บทที่ 2155

ซูรั่หลีไม่อยากเป็นศัตรูกับพ่อแท้ๆ พี่ชาย พี่สาวต่างมารดาของตัวเอง เย่เฉินไม่เพียงไม่โกรธ แต่เขากลับรู้สึกโล่งใจด้วย

อันที่จริง ถ้าคนๆหนึ่งสามารถลงมือทำร้ายพี่น้องของตัวเอง หรือแม้กระทั่งพ่อของตัวเอง เย่เฉินก็จะระแวดระวังคนประเภทนี้มากๆ
เพราะในความคิดของเขา ไม่ว่าคนๆนั้นจะเลวแค่ไหน เขาก็ต้องมีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่บ้าง ถ้าคนๆหนิ่งไม่เหลือความเป็นมนุษย์
แล้ว ถึงแม้คนๆนี้จะเชื่อฟังตัวเองในวันนี้ พรุ่งนี้เขาอาจจะใช้มีดแทงที่หัวใจของตัวเองก็ได้

ดังนั้น ในความคิดของเขา ถึงแม้ชูรั่วหลีจะฆ่าล้างทุกคนในตระกูลมัตสีโมโตะ แต่อย่างน้อยเธอยังมีความเป็นมนุษย์อยู่

เหตุผลที่เธอฆ่าล้างตระกูลตระกูลมัตสีโมโตะ นั้นเป็นเพราะเธอทำตามคำสั่ง

มันก็เหมือนกับทหาร ไม่ว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงของเขาจะสั่งกรอะไรลงมา ในฐานะที่เขาเป็นทหารที่มีคุณสมบัติที่ดี ทหารจะต้องเชื่อ
ฟังคำสั่งทุกอย่าง

มิฉะนั้น เขาก็จะกลายเป็นทหารที่มีคุณสมบัติไม่ดี

ดังนั้นย่เฉินไม่มีความเห็นใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเอ่ยปากพูด”พวกเราสองคนมีความแค้นใหญ่หลวงกับระกูลซุ คุณเกลียดซูเฉิงเฟิง
ส่วนฉันเกลียดซูโสว่ต้า คุณต้องการคำตอบจากซูเฉิงเฟิง ส่วนฉันต้องการคำตอบจากชูโสว่เต้า ดังนั้นพวกเราสองคนต้องร่วมมือกันเพื่อเผชิญ
หน้ากับตระกูลซู”

ซูรั่หลีลังเลอยู่ชั่วครู่ และเอ่ยปากถาม:”คุณชายเ คุณเกลียดพ่อของฉัน เพราะเป็นเรื่องของพันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่ที่เกิดขึ้นเมื่อ
ก่อนใช่ไหม?”

เย่เฉินพยักหน้าและพูดอย่างเย็นชา:”ในตอนนั้น ซูโสว่เต้าชูธงของกลุ่มพ้นธมิตรต่อต้านตระกูลเย่ และรวบรวมคนกลุ่มหนึ่งและกลั่น
แกล้งพ่อของฉัน ถึงแม้ฉันไม่รู้ว่าการเสียชีวิตของพ่อ เกี่ยวอะไรกับเขาและพันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่หรือเปล่า แค่การจัดตั้ง’พันธมิตรต่อต้าน
ตระกูลเย่’ เขาก็เป็นศัตรูของฉันแล้ว!”

ซูรั่วหลีถามอีกครั้ง:”คุณชายเย่ คุณจะฆ่าพ่อของฉัน เพราะเรื่องพันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่หรือเปล่า?”

เย่เฉินครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ และพูดด้วยสีหน้าจริงจัง:”ถ้าพันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่ของชูโสว่เต้า ไม่ได้เป็นฆาตกรที่ฆ่าพ่อกับแม่ของฉัน
โดยตรง หรือไม่ได้มีส่วนร่วมในการสังหารพ่อกับแม่ของฉัน ฉันก็จะไม่ฆ่าใครส่งเดชเหมือนซูโสว่เต้าที่ฆ่าล้างตระกูลมัตสีโมโตะ ฉันจะลงโทษ
เขาตามความผิดที่เขาทำไว้”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินก็แสดงสีหน้าเย็นชาออกมา และพูดอย่างเคร่งขรึม”อย่างไรก็ตาม ถ้าเขามีส่วนร่วมในการทำให้พ่อกับแม่ของฉัน
ต้องเสียชีวิต ถ้างั้นฉันก็จะเอาชีวิตของเขา และใช้ศีรษะของเขา ไปเซ่นไหว้พ่อแม่ของฉัน”

ซูรั่วหลีพยักหน้าเบาๆ

ถึงแม้ว่าเธอไม่ต้องการให้เย่เฉินกับพ่อของเขาต้องมาต่อสู้ก้นในวันข้างหน้า

แต่เธอก็รู้ดีอยู่แก่ใจ เธอไม่สามารถควบคุมเรื่องนี้ได้ และเธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปควบคุมเรื่องนี้เหมือนกัน

เย่ฉินไม่เพียงแข็งแกร่งกว่าตัวเองมากๆ และเย่เฉินก็ยั่งช่วยชีวิตของตัวเองไว้ด้วย ตัวเองม่มีสิทธิ์ไปถามหรือก้าวก่ายเรื่องที่เขาจะแก้
แค้นให้พ่อแม่ของเขาด้วย

ดังนั้น เธอทำได้เพียงแค่อธิษฐานในใจ ภาวนาให้ซูโสวเต้าที่เป็นพ่อของตัวเอง อย่าเป็นฆาตกรที่ทำให้พ่อแม่ของเย่เฉินต้องตายเลย
มิฉะนั้น ด้วยความแข็งแกร่งของเย่เฉิน ถ้าต้องการฆ่าเขา มันเป็นเรื่องง่ายมากๆ

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูรั่วหลีมองไปที่เย่เฉิน และเธอก็คิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเอ่ยปากถาม:”คุณชายเย่ ขอถามหน่อย ฉันจะโทรหาแม่ได้เมื่อ
ไหร่?”

ย่เฉินเอ่ยปากพูด”ตอนนี้ยังโทรหาไม่ได้ คุณรอไปก่อน เหตุผลหลักเพราะกรมีชีวิตอยู่ของคุณในตอนนี้มันส่งผลกระทบมากเกินไป
ข่าวเกี่ยวกับคุณกำลังโหมกระหน่ำไปทั่วเอเชีย รัฐบาลญี่ปุ่นต้องการจับกุมตัวคุณกลับไปรับโทษ ถ้าข่าวการมีชีวิตอยู่ของคุณรั่ไหลออกไป ฉัน
ก็ช่วยคุณไม่ได้เหมือนกัน”

เมื่อพูดจบ เย่เฉินก็พูดอีกครั้ง”ฉันแนะนำให้คุณอดทนรออีกหน่อย เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ฉันก็จะให้คุณติดต่อกับแม่ของคุณอย่าง
แน่นอน”

ชูรั่วหลีพยักหน้าเบาๆและพูดด้วยความเคารพ:”ได้ค่ะ คุณชายเย่ รั่วหลีจะทำตามทุกอย่างที่คุณสั่ง….
เย่เฉินรับปากและพูดทันที:”ช่วงนี้ คุณก็พักผ่อนเยอะๆ”

ซูรั่วหลีรีบพูดทันที:”ได้ค่ะ คุณชายเย่”

เย่เฉินเหมือนคิดอะไรบางอย่างออก และถามด้วยความประหลาดใจ:”เมื่อสักครู่ตอนที่ฉันเข้ามา มองเห็นคุณกำลังฝึกฝนอยู่ใช่ไหม?”
ซูรั่วหลีนึกถึงภาพที่ตัวเองใส่สปอร์ตบราและกางเกงขาสั้น ทำให้เธอเขินอายและพยักหน้า เธอพูด:” ใช่ค่ะ คุณชายเย่ ฉันมักจะฝึกฝน
แบบนี้ทุกวัน”

เย่เฉินถามด้วยความประหลาดใจ:”ยอดฝืมือเต๋าบู๊อย่างพวกคุณ โดยปกติพวกคุณฝึกฝนอะไรบ้าง?”

ซูรั่หลีตอบตามความจริง:”ทุกเช้าฉันจะฝึกมวยสิงอี้เฉวียนที่สืบทอดมาจากตระกูลเหอ”

เย่เฉินถามด้วยความประหลาดใจ:”มวยสิงอี้เฉวียน? เป็นกังฟูที่มีเฉพาะในตระกูลเหอเหรอ?”

“ไม่ได้มีเฉพาะในตระกูลเหอ”ชูรั่วหลืตอบตามความจริง:”อันที่จริงมวยสิงอี้เฉวียนก็คือมวยภายใน และมวยภายในไม่ได้มีแค่ที่ตระกูลเห
ออย่างเดียว”

เนื่องจากตระกูลเยมีการสืบทอดศิลปะการต่อสู้อยู่แล้ว ดังนั้นเย่เฉินก็เคยฝึกมวยหวิงชุนกับพ่อตั้งแต่เด็ก