พูดจบ เขาก็พูดขึ้นมาอีกว่า“คุณหนูยังจำได้ไหมว่ามีผู้กำกับที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงคนหนึ่งแอบไปมีสัมพันธ์กับคนอื่น ภรรยาของเขาไม่เพียงไม่โกรธ กลับกันยังเปิดเผยเรื่องที่ผู้ชายของตัวเองได้เปรียบ?แต่กลับกัน ถ้าผู้หญิงหลายใจ เมื่ออยู่ต่อหน้าสาธารณชนจะถูกก่นด่าปางตาย!”
ตู้ไห่ชิงอมยิ้ม แล้วพูดว่า“ลุงหวางคิดมากไปแล้ว ฉันก็แค่อยากซื้อบ้านที่ฉางอิงเคยพัก นี่เป็นแค่สิ่งที่ฉันรึลึกถึงเขาเป็นการส่วนตัว นอกจากนี้ ฉันจะไม่มีข่าวเสียกับผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น ยิ่งจะไม่มีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนไหน ถ้าโลกข้างนอกไม่สามารถให้อภัยกับสิ่งนี้ได้ งั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องให้อภัยพวกเขา”
พ่อบ้านรับพูดอย่างร้อนรน“คุณหนูรองครับ ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นนะครับ……ผมหมายถึง ถ้าคุณหนูอยากจะซื้อบ้านหลังนั้นไม่มีปัญหาเลยครับ แต่สถานการณ์ในตอนนี้มันเป็นช่วงที่พิเศษ……”
“ตอนนี้คุณหนูกับซูโสว่เต้ายังไม่ได้หย่ากัน เพราะฉะนั้นกระผมคิดว่า คุณหนูไม่จำเป็นต้องไปเข้าร่วมงานประมูลด้วยตัวเอง……”
“ให้ผมช่วยหาบุคคลที่สามที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง ให้เขาเป็นตัวแทนคุณหนูไปประมูลกลับมา……”
“หลังจากประมูลกลับมาแล้ว ก็อย่าพึ่งรีบโอนทรัพย์สินในตอนนี้ รอให้ช่วงลมคลื่นพัดผ่านไปก่อน หรือหลังจากที่คุณหนูหย่ากับซูโสว่เต้าไปแล้ว คุณค่อยเปลี่ยนชื่อของหลังนั้นมาอยู่ในชื่อของคุณหนู แบบนี้มันจะทำให้คุณหนูไม่ต้องไปตกอยู่ในเสียงวิจารณ์ของคนอื่นด้วย”
ตู้ไห่ชิงโบกมือไปมา แล้วพูดอย่างจริงจัง“ลุงหวาง ที่ฉันคิดถึงฉางอิงเป็นเรื่องที่ไม่มีความผิดอยู่แล้ว ดังนั้นฉันตัวตรงไม่หวั่นเงาเฉเฉียงหรอก”
“แต่ว่า ถ้าฉันไม่มีความผิด แต่ฉันกลับกลัวตกอยู่ในเสียงวิจารณ์ของคนอื่น แล้วแอบหาคนอื่นช่วยฉันไปร่วมงานประมูล ถ้าถูกปล่อยออกไป คนอื่นก็จะคิดว่าฉันทำผิดแล้วขี้ขลาด”
พ่อบ้านถอนหายใจ“คุณหนูรองครับ!มีประโยกหนึ่งกล่าวไว้ว่าถึงจะอยากรู้แค่ไหนก็ไม่ควรพูด แต่ไม่พูดก็ไม่ได้!คนของตระกูลซูทำอะไรอย่างโหดเหี้ยมมาโดยตลอด เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้คุณหนูก็เห็นมาแล้ว พวกเขาสามารถหักหลังได้แม้แต่เลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง นั่นเป็นข้อพิสูจน์ที่ว่าพวกเขาทั้งตระกูล แทบจะไม่มีคุณธรรมใดๆทั้งสิ้น ถ้าคุณยังขืนจะไปร่วมงานประมูลให้ได้ ต้องล่วงเกินพวกเขาเป็นแน่……”
ตู้ไห่ชิงค่อยๆขมวดคิ้วขึ้นมา แล้วพูดอย่างไม่เข้าใจ“ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ ซูโสว่เต้าหักหลังฉันเลี้ยงลูกนอกสมรสมา20ปี ยังพาลูกสาวนอกสมรสมาใช้ชีวิตอยู่ใต้สายตาของฉันมาตั้งนานหลายปีอย่างไม่ใส่ใจ ทำไมไม่มีคนคิดว่าตระกูลซูล่วงเกินฉันล่ะ?”
พ่อบ้านรีบพูดขึ้นมาว่า“คุณหนูรองครับ……หลายเรื่องมันไม่เหมือนกับที่เราคิดนะครับ……ในสังคมของชนชั้นสูง ผู้ชายกับผู้หญิงแตกต่างกัน จุดนี้คุณไม่ควรมองข้ามไปนะครับ……”
ตู้ไห่ชิงยิ้มบางๆ“ลุงหวาง ไม่ต้องเกลี้ยกล่อมฉันหรอกค่ะ ฉันตั้งใจแล้ว ถ้าคุณไม่ช่วยฉันเตรียมการ งั้นฉันเตรียมเองก็ได้ ยังไงการประมูลครั้งนี้ ฉันต้องไปให้ได้ อีกทั้งจะไปอย่างสง่าผ่าเผย!”
พ่อบ้านเงียบอยู่นาน สุดท้ายก็ถอนหายใจแล้วพูดขึ้นมาว่า“ก็ได้ครับ คุณหนูรอง ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้แหละครับ……”
……
ในขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์ Tomson Riviera
เย่เฉินรับสายที่เฉินจื๋อข่ายโทรมา
เฉินจื๋อข่ายพูดในสายว่า“คุณชายครับ การประมูลในวันจันทร์ ถูกเปลี่ยนเป็นการจัดแบบออฟไลน์ครับ”
“อ่อ?”เย่เฉินถามอย่างแปลกใจ“ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นการจัดแบบออฟไลน์ล่ะ?”
เฉินจื๋อข่ายพูดว่า“ผมไปสืบมาหลายที่ กระทั่งยังไปหาคนที่มีเส้นสายในเย่นจิงเพื่อช่วยตรวจสอบแล้ว ได้รับการตอบกลับมาว่า ดูเหมือนได้รับการไกล่เกลี่ยจากตระกูลซูครับ”
“ตระกูลซู?!”เย่เฉินอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้“ทำไมตระกูลซูถึงแทรกแซงเรื่องการประมูลครั้งนี้ล่ะ?”
“ผมไม่รู้เหมือนกันครับ……”เฉินจื๋อข่ายพูดอย่างตรงไปตรงมา“ตอนนี้ผมยังไม่ได้ยินเรื่องการแรงจูงใจของตระกูลซูเลยครับ แต่คุณชายพยายามถ่อมตัวหน่อยนะครับ”
พูดจบ เฉินจื๋อข่ายก็รีบพูดเสริมขึ้นมาว่า“สาเหตุหลักคือเพราะบ้านหลังนี้อ่อนไหวเกินไป มันเป็นบ้านเก่าที่พ่อแม่ของคุณเคยพักอาศัย ถ้ามีคนรู้เรื่องการแย่งชิงบ้านหลังนี้ล่ะก็ นั่นจะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่ามีความเกี่ยวข้องกับพ่อแม่ของคุณ ผมกลัวว่าตระกูลซูจะตามหาคุณจากสิ่งนี้ ขอเพียงแค่ตระกูลซูพบคุณ ผมไม่กล้าพูดว่าพวกเขาจะจัดการคุณยังไง แต่ฐานะของคุณจะเก็บซ่อนไม่ได้อีกต่อไปอย่างแน่นอน……”
เย่เฉินพูดอย่างเห็นด้วย“นายพูดถูก งานประมูลที่จะจัดขึ้นในวันจันทร์จัดที่ไหน?”
เฉินจื๋อข่ายพูด“จัดที่หอเพชรนิลจินดาของเป่าฝู้กุ้ยครับ เป็นสถานที่ที่คุณกับปรมาจารย์ซวนซวนของฮ่องกงเคยประมูลวงศ์ย่อยหอยมือเสือมาก่อน”
เย่เฉินนึกขึ้นมาได้ในทันที จึงกล่าวขึ้นมาว่า“ฉันรู้แล้ว เอาแบบนี้นะ ฉันจำได้ว่าหอเพชรนิลจินดามีห้องวีไอพี นายให้เป่าฝู้กุ้ยเตรียมให้ฉันห้องหนึ่ง ถึงเวลานั้นฉันจะให้คนขับรถไปช่วยฉันประมูลในวันงาน ฉันจะแอบสังเกตในห้องวีไอพี”