บทที่ 2196

“งั้นก็ดีแล้ว!” ฉินเอ้าเวี่ยนยิ้มหวานหยด รีบเอาลังยาและกล่องไม้จื่อตั้นอันนั้นที่อยู่ในมือมอบให้เย่เฉิน แล้วแนะนำว่า “อาจารย์เย่ ข้างใน
ลังยาคือวัตถุดิบยาที่คุณต้องการในครั้งนี้ พอฉันจัดให้คุณเรียบร้อยหมดแล้ว ยังมีกล่องไม้จื่อตั้นอันนี้ ด้านในเป็นโสมม่วงล้ำค่าสี่ร้อยกว่าปีต้น
หนึ่ง พ่อฉันบอกว่านี่เป็นของที่เขาได้มาโดยปังเอิญ ยังบอกอีกว่าโสมม่วงนี่จะต้องมีประโยชน์กับคุณแน่ ดังนั้นจึงให้ฉันนำมาส่งให้คุณค่ะ…”

เย่เฉินพูดอย่างแปลกใจเล็กน้อยว่า “โสมม่วงล้ำค่าสี่ร้อยกว่าปี? อเธอไปได้ของดีแบบนี้มาจากที่ไหน?”

ฉินเอาเสวี่ยนแลบสิ้น “อันนี้ฉันก็ไม่รู้ ปกติช่องทงในการได้ยาสมุนไพรของพ่อฉันมีเยอะมาก ฟอค้และชาวสวนมากมายตั้งแต่เหนือ

จรดใต้ล้นตั้งใจส่งมาป็นของกำนัลให้เขา หากครมีสมุนไพรชั้อยู่บ้าง ก็จะเอามาให้เขาดูผ่านตาเป็นคนแรก สงสัยจะเป็นพ่อคำได้มา จาก
นั้นก็ส่งมาที่นี่ล่ะมั้ง”

เย่เฉินพยักหน้า ลอบไตร่ตรองอยู่ในใจ “ยาอายุวัฒนะสามสิบเม็ดที่หลอมเมื่อคราวก่อน ฉันกินเองไปกว่าครึ่งแล้ว ที่เหลือก็แบ่งบ้าง ขาย
บ้าง มอบให้บ้าง รวมๆ อยู่ก็แทบจะหมดแล้ว ตอนแรกคิดว่าหากมีโอกาสจะหลอมเพิ่มอีกหน่อย แต่ก็รู้เช่นกันว่าโสมม่วงที่มีอายุสามร้อยปีขึ้นไป
นั้นหาไม่ง่าย ดังนั้นจึงหาโอกาสหลอมยาไม่ได้มาตลอด คิดไม่ถึงว่าฉินกางจะให้ฉินเอ้าเสวี่ยนนำมามอบให้ที่นี่….

อันที่จริง แม่ในมือเยเฉินจะไม่มีโสมวงล้ำค่สามร้อยปี แต่ในมือเขากสับมีโสมหิมะพันปีต้นหนึ่งที่เวยเสี่ยงมอบให้ในตอนนั้น ซึ่งเป็นของ
ที่ตกทอดมาจากตระกูลทางแม่ของเขา

ราคาของโสมหิมะพันปี สูงกว่าโสมม่วงล้ำค่สามร้อยปีมากนัก วัตถุดิบยาเช่นนั้น หากนำมาหลอมเป็นยาอายุวัฒนะ คงเหมือนกับการเอา
ต้นสนใหญ่มาทำไม้ขีดไฟ ทำลายของดีๆ ไปหมดสิ้น

ตามที่บันทึกไว้ในตำราก้าเสวียนเทียน สรรพคุณของโสมหิมะพัน ห่างไกลจากโสมม่วงสามร้อยปีหลายขุมนัก!

คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็มองโสมม่งล้ำค่าตันนี้ที่ฉินเอ้าเสวี่ยนมอบให้อย่างละเอียด อดกล่าวขึ้นอย่างทอดถอนใจไม่ได้ว่า “คุณภาพของโสม
ม่วงตันนี้ ดูดีกว่าต้นั้นที่ฉันประมูลได้ที่งานประมูลก่อนหน้านี้สียอีก! พ่อเธอคงจะใช้งินไม่น้อยเลยสินะ? ของขวัญที่ล้ำค่าขนาดนี้ จะรับไว้ก็
ละอายใจอยู่บ้างจริงๆ …

ฉินเอาเสวี่ยนรีบพูดว่า “อจารย์เย่ คุณอย่าพูดแบบนี้เป็นอันขาด ด้ายบุญคุณที่คุณมีต่อตระกูลฉินเรา อย่าว่าแต่โสมม่วงต้นหนึ่งเลย ต่อ
ให้เอาทรัพย์สินของตระกูลฉินมอบให้คุณทั้งหมดก็เป็นเรื่องสมควร!”

เย่เฉินหัวเราะฮ่าฮ่า พูดหยอกว่า “เธอนี่ตรงกับที่ว่าลูกขายนาพ่อได้โดยไม่เสียใจจริงๆ ตระกูลฉินของพวกเธอลำบากลำบนสร้างสมบัติ
มาขนาดนี้ตั้งกึ่ยุคกี่สมัย พอเธอเอ่ยปากก็จะยกให้ฉันหมดแล้ว?”

พูดเสร็จ เขาก็เก็บน้ำสียงล้อเล่ลงไป กล่าวอย่างจริงจังว่า “เอาเถอะ โสมม่วงต้นนี้ฉันจะขอรับไว้ เธอช่วยไปขอบคุณพ่อเธอแทนฉัน
ด้วย นอกจากนี้ฝากบอกเขาด้วยว่า พอฉันใช้โสมม่วงต้นนี้หลอมยาเม็ดออกมาได้แล้ว จะต้องส่งไปให้เขาเม็ดหนึ่งอย่างแน่นอน”
พอฉินเอาเสวี่ยนได้ยินเช่นนี้ ในใจก็ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง รีบโค้งคำนับแล้วกล่าวว่า “งั้นก็ขอบคุณอาจารย์เย่มากจริงๆ ค่ะ!”

เย่เฉินยิ้มน้อยๆ กล่าวขึ้นอย่างไม่ใส่ใจว่า “สมควรแล้ว ไม่ต้องเกรงใจหรอก”

พูดจบ ก็กล่าวกับเธอว่า “เอ้าเสวี่ยน เข้ามานั่งสักเดี่ยวเถอะ ฉันจะชงชาให้ดื่ม”

ฉินเอาเสวี่ยนอยากจะรับปากดยสัญชาตญาณ แต่ก็เปลี่ยนความคิด แล้วถามด้วยความกังวลเล็กน้อยว่า “อาจารย์เย่ กรรยาคุณอยู่บ้าน
ไหมคะ? หากเธอเห็นฉันเข้าบ้าน จะไม่พอใจหรือเปล่าคะ?”

เย่เฉินยิ้มกล่าวว่า “จะเป็นไปได้ยังไงกัน ชูหรันเป็นคนนิสัยดีมาก ต้อนรับแขกด้วยความป็นมิตรอย่างมาก หากตอนนี้เธออยู่บ้านล่ะก็ จะ
ต้องมาเชิญเธอเข้าไปด้วยตัวเองแน่ ไม่ถึงตาฉันหรอก”

ฉินเอ้าเสวี่ยนถามอย่างแปลกใจ “ภรรยาคุณไม่อยู่บ้านเหรอ?”

“ไม่อยู่” เย่เฉินพูดออกมาทันที “บริษัทเธอค่อนข้างยุ่ง เลยกลับไปทำงานนานแล้ว ในบ้านมีแค่แม่ยายฉันอยู่”

ฉินเอาเสวี่ยนรีบกล่าวว่า “งั้นฉันยิ่งเข้าไปไม่ได้ใหญ่ หากแม่ยายคุณเข้าใจผิด จะสร้างความเดือดร้อนให้คุณได้”

เย่เฉินยิ้มกล่าวว่า “ไม่มีทางๆ แม่ยายฉันได้รับบาดเจ็บที่ขานิดหน่อย ตอนนี้ช่วงบ่ายของทุกวันจะนอนกลางวันอยู่ในห้อง ตื่นแล้วก็ไม่ลง
มาหรอก”

นี่ถึงค่อยทำให้ฉินเอาเสวี่ยนวางใจลง หัวเราะคิกคักออกมา แล้วพูดว่า “งั้นฉันก็ขอหน้าหนาดื่มชาที่อาจารย์เย่ชงสักแก้ว!”

เย่เฉินเบี่ยงตัวหลบ ทำท่ผายมือเป็นการเชื้อเชิญ แล้วกล่าวว่า “เข้ามาเถอะ!”