จงหลีเซียวสิ้นชีพแล้ว
ซ้ำยังถูกหลินสวินใช้กระบี่มรรคฟันทั้งเป็นภายใต้สถานการณ์ที่บนตัวมีไพ่ตายรักษาชีวิตมากมาย ทว่าแม้แต่ไพ่ตายก็ไม่ทันได้สร้างประโยชน์
ไพ่ตายรักษาชีวิตที่มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิอย่างเขาพกติดตัว ส่วนใหญ่ล้วนประทับพลังระดับอมตะหรือกลิ่นอายระเบียบที่แข็งแกร่งบางอย่างไว้ ครอบครองอภินิหารน่าเหลือเชื่อนานัปการ
แต่สุดท้ายก็ใช่ว่าไร้คู่ต่อกร
เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งในมือหลินสวิน ผ่านการเคี่ยวกรำและแปรสภาพในช่วงหลายปีนี้จนไม่กลัวการโจมตีของไพ่ตายพวกนี้นานแล้ว เรียกได้ว่าทรงพลังเกินต้านทาน
ต้องรู้ว่าถึงตอนนี้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งหลอมวัตถุอมตะไปนับไม่ถ้วน หลายปีมานี้ยังได้รับการฟูมฟักจากพลังระเบียบนานัปการ เปลี่ยนเป็นน่าเหลือเชื่อถึงขีดสุดอยู่ก่อนแล้ว แม้ว่าอานุภาพจะไม่อาจเทียบกับศาสตรามรรคอมตะได้ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ศาสตราจักรพรรดิทั่วไปเทียบได้นานแล้ว
การที่ไม่ยอมเผยให้เห็นก่อนหน้านี้ เพียงแค่กลัวศัตรูพวกนี้หนีไปเท่านั้น
แต่ตอนนี้ถึงเวลาเผยทีเด็ดออกมาแล้ว แน่นอนว่าหลินสวินไม่มีทางปิดบังอำพรางอีก
ฟุ่บ!
หลินสวินโคจรเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ท่ามกลางเสียงกัมปนาทดังครั่นครืนเหมือนจะบดทลายท้องนภา ผู้ฝึกปราณสามสี่คนไม่ทันแม้แต่จะตอบสนอง ร่างกายก็ระเบิดกระจุยกลางอากาศ จิตสิ้นวิญญาณสลาย
อานุภาพนั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว
ก่อนจะใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งหลินสวินก็มีอานุภาพไร้คู่ต่อกร สังหารจนไม่มีใครในที่นั้นต้านทานได้ แต่เมื่อเขาโคจรเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง อานุภาพก็เพิ่มขึ้นอีกช่วงใหญ่กะทันหัน!
จิตต่อสู้ของเหล่าผู้ฝึกปราณที่เหลืออยู่ก็สลายตามไปด้วย หลบหนีไม่เป็นกระบวน ไม่กล้าลังเลและรั้งอยู่อีก
แม้หลินสวินจะตัวคนเดียวแต่กลับเหยียดหยันทั่วสนามรบ กลืนกินภูผาธารา ทรงพลังไร้เทียมทาน นี่คืออานุภาพยิ่งใหญ่ของผู้นำใต้หล้าที่แท้จริงอย่างหนึ่ง!
แม้แต่ผู้แข็งแกร่งของสี่ตระกูลตงหวงก็เสียหายหนักในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เหลือเพียงพวกกู้ปั้นจวงกับอวิ๋นลั่วหงไม่กี่คนที่อาศัยช่วงชุลมุนหนีมาได้
ไม่นานก็เหลือแค่พวกฉีหลิงอวิ๋น ชือพั่วจวิน ลิ่นเฟิงเพียงสิบกว่าคน
“ไม่อาจลังเลได้อีกแล้ว หากไม่ใช้ไพ่ตายอีกพวกเราต้องแพ้หมดรูปแน่” เสียงของฉีหลิงอวิ๋นใสเย็น ดูนิ่งสงบหาใดเปรียบ
จริงอยู่ว่าหลินสวินในตอนนี้แข็งแกร่งถึงขั้นประหนึ่งไร้คู่ต่อกร แต่สาเหตุที่พวกเขาไม่ได้ถอยร่น หนึ่งคือไม่ยินยอม สองก็คือมีที่พึ่งพิง
ตูม!
ห้วงอากาศสั่นสะเทือนรุนแรง ลิ่นเฟิงเงื้อมือซัดประทับมรรคมหึมาหนึ่งออกมา ประทับเก่าแก่เหมือนหล่อจากไพฑูรย์ ส่วนฐานสลักคำว่า ‘พลิกฟ้า’ ไว้สองคำ เจิดจรัสส่องประกาย
ทันทีที่พุ่งออกมา ประทับพลิกฟ้านี้ก็เปลี่ยนขนาดเป็นเท่ายอดเขาลูกหนึ่ง กดกำราบไปข้างหน้า
ตำหนักเซียนใจกลางสั่นสะเทือน ทรุดทลายดังสนั่น หากไม่มีพลังกฎระเบียบลึกลับพิทักษ์ที่แห่งนี้ ที่นี่ต้องราพณาสูรแน่
ตึง!!
หลินสวินลงมือเหมือนจักรพรรดิสวรรค์องค์หนึ่ง ใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งต้านทาน ทั้งสองระเบิดแสงเรืองรองเจิดจรัสถึงขีดสุด เหมือนมีภูเขาไฟแสนลูกปะทุขึ้น อานุภาพของพลังทำลายล้างแผ่กระจาย สั่นสะเทือนใจคน
ทุกคนสะท้านไหว ไม่มีใครไม่ถอยร่น
มีสองคนถูกแฉลบโดน ผิวกายแตกระแหง เลือดสีสดไหลทะลัก ทั้งตัวถูกซัดลอยออกไปอย่างแรง
อานุภาพเช่นนี้บ้าระห่ำเกินไปแล้ว อยู่เหนือการคาดเดาของทุกคน!
หลินสวินเลิกคิ้ว ประทับพลิกฟ้านี้ไม่ธรรมดา ไม่เพียงเต็มไปด้วยกลิ่นอายอมตะ ยังมีพลังระเบียบเป็นเส้นริ้วอบอวลอยู่รางๆ อัศจรรย์เกินคาดเดา
หากไม่เป็นเช่นนี้ลิ่นเฟิงย่อมต้านการโจมตีนี้ไม่อยู่แต่แรก!
ขณะเดียวกันลิ่นเฟิงก็ใจสะท้านไม่หยุด ประทับพลิกฟ้าเป็นถึงสมบัติล้ำค่าที่ได้มาจากผู้ยิ่งใหญ่ระดับอมตะคนหนึ่งในตระกูลฉี ความเป็นมายิ่งใหญ่ ได้ยินว่าเป็นสมบัติเทพฟ้าประทานที่ก่อเกิดในต้นกำเนิดระเบียบแห่งหนึ่ง เป็นหนึ่งไม่มีสอง เรียกได้ว่าภายใต้ประทับย่อมพลิกฟ้าพลิกดิน!
ด้วยติดตามฉีหลิงอวิ๋นออกเดินทางครั้งนี้ ลิ่นเฟิงจึงมีโอกาสใช้สมบัตินี้เป็นไพ่ตาย ไม่อย่างนั้นด้วยฐานะในตระกูลฉีของเขา ย่อมไม่มีคุณสมบัติพอจะใช้สมบัตินี้แต่แรก
แต่ตอนนี้สมบัติที่แข็งแกร่งอย่างประทับพลิกฟ้าก็ถูกขวางแล้ว!
หลินสวินลงมืออย่างอหังการแกร่งกล้า องอาจเหนือใต้หล้า พุ่งโจมตีมาอีกครั้ง
ลิ่นเฟิงไม่กล้าประมาท แทบกระตุ้นประทับพลิกฟ้าเหมือนเอาชีวิตเข้าแลก อานุภาพระดับมกุฎบรรพจารย์ทั้งตัวดุจเขาถล่มสมุทรคำราม น่าหวาดกลัวไร้จำกัด
หลินสวินเฉยชา ใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งมาต้านทาน เกิดเสียงดังเคร้งอึกทึกสนั่นหู
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
ทุกการโจมตีล้วนเรียกได้ว่าสะท้านโลก แม้ว่าประทับพลิกฟ้าจะสมบูรณ์ไม่สึกหรอ แต่ลิ่นเฟิงกลับถูกซัดจนเลือดลมตีกลับ เงาร่างเซถอยอย่างต่อเนื่อง ถึงตอนท้ายก็เลือดกบปากจมูก!
“ฆ่า!”
ในช่วงเวลาสำคัญชือพั่วจวินพุ่งเข้ามา เบื้องหน้าปรากฏน้ำเต้าทองม่วงลูกหนึ่ง ธารดาราเวิ้งว้างไร้สิ้นสุดแถบหนึ่งไหลพุ่งออกมาจากน้ำเต้า ปกคลุมฟ้าดินราวกับมหาสมุทร ชวนประหวั่นไร้ขอบเขต
สิ่งที่อบอวลในธารดารานั้นคือกลิ่นอายอมตะเป็นเส้นริ้ว ครอบคลุมห้วงอากาศ ดับสลายสรรพสิ่ง
นี่คือภาพชวนประหวั่นถึงขีดสุดอย่างหนึ่ง แค่ธารดาราสายหนึ่งเท่านั้น กลับคล้ายจะหลอมสรรพสิ่งบนโลก ทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งหมดภายในนั้น!
ส่วนน้ำเต้าทองม่วงนั้นก็มีสัญลักษณ์นานัปการแผ่คลุม ราวกับจอมเทพสำนักพรตในตำนาน ควบคุมดูแลเหนือเก้าชั้นฟ้า ควบคุมธารดาราสายนั้นแต่ไกล กวัดแกว่งจักรวาล
ไม่ต้องสงสัยว่าน้ำเต้าทองม่วงนี้ก็เป็นยอดอาวุธสังหารที่น่าเหลือเชื่อชิ้นหนึ่ง เจตะอมตะอบอวล ต้องการจะหลอมหลินสวิน
เงาร่างที่จู่โจมอย่างอาจหาญของหลินสวินหยุดชะงักในพริบตา ถูกธารดาราอมตะสายนั้นโจมตี ราวกับจมอยู่ในมหาสมุทร
อีกด้านหนึ่งลิ่นเฟิงโคจรประทับพลิกฟ้าโจมตีอย่างแข็งกร้าว ร่วมมือกับชือพั่วจวิน ถึงกับมีท่าทีว่าจะกำราบหลินสวินได้รางๆ
หลายคนเห็นแล้วใจสะท้าน
ฉีหลิงอวิ๋นกล่าวตัดสินใจอย่างเด็ดขาดทันที “ทุกท่านยังรออะไรอยู่ ตอนนี้ไม่มีหนทางให้ถอยแล้ว พวกเราเข้าไปพร้อมกัน ร่วมมือกันฆ่าเขาซะ!”
“ฆ่า!”
พวกเขาส่งเสียงคำราม บุกสังหารไปข้างหน้า ศาสตราวุธนานัปการ เจดีย์สมบัติ โคมโบราณ บรรทัดหยก กระบี่เทพ… แสงสมบัติเริงระบำสาดส่องทั่วฟ้า พุ่งไปทางหลินสวินพร้อมกัน
ภายในนั้นยังมีไพ่ตายล้ำค่าที่ลึกลับหาใดเปรียบนานัปการ อย่างยันต์ที่ประทับเจตจำนงอมตะ แผนภาพที่เต็มไปด้วยอานุภาพสังหารล้นฟ้า…
พลังนั้นล้วนกำราบบรรพจารย์จักรพรรดิได้โดยง่าย!
ตูม…
เสียงกัมปนาทสะท้านฟ้าสะเทือนดินดังก้อง บริเวณที่หลินสวินอยู่เกิดกระแสพลังทำลายล้างชวนประหวั่นถึงขีดสุดปกคลุมห้วงอากาศแถบนั้นไว้อย่างสมบูรณ์
นี่ต้องเป็นเคราะห์สังหารถึงชีวิตแน่ เกรงว่าระดับจักรพรรดิคนใดอยู่ที่นี่ก็หนีความตายไม่พ้น
ทว่าไม่นานทุกคนต่างต้องตกใจ
เมื่อละอองแสงและแสงสมบัติจางไป บริเวณที่หลินสวินอยู่ล้วนถูกทำลาย ห้วงอากาศทรุดตัว แต่เขากลับปลอดภัย!
เขายืนอยู่ตรงนั้น แววตาลุ่มลึก เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งลอยเหนือศีรษะ แสงมรรคนับหมื่นแสนโน้มลงมาป้องกันเขาไว้ภายในราวหมื่นวิชาไม่อาจกล้ำกราย
การโจมตีถึงชีวิตที่น่าหวาดกลัวก่อนหน้านี้ กลับไม่อาจทำลายการป้องกันของเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งได้!
“นี่…”
ฉีหลิงอวิ๋นหน้าเปลี่ยนสีแล้ว
คนอื่นยิ่งนัยน์ตาหดรัด ในใจเย็นวาบ ในการโจมตีนี้พวกเขาใช้ไพ่ตายกันหมด ล้วนคุกคามชีวิตของระดับอมตะได้!
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินสวินแล้วกลับยังคงไม่ได้ผล
ชิ้ง!
ก็เห็นเงาร่างหลินสวินไม่ขยับ กระบี่มรรคเล่มหนึ่งในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกลับพุ่งออกมา โฉบตรงไปข้างหน้า
เสียงฟุ่บดังขึ้นเบาๆ ผู้ฝึกปราณคนหนึ่งหว่างคิ้วระเบิด ถูกทะลวงเป็นรูโหว่ชุ่มเลือด น้ำเลือดแดงสดสาดกระเซ็นขึ้นมา เขาล้มหงายหลังแล้วแน่นิ่งไป
นี่คือบรรพจารย์จักรพรรดิคนหนึ่งที่ติดตามข้างกายชือพั่วจวิน มีชีวิตอยู่มาไม่รู้กี่หมื่นปี แต่กลับต้านพลังกระบี่ของหลินสวินไม่อยู่!
บรรยากาศวังเวงทันที เสียงตะโกนโห่ร้องเงียบสงบ คนมากมายหวั่นหวาด หยุดเท้าโดยไม่รู้ตัว
แต่การโจมตีของหลินสวินไม่ได้หยุดลง เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกำราบกลางฟ้าดิน แสงมรรคไร้สิ้นสุดโน้มลงมาราวกับน้ำตกกว้างใหญ่หลากสาย ทั้งเหมือนธารสวรรค์สายแล้วสายเล่า
น้ำเต้าทองม่วงกับประทับพลิกฟ้าล้วนถูกซัดจนสั่นครืน ใช่ว่าสมบัติสองอย่างนี้ไม่แข็งแกร่งพอ หากแต่คนที่ใช้พวกมันมีพลังปราณที่ต้านการโจมตีของหลินสวินไม่อยู่
เสียงตูมดังขึ้น ในที่นั้นมีหลายคนกระดูกหักกล้ามเนื้อฉีก ร่างแหลกกระจาย ถูกซัดจนร่างระเบิดกระจุย พลังจิตกลายเป็นเถ้าถ่านตายคาที่ทันที
หลินสวินในตอนนี้ไอสังหารทะยานฟ้า ใช้วิชาที่แข็งแกร่งที่สุดสังหารศัตรู
เมื่อถึงช่วงท้าย ในสนามรบก็เหลือแค่พวกฉีหลิงอวิ๋น ชือพั่วจวิน ลิ่นเฟิงสามคน คนอื่นไม่ถูกฆ่าก็หนีไปนานแล้ว
แต่เวลานี้พลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งสายหนึ่งปะทุขึ้นกะทันหัน ย่อตัวพุ่งไปข้างหน้าพุ่งเข้าใส่ด้านหลังหลินสวิน
คนที่ลงมือคือฉีหลิงอวิ๋น!
ซ้ำทันทีที่นางลงมือก็มาอยู่ด้านหลังหลินสวิน มือถือวัชระสีดำเปื้อนเลือดเล่มหนึ่ง แทงเข้าไปกลางหลังของหลินสวิน
เร็วจนน่าเหลือเชื่อ!
หลินสวินในตอนนี้กำลังต้านประทับพลิกฟ้าของลิ่นเฟิงและน้ำเต้าทองม่วงของชือพั่วจวิน ในสายตาของทุกคนคือไม่มีทางหลบการโจมตีที่มาจากด้านหลังนี้ได้แต่แรก
แต่ใครเล่าจะคาดคิด
หลินสวินไม่ได้หลีกหลบ แต่ด้านหลังเขากลับมีกายมรรคไม้เขียวพุ่งออกมาแล้วซัดหมัดกะทันหัน
ความแข็งแกร่งของพลังหมัดสามารถทำลายหมื่นวิญญาณในใต้หล้า ดับสุริยันจันทราดาราได้
ตึง!
ท่ามกลางเสียงปะทะกึกก้อง แม้ว่าวัชระจะถูกขวาง ทว่าในใจหลินสวินกลับเกิดสัญญาณเตือน สัมผัสได้ถึงความอันตราย
พร้อมกันนี้บนวัชระในมือของฉีหลิงอวิ๋นแผ่กลิ่นอายอำมหิตราวกับผนึกหลากสายออกมา ตัววัชระเปื้อนเลือดปรากฏภาพมรรคชุ่มเลือดภาพหนึ่ง แผ่คลุมไปยังกายมรรคไม้เขียว
เงาร่างของกายมรรคไม้เขียวไหววูบ หายเข้าไปในร่างต้นของหลินสวินฉับพลัน
ในเวลาเดียวกันเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกดข่มลงมา แสงมรรคไร้สิ้นสุดแผ่คลุม ขวางอยู่ด้านหลังร่างต้นของหลินสวิน
ตูม!
ห้วงอากาศระเบิดออก ไอขุ่นมัวพลุ่งพล่าน บริเวณนี้อลหม่าน วัชระในมือฉีหลิงอวิ๋นระเบิดกระจุย สุดท้ายนี่ก็เป็นอาวุธลับชิ้นหนึ่ง หลังจากอานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาถูกต้านทานก็ไม่มีภัยคุกคามอีก
เดิมทีฉีหลิงอวิ๋นคิดอาศัยไพ่ตายที่ยากพบเห็นบนโลกชิ้นนี้ทำร้ายหลินสวินให้เลือดอาบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่น่าเสียดายที่ผิดแผน
นางนับว่าเด็ดขาดยิ่ง ถอยหนีห่างไปทันที แต่สีหน้าดูสับสนแล้ว
ขณะเดียวกันลิ่นเฟิงบุกเข้ามาอีกครั้ง ควบคุมประทับพลิกฟ้าถล่มใส่หลินสวิน ร่องรอยมหามรรคเรือนพันเรือนหมื่นปกคลุมฟ้าดิน
อีกด้านหนึ่งชือพั่วจวินโคจรน้ำเต้าทองม่วงตีขนาบ อานุภาพชวนประหวั่น
“เวลาล่วงมามากแล้ว ขอส่งพวกเจ้าไปลงนรกเลยแล้วกัน!” หลินสวินพูดพลางเยื้องย่างออกศึก เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งเคลื่อนคล้อย อานุภาพเป็นหนึ่งไม่มีสอง
ตูม!
อานุภาพของการต่อสู้ปั่นป่วนม้วนพัดออกไป
ไม่ทันไรแม้แต่ลิ่นเฟิงกับชือพั่วจวินก็แบกรับไม่อยู่ ทั้งสองคนกระอักเลือดคำโต ถูกอานุภาพของหลินสวินคนเดียวกำราบจนได้รับบาดเจ็บ
ถึงตอนท้ายหลินสวินตะโกน ถึงกับใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกำราบประทับพลิกฟ้านั้นอย่างแข็งกร้าว ผนึกไว้กลางอากาศ ไม่อาจขยับเขยื้อน
จากนั้นหลินสวินก็พุ่งเข้ามาแล้วซัดหมัดหนึ่งออกไป
ตูม!
หมัดนี้ทะลวงอกของลิ่นเฟิงโดยตรง ทำให้เขาระเบิดกระจุยคาที่ วิชาลับหรือสมบัติวิเศษใดล้วนต้านการโจมตีไร้เทียมทานนี้ไม่อยู่!
มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิซึ่งมาจากน่านฟ้าที่ห้า ถูกตระกูลฉีแห่งน่านฟ้าที่แปดรับมาเป็นผู้ติดตามคนนี้ ถูกฆ่าตายคาที่ สิ้นชีพโดยสมบูรณ์
ฉีหลิงอวิ๋นตัวแข็งทื่อราวตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง เดิมนางคิดไปช่วยโดยไม่เสียดายไพ่ตายในมือ ไหนเลยจะคิดว่าทุกอย่างกลับเกิดขึ้นเร็วเช่นนี้
เร็วจนนางคิดไปช่วยก็ยังไม่ทัน!
………………….