ตอนที่ 2489 น่าอัศจรรย์! อานุภาพของเตากระบี่

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

มองจากภายนอกก็เห็นได้อย่างชัดเจน

ในค่ายกลแดนบัวแดงมีภาพผลาญทำลายฟ้าดิน ฝนเพลิงชวนประหวั่น กลายเป็นภาพโลกมลาย เสียงกึกก้องดังครั่นครืน อานุภาพไร้จำกัด

เมื่อมหาจักรพรรดิสามสิบหกคนของตระกูลเหวินเข้าไปในกระบวนค่ายกล ต่างคนต่างครอบครองฐานค่ายกลแห่งหนึ่ง อานุภาพทั่วกระบวนค่ายกลพลันยกระดับขึ้นอีกช่วงใหญ่

ทะเลเพลิงดุจคลั่งโทสะ

เต็มไปด้วยเคราะห์สังหาร!

แค่มองจากไกลๆ ก็ทำให้ผู้คนหวั่นหวาด น่ากลัวเกินไปแล้ว

หากเปลี่ยนเป็นพวกเขาติดอยู่ในนั้น เกรงว่าคงไม่อาจยืนหยัดได้อย่างสิ้นเชิง เพียงชั่วขณะก็คงถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน

แต่ในสถานการณ์อันตรายเช่นนี้

หลินสวินมองห้วงอากาศ สีหน้าเรียบเฉย ประหนึ่งเดินเล่นบนทางราบ เห็นเคราะห์สังหารมาเยือน เขาแค่ขยับกายเล็กน้อย

จากนั้น…

ตูม!

หลินสวินก้าวออกไปก้าวหนึ่ง ในจุดชีพจรรอบตัวมีปราณกระบี่เจิดจรัสบาดตานับไม่ถ้วนพุ่งออกมา เจือเสียงกระบี่ครวญกึกก้อง ดั่งรุ้งเทพสีทองทะลวงฟ้าดิน ตัดผ่านเก้าชั้นฟ้า พุ่งทะยานไปทั่วทิศทันที

ค่ายกลแดนบัวแดงลี้ลับเกินคาดเดาเพียงใด แต่ภายใต้ฝนกระบี่ดุดันไร้ขอบเขตนี้ กลับไม่อาจขวางได้แม้แต่น้อย

ก็เห็น…

ระดับจักรพรรดิของตระกูลเหวินสามสิบหกคนที่ควบคุมอยู่ในกระบวนค่ายกล ยังไม่ทันได้ตอบสนองร่างกายก็ถูกปราณกระบี่ดุดันโหมกระหน่ำ บดขยี้เป็นหยาดโลหิต จิตสิ้นวิญญาณสลาย

ปราณกระบี่ไร้ใดเปรียบนั่นโหมทำลาย ทั้งสลายพลังผนึกในกระบวนค่ายกลทั้งหมด อานุภาพดุจผ่าลำไผ่ เคลื่อนกวาดไปทั่ว

ตูม!

เพียงชั่วขณะเท่านั้น

กระบวนค่ายกลราวกับดอกบัวสีแดงพันจั้งนั้นพลันระเบิดออก เศษกลีบดอกไม้ที่ลุกโชนลอยล่องฟุ้งกระจาย งดงามตระการตา

ชั่วขณะนั้นทุกคนล้วนสั่นสะท้าน

การโจมตีเดียว

ฆ่าจักรพรรดิสามสิบหกคน ทำลายค่ายกลแดนบัวแดง!

แม้แต่บุคคลแห่งยุคพวกนั้นยังเบิกตากว้างยากจะเชื่อ

เหวินเทาเลวี่ยที่ก่อนหน้านี้นั่งอยู่บนกิเลนดำ ลูบเคราพลางยิ้มกล่าว ตอนนี้ใบหน้าชรากลับอึมครึม ไม่น่าดูถึงขีดสุด

ลั่วหลิงก็ตกตะลึง หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย

ค่ายกลแดนบัวแดงนั่นเป็นถึงกระบวนค่ายกลชวนสะพรึงที่กักขังบรรพจารย์จักรพรรดิได้ แต่กลับถูกเหยียบพินาศอย่างง่ายดายเช่นนี้ ทั้งหมดอยู่เหนือความคาดหมายของนางโดยสิ้นเชิง

ท่ามกลางละอองแสงโปรยปราย เงาร่างสูงตระหง่านของหลินสวินพุ่งออกมา กลิ่นอายแกร่งกล้าจนเหมือนเทพออกศึก สะท้านฟ้าสะเทือนดิน

มองจากไกลๆ ตัวเขาราวกับหุบเหวหนึ่งพุ่งปะทะไปเบื้องหน้าฉับพลัน

เพียงชั่วขณะระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่งที่เฝ้าอยู่ตรงนั้นร่างระเบิดกระจุยทันที ต้านอานุภาพการโจมตีของหลินสวินไม่อยู่โดยสิ้นเชิง

เลือดสีสดสาดกระเซ็น เสียงร้องทุรนทุรายดังขึ้น

หลินสวินไม่ยั้งมือแม้แต่น้อย ทั้งยังคิดฝ่าวงล้อมออกไปจากเมืองนี้ด้วย

ดังนั้นยามเขาลงมือจึงสำแดงอานุภาพแท้จริง พุ่งตัวกระแทกร่างของมหาจักรพรรดินับไม่ถ้วนไปตลอดทาง ซากแขนขาดวิ่นมากมาย เลือดสีสดราวน้ำตก ลากยาวเป็นทางโลหิตทิ้งไว้เบื้องหลัง

ในที่นั้นสับสนอลหม่าน ทุกคนหน้าเปลี่ยนสี

“เจ้าเดรัจฉานนี่จะฝ่าวงล้อมออกไป รีบลงมือขวางเขาไว้เร็ว!”

“ลงมือ! ลงมือ!”

“ให้เขาหนีไปไม่ได้เด็ดขาด…”

เสียงตวาดสะท้านฟ้าดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ตูม!

เหล่าระดับจักรพรรดิได้สติกลับมา ทั้งหมดล้วนพุ่งไปทางหลินสวิน ตั้งกระบวนรบเรียงราย ต่างฝ่ายต่างเค้นสมบัติและวิชามรรคออกมาเต็มที่ ล้อมโจมตีหลินสวินอย่างต่อเนื่อง

ระดับจักรพรรดิพวกนี้ไม่ใช่คนที่เทียบกับคนทั่วไปได้ ส่วนใหญ่มาจากตระกูลเหวิน ตระกูลเหิง ตระกูลลั่ว แต่ละคนล้วนผ่านการเข่นฆ่านองเลือดมานับไม่ถ้วน ตัวพวกเขาสวมชุดเกราะ มือถือศาสตราจักรพรรดิอัศจรรย์เหนือธรรมดา อานุภาพของแต่ละชิ้นล้วนชวนตะลึงเป็นอย่างยิ่ง

เวลานี้เมื่อล้อมโจมตีพร้อมกัน บุคคลแห่งยุคบางส่วนเห็นแล้วยังสูดหายใจสะท้านอย่างอดไม่ได้

ตูม!

ท่ามกลางเสียงกัมปนาทสะท้านฟ้าสะเทือนดิน อานุภาพการโจมตีของหลินสวินถูกขวางไว้ทันที ความเร็วก็เปลี่ยนเป็นช้าลง

“ฆ่า!”

ระดับมหาจักรพรรดิพวกนั้นเห็นดังนี้ก็ยิ่งฉวยโอกาสล้อมเข้ามา เพลิงทอง ศาสตราวุธ กระบี่บิน ประกายดารานับไม่ถ้วนตัดผ่านอากาศ กลายเป็นกระแสพลังชวนประหวั่น พุ่งจู่โจมไปทางหลินสวิน

มหาจักรพรรดิอย่างน้อยร้อยคนร่วมมือกันเป็นอย่างไร

อีกทั้งยังเป็นผู้โดดเด่นในบรรดามหาจักรพรรดิด้วย ต่อให้บรรพจารย์ขั้นเก้าอยู่ที่นี่ ก็ใช่ว่าจะต้านการโจมตีของพวกเขาได้!

โครม ครืน…

ฟ้าดินแถบนี้สับสนอลหม่าน พลังผนึกที่ปกคลุมเมืองถูกกระตุ้น ส่งเสียงโคจรดังกัมปนาท

วิชามรรคยาวร้อยพันจั้งหลากสายพาดขวางท้องนภา กระบวนรบเรียงราย ศาสตราจักรพรรดินับไม่ถ้วนฉีกผ่านแผ่นฟ้าเหมือนรุ้งเทพแน่นขนัด ส่องแสงประกายเยียบเย็น

มหาจักรพรรดิพวกนี้มีประกายแสงไหลวนทั่วร่าง ยามนี้เมื่อโจมตีพร้อมกันก็เหมือนซัดทลายเวิ้งฟ้า ทุ่มกระแทกพื้นดิน มลายล้างโลกหล้า!

มองจากไกลๆ ก็ได้ยินแต่เสียงฆ่าฟัน แสงศักดิ์สิทธิ์มหามรรคที่ส่องประกายโชติช่วงนับไม่ถ้วนเอ่อล้นไปทั่วทิศ ศาสตราจักรพรรดิและวิชามรรคมากมายเบียดเสียดคับฟ้าดินแถบนั้น โอบล้อมหลินสวินไว้ภายใน แทบจะมองไม่เห็นเงาร่างของเขา

“ยังดีที่ไม่ได้รับมือยากอย่างที่คิด ขอแค่กักขังเขาไว้ได้ สถานการณ์ย่อมถูกตัดสิน” ลั่วหลิงเป่าปากโล่งใจจากไกลๆ นางไม่ได้ลงมือด้วยตัวเอง หากแต่คอยเป็นกองหนุน

“เดรัจฉานนี่สามารถยกให้เจ้าเป็นๆ ได้ แต่ก่อนหน้านั้นข้าจะทึ้งเอ็นเถือหนัง สับเนื้อหักกระดูก!” เหวินเทาเลวี่ยสีหน้าเหี้ยมเกรียม แววตาชวนประหวั่น

ก่อนหน้านี้ค่ายกลแดนบัวแดงถูกทำลาย มหาจักรพรรดิตระกูลเหวินสามสิบหกคนของเขาล้วนประสบเคราะห์ นี่ทำให้ใจเขาเลือดหลั่งริน

“ได้” สีหน้าของลั่วหลิงดูผ่อนคลาย ขอแค่หลินสวินไม่ตาย ถูกทรมานจนมีสภาพไหนล้วนไม่เป็นไร

ก็ในตอนนี้เอง

ตูม!

กลางสนามรบพลันมีเสียงดังกระหึ่ม

เสียงกัมปนาทนั้นสะเทือนแก้วหู เสียดแทงเข้าไปถึงส่วนลึกของจิตวิญญาณ ราวกับระฆังสำริดโบราณถูกเคาะให้เกิดเสียง ดังกังวานเหมือนระฆังใบใหญ่

เกือบจะเวลาเดียวกัน คลื่นมหามรรคหลากสายที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแผ่กระจายไปทั่วทิศ มหาจักรพรรดิทุกคนที่สัมผัสโดนล้วนสั่นไปทั้งตัวราวกับถูกฟ้าผ่า ส่วนเหล่าระดับจักรพรรดิที่อยู่ใกล้แกนกลางยิ่งแบกรับไม่ไหว ร่างระเบิดออกโดยตรง แม้แต่จิตวิญญาณยังถูกซัดแตก

จากนั้นเตาหลอมสามขาสองหูใบหนึ่งก็เผยอานุภาพร้ายกาจ ส่องประกายสว่างไสว สาดละอองแสงศักดิ์สิทธิ์นับหมื่นแสนออกมาทันที

พริบตานี้ศาสตราจักรพรรดิที่อานุภาพเกินคาดเดามากมายระเบิดดังปึงปัง กลายเป็นเศษเหล็กซากทองแดงราวกระดาษเปื่อยยุ่ย จิตวิญญาณหายไปสิ้น

วิชามรรคมากมายเหมือนฟองสบู่ ยังไม่สัมผัสเตาหลอมก็ถูกละอองแสงไร้สิ้นสุดกวาดล้างหายไปจนเกลี้ยง

อานุภาพนั่นทำให้ฟ้าดินแถบนั้นต่างคร่ำครวญ น่าหวาดกลัวไร้ขอบเขต!

“นี่เป็นสมบัติระดับใด?!”

เสียงร้องอุทานดังขึ้น

“ยอดศาสตรามรรคจักรพรรดิยังไม่น่ากลัวเช่นนี้ หรือว่าเตาหลอมนี้เป็นศาสตรามรรคอมตะ” คนนับไม่ถ้วนตกตะลึงหน้าเปลี่ยนสี

แค่สมบัติชิ้นเดียวเท่านั้น เพิ่งปรากฏตัวก็มีอานุภาพสยบคนส่วนใหญ่ในที่นั้นแล้ว!

แค่มองจากไกลๆ ยังพาให้คนอกสั่นขวัญแขวน

“เอ๋!” ฮว่ารั่วซวีที่ชมการต่อสู้อยู่ห่างไกลเผยสีหน้าจริงจังเป็นครั้งแรก “เตาหลอมนี้แฝงกลิ่นอายอมตะ แต่กลับไม่ใช่ศาสตรามรรคอมตะ ทั้งไม่ใช่สิ่งที่ยอดศาสตรามรรคจักรพรรดิเทียบได้ ประหลาดจริงๆ”

“ไม่ธรรมดาจริงๆ” ฮูหยินงามชุดม่วงก็ออกอาการตกใจเช่นกัน

ด้วยสายตาของพวกเขา มีหรือจะมองไม่ออกว่าอานุภาพของเตาหลอมนี้น่ากลัวแค่ไหน แน่นอนว่าล้ำเลิศเหนือศุภโชค ยากพบเห็นเป็นอย่างยิ่ง

ตูม!

ในสนามรบ การปิดล้อมอย่างแน่นหนานั้นถึงกับมีสัญญาณว่าจะถูกทำลาย เมื่อหลินสวินเรียกเตากระบี่ออกมา ความแกร่งกล้าของพลังทำลายล้างก็ทำให้ระดับจักรพรรดิสิบกว่าคนวิญญาณกระเจิงจิตแตกซ่านลงตรงนั้น

แต่นี่ยังไม่ถือว่าครบถ้วน

เห็นว่าศัตรูมากมายจะล้อมโจมตีเข้ามาอีกครั้ง ในเตากระบี่มีเสียงกระบี่ครวญดังขึ้นทันที

เบื้องบนสะท้านเก้าชั้นฟ้า

เบื้องล่างสะเทือนสิบทิศ

กระบี่มรรคเรียบง่ายไม่หรูหราเล่มหนึ่งปรากฏออกมา ฟาดฟันไปกลางอากาศ

ฟุ่บ!

ปราณกระบี่สายหนึ่งพุ่งทะลวงเวิ้งฟ้า เจิดจรัสไร้จำกัด ภายในแฝงอานุภาพน่ากลัวเกินคาดเดา เมื่อปราณกระบี่ตวัดลง ฟ้าดินแถบนั้นล้วนสั่นสะเทือน ห้วงอากาศทรุดตัวดังครั่นครืน

ส่วนเงาร่างที่ขวางหนทางเบื้องหน้าหลินสวินล้วนระเบิดออกทั้งหมด ถูกปราณกระบี่ดุดันไร้ใดเปรียบบดขยี้โดยตรง ไม่อาจแบกรับการกำราบนั้นได้อย่างสิ้นเชิง

วิชามรรคและสมบัติพิทักษ์กาย ล้วนเปราะบางเหมือนกระดาษเปื่อย!

เพียงพริบตาเบื้องหน้าหลินสวินปรากฏทางโลหิตว่างเปล่ายาวพันจั้งสายหนึ่ง มีเพียงกลิ่นคาวเลือดเข้มข้นโหมกระหน่ำ

เฮือก!

เสียงสูดหายใจสะท้านนับไม่ถ้วนดังขึ้น เหล่าผู้ชมต่างตกตะลึงตาค้าง ถูกอานุภาพของกระบี่เดียวนี้ทำให้ตกตะลึงอย่างหนัก จิตใจสั่นสะท้าน

ทำไมบนโลกนี้ถึงมีศาสตราจักรพรรดิเช่นนี้อยู่

กระบี่กับเตาหลอมอยู่ร่วมกัน ทรงพลังเกินต้านทาน กำราบทั้งที่นั้น!

แค่การโจมตีเดียวก็ฆ่าระดับจักรพรรดิไปหลายสิบคน ภายในนั้นยังมีบรรพจารย์ขั้นเก้าอีกเจ็ดแปดคนด้วย!

บรรยากาศสนามรบนี้ล้วนเงียบสงัด

เวลานี้ผู้คนถึงเพิ่งรู้ซึ้งว่าทำไมหลินสวินถึงสังหารบรรพจารย์มรรคเหิงเทียนซั่วได้ ทั้งเหตุใดถึงฝากชื่อไว้บนกระดานเร้นลับได้!

ไม่ว่าจะเป็นพลังต่อสู้ของเขาหรือศาสตราจักรพรรดิที่ยึดกุมในมือ ล้วนเรียกได้ว่าเย้ยฟ้า เหนือกว่าคนระดับเดียวกัน สังหารจักรพรรดิเหมือนถางหญ้า ทรงพลังไร้เทียมทาน!

หลินสวินฉวยโอกาสนี้พุ่งตัวออกไปอีกช่วงใหญ่

แต่รัศมีพันลี้นี้ล้วนถูกผนึกปกคลุมแน่นหนา ยังพุ่งออกไปได้ไม่ไกล หลินสวินก็ถูกพลังผนึกขวางไว้

ตูม!

ลายมรรคผนึกแน่นขนัดราวกับสายน้ำแห่งธารสวรรค์ทลายเขื่อน กระพือพัดใส่เงาร่างของหลินสวินอย่างหนักหน่วง

หลินสวินขมวดคิ้ว ฟันกระบี่หนึ่งออกไป

เพียงชั่วขณะกระบวนค่ายกลผนึกนี้ถูกฟันจนม้วนซัดรุนแรง สุดท้ายก็ต้านการโจมตีอย่างหนักหน่วงไม่อยู่จนระเบิดออกทันที

“เจ้าหนู ตายซะ!”

เสียงตวาดหนึ่งดังขึ้นกะทันหัน ทวนศึกสีเงินเล่มหนึ่งตัดผ่าอากาศ แฝงอานุภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของระดับบรรพจารย์

แค่การโจมตีเดียวเท่านั้น ฟ้าดินไร้ขอบเขตเต็มไปด้วยประกายสีเงินยวง

คนที่ลงมือคือบรรพจารย์มรรคเหวินเทาเลวี่ยนั่นเอง เขาคอยเป็นกองหนุนมาตลอด เดิมคิดว่าการจับตัวหลินสวินเหมือนล้วงของในถุงหนัง

แต่เมื่อหลินสวินเรียกเตากระบี่ออกมา สถานการณ์พลันเกิดการพลิกผัน ทำให้เขานั่งไม่ติดเช่นกัน พุ่งโจมตีเข้ามาในทันที

เคร้ง!

หลินสวินใช้เตากระบี่ขวางไว้ ทั้งสองปะทะกัน ละอองแสงหมื่นจั้งสาดกระเซ็น

เงาร่างหลินสวินไหวเอนเล็กน้อย แค่นเสียงเย็นชาอย่างอดไม่ได้ “เจ้าเฒ่า นี่เจ้าอยากเจริญรอยตามเหิงเทียนซั่วรึ!”

เขาพูดพลางกระตุ้นเตากระบี่ พุ่งไปข้างหน้าอย่างแข็งกร้าว

“เดรัจฉาน ปล่อยเจ้าไว้ไม่ได้!”

เหวินเทาเลวี่ยตวาดลั่น บังคับกิเลนดำให้ทะยานอากาศพุ่งโจมตีเข้ามา อานุภาพดุจทวยเทพ ทวนศึกสีเงินเล่มหนึ่งส่องสะท้อนฟ้าดิน

ผู้สังเกตการณ์ที่อยู่ห่างไกลหายใจติดขัด จิตใจปั่นป่วน พลังของบรรพจารย์มรรคทำให้พวกเขาหวั่นหวาดยามชมการต่อสู้ เกือบจะรับไม่ไหว

แต่เหนือความคาดหมายของทุกคน การโจมตีที่น่ากลัวนั้นของเหวินเทาเลวี่ยถึงกับถูกหลินสวินต้านได้อีกครั้ง ทั้งสองประมือกันหลายสิบคราในชั่วพริบตา ทุกครั้งล้วนเป็นการปะทะซึ่งหน้า แค่พลังที่แผ่กระจายออกมายามห้ำหั่นก็ทำให้ระดับจักรพรรดิบางส่วนไม่อาจเข้าใกล้!

ผู้คนดวงตาแข็งทื่อ ขนพองสยองเกล้า หลินสวินนี่… สู้กับบรรพจารย์มรรคซึ่งหน้าได้จริงหรือ!?

ไม่รอให้ผู้คนตอบสนองก็ได้ยินเสียงชิ้งดังสนั่น

กระบี่ครวญราวกระแสน้ำ

กระบี่มรรคไร้ก้นบึ้งพุ่งออกมาอีกครั้ง ตวัดผ่านห้วงอากาศทันที

“โฮก…”

กิเลนดำที่เหวินเทาเลวี่ยโดยสารกรีดร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด ถูกปราณกระบี่กวาดโดนตรงๆ ท้องเหวอะอกเปิด เลือดไหลทะลักออกมา

………………………