บทที่ 2232

ฉินเอ้าเสวี่ยนตัวแสบยังขับเรือสปิดโบ๊ท พาเขาเที่ยวรอบๆทะเลสาบหนึ่งรอบใหญ่โดยเฉพาะอีกด้วย

แต่อากาศยั่งคงหนาวอยู่ วิวทิวทัศน์รอบทะเลสาบค่อนข้างหนหมองอยู่บ้าง ไม่เหมือนครั้งที่แล้วดูเหมือนเขียวซอุ่ม มีชีวิตชีวา

ด้วยเหตุนี้ เย่เฉินจึงเอ่ยปากพูดกับฉินกางว่า “ประธานฉินครับ คฤหาสน์นี้เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ความมีชีวิตชีวาค่อนข้างหายไป อย่าดูว่า
ต้นไม่ใบหญ้าเพียงแค่เหี่ยวเฉาไปชั่คราว แต่ในตำราฮวงย สั่งเหล่านี้ล้วนถือเป็นสิ่งไร้ชีวิตทั้งนั้น ดังนั้นก่อนจะถึงฤดูใบไม้ผล พยายามอย่าอ
ที่นี่เลยครับ มีผลกระทบต่อร่างกายและโชคชะตาไม่มากก็น่อย”

เมื่อฉินกางได้ยินดั่งนี้ ก็พูดทันทีว่า “ไอ้หยา! ขอบคุณสำหรับการเต้อนของอาจารย์เครับ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพรุ่งนี้พวกเราจะย้ายกลับ
ไปอาศัยในเมืองก็แล้วกันครับ!

ฉินเฮ้าเสวี่ยนกล่าวโดยไม่รู้ตัวว่า “พ่อคะ! ไม่งั้นเราไปTomson Rivieraซื้อคฤหาสน์สักหลังมั้ยคะ! ไม่เพียงแค่ใหญ่โต แล้วยังเป็นเพื่อน
บ้านของอาจารย์เยได้อีกด้วย!

ฉินกางจิ๊จัะ แล้วพี่มพำา “เป็นความคิดที่ดีจริงๆ แต่ตอนที่ Tomson Rivieraขายถูกซื้อไปจนหมดแล้ว ไม่รู้ว่ามีคนขายมั้ย เดี๋ยวพ่อให้คน
สอบถามดู! ”

ฉินเฮ้าเสวี่ยนกล่าวอย่างดีอกดีใจสุดๆว่า “ดีมากเลยค่ะพ่อ! ”

พูดพลาง ฉินเอ้าเวี่ยนมองเย่เฉิน ถามอย่างเนอายว่า “อาจารย์เย่คะ ถ้าพวกเราย้ายไปTomson Riviera จะไม่เป็นการรบกวนคุณใช่มั้ย
คะ? ”

เย่เฉินยิ้มกล่าว “ไม่หรอกครับ ถ้าย้ายมาจริงๆ ทุกคนเป็นเพื่อนบ้านกันก็เป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่งครับ”

เมื่อฉินกางได้ยินเย่เฉินแสดงความคิดเห็น ก็สบายใจลงทันที ยิ้มพลางกล่าวว่า “ในเมื่ออาจารย์เย่พูดขนาดนี้แล้ว งั้นช่วงสองสามวันนี้ผมจะ
ติดตามให้ดีครับ! ”

ในใจของฉินเอ้าเสวี่ยนดีใจจะแโดยปริยาย

ความจริงเธอไม่อยากอยู่คฤหาสน์หรที่ห่างไกลขนาดนี้อยู่แล้ว ที่อยู่ที่นี่ เหตุผลหลักๆคือเพราะที่นี่มีห้องฝึกซ้อมที่ครบครันมากห้องหนึ่ง ไม่
ว่าจะเป็นเนื้อที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ด้อยไปกว่าห้องฝึกซ้อมที่เฉพาะทางเหล่านั้นในเมืองเลย

แต่ ถ้าอนาคตมีโอกาสได้เป็นเพื่อนบ้านกับเยเฉินจริงๆ ต่อให้ไม่มีห้องฝึกซ้อมที่ดีขนาดนี้ก็ไม่ซีเรียส!

ขณะพุดคุย สามคนของตระกูลฉินเป็นเพื่อนเย่เฉิน เดินเข้าไปในห้องรับแขก

ฉินกางเชิญเย่เฉินนั่งบนโซฟา จากนั้นก็ตัมชาแดงคิ้วอาชาทองชั้นเลิศด้วยตัวเอง

“อาจารย์เยครับ ชาแดงคิ้วอาชาทองนี้ ผมเอามาจากหวู่อี้ซานโดยเฉพาะเลยนะครับ คุณภาพชั้นเลิศ ท่านลองดื่มดูครับ”

เย่เฉินพยักหน้า ยกแก้วขาขึ้นมา ยิ้มพลางกล่าวว่า “ในกลิ่นชามีความหวาน เมื่อดื่มเข้าไปหวานรื่น หอมละมุม ที่แห้ก็เป็นขาชั้นดี! ”

ฉินกางรีบกล่าวว่า “ในเมื่ออาจารย์เย่ซอบ เดี๋ยวผมจะให้ท่านไปลองสองจินนะครับ! ”

เย่เฉินนึกถึงพ่อตารักการดื่มชา ดังนั้นจึงไม่เกรงใจ ยิ้มพลางกล่าวว่า “งั้นก็รบกานประธานฉินด้วยนะครับ”

ความจริง ฉินกางให้คนหาอาจารย์ทำชาแดงคิ้วอาซาทอง ปีที่แล้วใช้ชาแดงไปทั้งหมดสิบจิน

หนึ่งในนั้น ฉินกางได้ซื้อมาเองสองจินครึ่งด้วยราคาสูง ถือเป็นหนึ่งในสี่ส่วน

เดิมที ฉินกางแพลนว่าจะใช้เป็นเสบียงอาหารทั้งปี ถึงตอนนี้ดื่มไป0.4จิน ยังเหลืออีกสองจุดหนึ่งสองจินโดยประมาณ แต่เมื่อเห็นเย่เฉิน
ซอบ จึงได้เตรียมสองจินในนั้นอย่างไม่ลังเลแม่แต่น้อย

เย่เฉินก็ไม่เอาของคนอื่นโดยฟรีๆอยู่แล้ว วางแก้วชาลง แล้วยื่นมือหยิบกล่องเล็กสองกล่องของโสมม่วง ออกมาจากในกระเป๋าของเสื้อโค้
ทออกมา

ฉินกางมองกล่องไม้สองกล่องที่อยู่ในมือเเฉิ ตื่ต้นม้แต่ลมหายใจก็หยุดไปอย่างไม่รู้ตัว หยุดหายใจรอคอยสั่งที่อยู่ในกล่องไม้ทั้งสอง
กล่องนี้

เขารู้ จากนิสัยที่พูดคำไหนคำนั้นของเย่เฉิน ในกล่องไม้ทั้งสองนี้ จะต้องมีหนึ่งกล่อง ที่ใส่ยาอายวัฒนะที่ทำให้ตนเฝ้าเสนหา ถวิลหาแม่ใน
ยามฝัน!