บทที่ 2150
เย่เฉินมองเซียวเวยเวยที่ยืนอยู่ข้างหน้า ถึงแม้เขาจะเปลี่ยนศนคติที่มีต่อเธอเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้สงสารกับชะตากรรมที่เธอเป็นอยู่
หลังจากนั้น เขาก็พูดเบาๆว่า:”หมู่บ้านจูเจียงลี่อิ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เธอเรียกแท็กซี่สักน จ่ายแค่ค่ามิเตอร์อย่างเดียวก็คงจะเกือบจะถึง
แล้ว”
เซียวเวยเวยรีบพูดทันที:”พี่เขย…ตอนนี้ฉันประหยัดทุกบาททุกสตางค์ รถสาธารณะฉันยังไม่กล้าขึ้นเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนั่งรถแท็กซี่…
ขณะพูด เธอก็ชี้ไปที่รองเท้าส้นสูงของตัวเองและพูด:”เดิมที่ฉันตั้งใจจะเดินไปเอง ถ้าทำอย่างนี้สามารถประหยัดเงินได้บ้าง เมื่อสักครู่ฉัน
เห็นคุณออกมาพอดี ดังนั้นฉันก็เลยรวบรวมความกล้าเพื่อขอโทษคุณ และอยากถามว่าคุณสะดวกไปส่งฉันได้ไหม…
อันที่จริง เซียวเวยเวยในเวลานี้ เธอรู้สึกดีต่อเย่เฉิน
ตั้งแต่วันนั้นก่อนที่จะถึงวันตรุษจีน มีบุคคลสำคัญจำนวนมากของจินหลิงมาวยพรวันตรุษจีนที่คฤหาสน์ของเย่เฉิน เธอก็ตระหนักได้
ทันที การดูถูกเหยียบหยามเย่เฉินในวันนั้น มันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของเธอ
เธอตระหนักได้ทันที เย่เฉินในวันนี้ไม่ใช่เย่เฉินคนเก่าที่เธอเคยดูถูกแล้ว
และเย่เฉินก็ดีต่อเซียวชูหร้นมาโดยตลอด เซียวเวยเวยรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
ดังนั้น หัศนคติที่เธอมองเย่เฉินในตอนนี้ มันได้เปลี่ยนไปจากเดิมร้าวฟ้ากับเหว
วันนี้เธอออกจากบ้านและพบเย่เฉินขับรถจักรยานไฟฟ้าผ่านไป เธอก็เลยรวบรวมความกล้าและเรียกเขา
เธอคาดหวังว่าจะใช้โอกาสในครั้งนี้ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเย่เฉินดีขึ้น
แต่เย่เฉินไม่ได้รู้สึกดีต่อเซียวเวยเวยเลย ด้งนั้นเขาจึงเอ่ยปากพูดว่า:”ฉันยังมีธุระต้องไปจัดการ และไม่ได้ไปทางหมู่บ้านจูเจียงลี่อิ่งด้วย
ฉันไม่สะดวกที่จะไปส่งคุณ”
ถึงแม้เชี่ยวเวยเวยจะรู้สึกจิตใจหดหู่เล็กน้อย แต่เธอก็ไม่เข้าไปเช้าซี้ เธอพยักหน้าและพูดทันที:”พี่เขย ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ถ้าคุณมี
ธุระก็รีบไปทำเลย ฉันเดินไปเองได้”
เย่เฉินมองเห็นเธอใส่รองเท้าส้นสูง ถ้าเดินไปคงต้องใช้เวลาสี่สิบนาที ทำให้เขารู้สึกสงสารเธอ ดังนั้นเขาจึงพูดว่า:”เอาอย่างนี้ละกัน พวก
เราเพิ่มเพื่อนทางวีแชท เดียวฉันจะโอนเงินผ่านวีแชทไปให้คุณ”
เซียวเวยเวยพูดออกมาทันที:”พี่เขย ฉันไม่เอา…ฉันเอาเงินของคุณไม่ได้…
เย่เฉินพูดอย่างใจเย็น:”การที่คุณเรียกฉันว่าพี่เขยอย่างจริงใจ ฉันช่วยคุณก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้คุณเจอฉัน ถ้าตอนนี้คุณ
เจอพี่สาว เธอก็ต้องช่วยคุณอย่างแน่นอน”
เซียวชูหรันเป็นคนที่ใจดีและใจบุญ และไม่ใช่คนที่ชอบเคียดแค้น ถ้าให้เธอเห็นสภาพตอนนี้ของเซียวเวยเวย เธอก็คงช่วยเหลือเชียว
เวยเวยอย่างแน่นอน
เมื่อเชียวเวยเวยได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอรู้สึกซาบซึ้งและละอายใจ และพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น.”พี่เขย เมื่อก่อนฉันทำกับคุณแบบนั้น แต่
คุณยังยอมยื่นมือช่วยฉันอีก…ฉันรู้สึก…ฉันรู้สึก….
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เซียวเวยเวยก็ร้องไห้ออกมาทันที
วันนี้ เธอเข้าใจแล้วว่าอะไรคือการใช้ใช้ความเมตตาตอบแทนความแค้น
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น เมื่อก่อนฉันเคยล่วงเกินผิดใจกับคนๆนั้น ในเวลานี้คนๆนั้นคงเหยียบย่ำฉันให้ต่ำลงและคงหัวเราะเยาะเย้ยฉันด้วย
แต่เย่เฉินไม่เพียงไม่ดูถูกเหยียบหยามเธอ แต่กลับเต็มใจที่จะช่วยเธอด้วย เรื่องนี้เธอคาดไม่ถึงจริงๆ
ในเวลานี้เย่เฉินเอ่ยปากพูด”พอได้แล้ว อย่าร้องไห้อีกเลย และไม่ต้องปฏิเสธด้วย รีบเพิ่มฉันเป็นเพื่อนทางวีแซทเดี๋ยวนี้ ฉันยังมีธุระต้อง
ไปจัดการ ต้องเดินทางตอนนี้เลย”
เซียวเวยเวยรีบพยักหน้าทันที แต่เมื่อเธอเอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าตัวเองจึงตระหนักได้ว่า เธอไม่มีโทรศัพท์…
โทรศัพท์ของเธอ โดนลูกน้องของอู๋ตงไห่ยึดไปนานแล้ว
ดังนั้น เธอจึงพูดด้วยความประหม่าว่า:”พี่เขย…คือ…ฉัน…ฉัน…ฉันไม่มีโทรศัพท์….