!”

หลิวชิ่งเดินมาและพูดด้วยความเคารพว่า “เงื่อนไขสามประการที่คุณพูดก่อนหน้านี้ พวกเราสำนักเทียนไห่ยอมรับ”

“โอ้?”

หยางเฉินประหลาดใจเล็กน้อย ใช้เวลาแค่ที่เขาคุยกับตู้อวี้ซาน สำนักเทียนไห่ก็ได้คําตอบแล้วเหรอ?

หลิวชิ่งกล่าวต่อ “ผมได้ใช้หินส่งเสียงบอกเงื่อนไข 3 ข้อที่คุณขอมากับผู้อาวุโสของสำนักแล้ว หลังจากที่ผู้อาวุโสได้ฟัง ก็ชื่นชมความสามารถของคุณเป็นอย่างมากพร้อมตอบตกลง ไม่เพียงเท่านั้น อาจารย์ของผม ซึ่งก็คือหนึ่งในสามของผู้อาวุโสของสำนักเทียนไห่ ก็พร้อมที่จะออกเดินทางมาพบคุณในโลกมนุษย์แล้ว”

มองเห็นหลิวชิ่งที่มีเคารพตัวเองมาก หยางเฉินก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หลังจากการพิจารณา เขาก็ตอบไปว่า “ผมกําลังจะไปโลกบู๊โบราณกลาง ไม่ต้องให้อาจารย์ของคุณมาที่นี่หรอก ผมจะไปคารวะท่านที่สำนักเทียนไห่ด้วยตัวเอง”

ตอนนี้ฉินซียังอยู่ที่สำนักเหอฮวน อีกสามวันเธอก็จะแต่งงานกับลูกชายสำนักสำนักเหอฮวนแล้ว หยางเฉินต้องรีบไปที่สำนักเหอฮวนก่อน

หลังจากฟังคําพูดของหยางเฉินแล้ว หลิวชิ่งก็ดีใจ เขารีบตอบรับว่า “โอเค ผมจะติดต่ออาจารย์ ให้เขารอรับคุณหยางที่สำนักอย่างยิ่งใหญ่!”