บทที่ 2225
ตู้ไห่ชิงังการกล่าวโทษของซูโสว่เต้า ไม่โมโห แต่กล่าวอย่างสงบว่า “ซูโสว่เต้า ถ้าคุณรู้จักข้อบกพร่องของตัวเอง น่าจะรู้ว่าคุณกำลังไร้คุณธรรมอยู่ ถ้าในตอนนี้คุณยังยืนหยัด
ว่าคุณคุณธรรมสูงส่ง ก็ช่างน่าผิดหวังยิ่งนัก”
พูดพลาง ตู้ให่ซิงกล่าวต่อว่า “ความรักสิ่งนี้ ไม่ได้ใช่ปากเพื่อให้ได้มา แต่ต้องใช้การกระทำที่แท้จริงรักษาความสัมพันธ์ไว้ ฉันก็แค่เอ่ยถึงการหย่าร้าง คุณก็รู้สึกว่าฉันไม่เห็นแก่
ความรู้สึก แต่ลูกที่อยู่ด้านนอกของคุณ ยี่สิบกว่าปีเข้าไปแล้ว คุณปิดบังฉันมานานขนาดนี้ หลายปีที่ผ่านมานี้ คุณเคยคิดถึงความรักฉันสามีภรรยาของเราบ้างมั้ย?”
ซูโสว่เต้าได้ยินด้งนี้ ก็หดหู่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ทันใด
“ใช่…ตอนนี้กล่าวโทษตู้ให่ชิงไม่เห็นแก่ความรู้สึก แทบจะเท่ากับกำลังตบหน้าของตัวเองอยู่…เพราะ ผมเองคือคนนั้นที่ทำผิดจริงๆ แล้วเมื่อทำผิดก็ผิดมายี่สิบกว่าปี…”
ในขณะที่เขาไม่รู้ว่าจะตอบตู้ห่ชิงอย่างไร ตู่ให่ชิงก็ถอนหายใจเขาๆ “เอ ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว ที่ฉันโทรหาคุณ ก็แค่อยากหย่าให้เร็ว เพราะอนาคตฉันจะลงหลั่กปักฐานที่
เมืองจินหลิง ต่อให้ไม่ลงหลักปักฐาน อย่างน้อยก็จะอยู่ที่เมืองจินหลิงช่วงหนึ่ง ดังนั้นหย่าเร็ว ก็เพื่อคุณ คนอื่นจะได้ไม่นินทาคุณได้”
ตู้ไห่ซิงไม่ได้พูดละเอียดนัก แต่ซูโสว่เต้าเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดนี้ของเธอแล้ว
ความหมายของตู้ห่ชิงคือ เธออยากตั้งถิ่ฐาที่เมืองจิหลิง แล้วถ้าคนของตระกูลใหญ่พวกนั้ที่เย่นจิงรู้เรื่องนี้เข้าทุกคนล้วนเดาออกว่าทำไมเธอจึงอยู่ที่เมืองจินหลิง พูดให้
เคลียร์ ก็คือเพื่อเย่ฉางอิง
ถ้าตู้ให่ซิงกับซูโสว่เต้ายังเป็นสามีกรรยากัน แล้วตู่ให่ชิงลงหลักปักฐานที่เมืองจินหลิงเพื่อเย่ฉางอิง จะต้องกระเบหน้าตาของซูโสว่เต้า ในระดับหนึ่งแน่นอน
แต่ถ้าหย่าร้างกันแล้ว สำหรับซูโสว่เต้า อย่างน้อยๆก็ยังรักษาหน้าตาเอาไว้ได้บ้าง
ซูโสว่เต้าเกรี้ยวกราดมาก แต่ก็พูดคำพูดที่กล่าวโทษกับต่อต้านอะไรไม่ออก
ในใจเขาตระหนักได้ว่า ตัวเองไม่มีความเป็นไปได้ที่จะยื้อตู้ให่ชิงได้อีก ผู้หญิงคนนี้ได้ใจแข็งจะหย่าร้างกับตนแล้ว
เมื่อนึกถึงจุดนี้ ในใจเขาก็ยิ่งเกลียดเย่ฉางอิง
“ไอ้เหี้ยเย่ฉางอิง ไม่จบไม่สิ้นจริงๆเลยนะ!”
“มันตายมาตั้งหลายปีแล้ว ยังคงมีผลลึกๆกับตู้ไห่ชิงอยู่อีก”
“นี่ก็ว่าแล้ว ตอนนี้ถึงขั้นลากตู้ไห่ชิงไปเมืองจินหลิง!”
“ในสายตาของตู้ไห่ชิง คนที่ตายไปแล้วยี่สิบกว่าปีนี่ สำคัญกว่าฉันมาก!”
ตู้ไห่ชิงปลายสาย ไม่ได้ยินการตอบกลับของซูโสว่เต้าอยู่นาน ก็ได้เอ่ยปากต่อว่า “ยังไงก็เคยเป็นสามีภรรยากัน จบกันดีๆเถอะนะ”
ซูโสว่เต้านิ่งไปพักใหญ่ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ด…คุณก็พูดแล้ว ยังไงก็เคยเป็นสามีภรรยากัน แล้วยังเป็นสามีภรรยากันมาหลายปี เรื่องนี้ผมขอเวลาคิดสักหน่อยก็แล้วกัน”
ตู้ให่ชิงอืมออกมา กล่าว “คุณคิดได้แล้โทรหาฉันได้ตลอดเวลา แต่ล่ะหน่วยงานของเนจิงล้วนมีความสัมพันธ์ เรื่องการหย่าร้างนี้ เราทั้งสองไม่จำเป็นต้องไปทั้งคู่ เพียงแค่
พวกเราตกลงกันให้ดี ต่างคนต่างส่งทนายไปจัดการเรื่องนี้”
“ครับ” ซูโสว่เต้ากล่าว “ถ้าคิดได้แล้ว ผมจะติดต่อคุณเป็นคนแรกเลยครับ”
“ค่ะงั้นแค่นี้นะคะ”
ช่วงบ่าย เย่เฉินทานอาหารเที่ยงที่บ้าน กำลังเตรียมเอายาที่ตัวเองกลั่นไว้ออกไป
เพราะตกลงกับฉินเอ้าเสวี่ยน ไปถึงบ้านของเธอก่อนเพื่อแนะนำให้กับเธอ ดังนั้นเย่เฉินจึงเว้นเวลาช่วงบ่ายไว้ก่อนแล้ว
เพื่อสะดวกต่อนำยาไปด้วย เขาจึงได้บอกพ่อตาเซียวฉางควนว่า “พ่อครับ ช่วงบ่ายมีแพลนอะไรมั้ย?”
เซียวฉางควนยิ้มพลางกล่าวว่า “ช่วงบ่ายฉันก็ยังไปสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด ตอนกลางคืนพวกเราต้องทานข้าวกับระดับสูงของซัทเทบีส์”