ถึงแม้ในชื่อของซูโสว่เต๋อจะมีคำว่าเต๋อที่แปลว่าคุณธรรม แต่เขากลับเป็นคนที่ไม่มีคุณธรรมเลย
ไม่เพียงไม่มีคุณธรรมแล้ว และเป็นคนที่โหดเหี้ยมด้วย
และซูเฉิงเฟิงถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่มีคุณธรรม แต่อย่างน้อยก็เป็นคนที่เฉลียวฉลาดและมีความสามารถ
คนประเภทนี้ ต่อหน้าจะพูดแต่คุณธรรมและศีลธรรม แต่ในจิตใจมีแต่เรื่องสกปรกและชั่วร้าย
สิ่งสำคัญที่สุดคือ จิตใจที่สกปรกและชั่วร้ายนั้นไม่สามารถเปิดเผยให้คนอื่นเห็นได้
ในจิตใจของคุณท่านใหญ่ซู มีแต่เรื่องสกปรกและชั่วร้ายมาตลอดชีวิต เรื่องผิดศีลธรรมไม่รู้ว่าทำมามากแค่ไหน แต่เรื่องที่ทำให้เขาผิดพลาดมีเพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือเรื่องของซูรั่วหลี
เรื่องส่วนใหญ่ คุณท่านใหญ่ซูจะจัดการเรื่องทุกอย่างได้อย่างยอดเยี่ยม
ในเวลานี้ คุณท่านใหญ่ซูได้ฝึกฝนให้ซูโสว่เต๋อกลายเป็นผู้สืบทอดตระกูลต่อจากเขา ดังนั้นเขาก็เลยพูดสั่งสอนจากใจจริง:”โสว่เต๋อ คุณรู้ไหม การอยู่รอดในชนชั้นสูงและการจัดการปัญหาต่างๆ จำเป็นต้องใช้คำพูดนี้ นั่นก็คือทำเรื่องอะไรก็ต้องมีเหตุผล!”
“ทำเรื่องอะไรก็ต้องมีเหตุผล?”ซูโสว่เต๋อรีบถามทันที:”คุณพ่อ คุณช่วยอธิบายหน่อยได้ไหม?”
คุณท่านใหญ่ซูอธิบาย:”คำว่าทำเรื่องอะไรก็ต้องมีเหตุผล ก็คือไม่ว่าคุณจะทำเรื่องอะไร ต้องมีเหตุผลมารองรับเรื่องที่จะทำ!”
“ถ้าทำเรื่องนั้นโดยไม่มีเหตุผลอะไรเลย พวกเราตรงเข้าไปและทำร้ายคนอื่นทันที มันเป็นการกระทำที่ไม่สมควร เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมและไม่มีเหตุผล เรื่องอย่างนี้ควรคิดให้ดีๆก่อนจะลงมือทำ
“คุณคิดดูสิ ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงตอนนี้ สงครามระหว่างประเทศต่างๆ ถึงแม้ประเทศนั้นจะเป็นผู้รุกรานก็ตาม โดยปรกติผู้รุกรานก็จะหาเหตุผลต่างๆเพื่อทำสงครามเสมอ”
“ก็เหมือนกับเหตุการณ์สะพานมาร์โคโปโล คนญี่ปุ่นบอกว่าทหารของเขาหายไปคนหนึ่ง จากนั้นก็ใช้เหตุผลนี้จนเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น”
“ระหว่างประเทศด้วยกันยังต้องหาเหตุผลมารองรับเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องระหว่างตระกูลต่างๆด้วย”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของคุณท่านใหญ่ซูเย็นชาและพูด:”อันที่จริง ฉันต้องการฆ่าตู้ไห่ชิงมานานแล้ว! ตั้งแต่ฉันรู้ว่าตู้ไห่ชิงจะไปที่จินหลิง ฉันก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเครื่องบินที่ตู้ไห่ชิงนั่งไปจะเกิดอุบัติเหตุ และเธอก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางไปที่จินหลิง ถ้าเป็นอย่างนี้ก็คงไม่มีปัญหาอะไรตามมาทีหลัง เรื่องทั้งหมดก็จบด้วยดี!”
“แต่ฉันทำได้เพียงแค่คิดอยู่ในใจ ไม่สามารถลงมือทำได้!”
“เนื่องจากตู้ไห่ชิงแค่เดินทางไปเมืองจินหลิงเท่านั้น เธอไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ทำให้ตระกูลซูต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถ้าฉันทำให้เครื่องบินส่วนตัวของเธอเกิดอุบัติเหตุเพราะเธอเดินทางไปเมืองจินหลิง เมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ตระกูลซูก็จะจบเห่อย่างแน่นอน!”
“ดังนั้นถ้าต้องการเอาชีวิตของเธอ ก็จำเป็นต้องกำจัดเธอหลังจากที่เธอทำเรื่องไม่ดีและทำให้ตระกูลซูเสื่อมเสียชื่อเสียงแล้ว นี่คือเหตุผลที่พวกเราสามารถลงมือได้!”
“ตอนนี้ ตู้ไห่ชิงกับพี่ใหญ่ยังไม่ได้หย่าร้างกัน แต่เธอกลับไปร่วมงานประมูลที่เมืองจินหลิงและซื้อคฤหาสน์หลังเก่าที่เย่ฉางอิงเคยพักอาศัย และซื้อคฤหาสน์หลังนั้นสูงกว่าราคาตลาดหลายสิบเท่าตัว และเรื่องนี้ก็ทำให้ชื่อเสียงของตระกูลซูเสื่อมเสีย ในเวลานี้ถ้าลงมือสังหารเธอ อย่างน้อยพวกเราก็ใช้เหตุผลข้อนี้ได้”
เมื่อซูโสว่เต๋อได้ยินเรื่องนี้ เขาก็เข้าใจทันทีและพูด:”คุณพ่อ ฉันเข้าใจความหมายของคุณแล้ว! วันนี้ได้ยินคำพูดเหล่านี้ของคุณพ่อ ทำให้ผมเข้าใจเรื่องต่างๆอย่างกระจ่างทันที! หลังจากนี้ฉันจะอยู่ข้างๆคุณพ่อเพื่อเรียนรู้ทุกอย่าง และจะฝึกฝนตัวเองมากขึ้น!”
ซูโสว่เต๋อโตจนถึงบัดนี้ วันนี้คือครั้งแรกที่เขาได้ยินเล่ห์เหลี่ยมต่างๆจากคุณพ่อ
อันที่จริง คุณท่านใหญ่ซูเป็นคนเล่ห์เหลี่ยมจัด ในสมองมีแผนการต่างๆนับไม่ถ้วน แผนการนี้เป็นเพียงแผนการทั่วๆไป ไม่ใช่แผนการที่ลึกล้ำอะไรมากนัก
แต่เนื่องจากซูโสว่เต๋อเป็นเพียงแค่ลูกชายคนรอง ดังนั้นเขาก็เลยไม่เคยฝึกฝนแผนการที่มีเล่ห์เหลี่ยมขนาดนี้
แผนการแบบนี้ ก็เหมือนกับแผนการของจักรพรรดิที่ใช้ในสมัยโบราณ และมักจะสอนให้กับองค์ราชทายาทที่จะสืบทอดบัลลังก์เท่านั้น ส่วนองค์ชายอื่นๆไม่มีโอกาสได้เรียนรู้อยู่แล้ว และไม่มีสิทธิ์ได้ยินแผนการพวกนี้ด้วย
เหตุผลที่จักรพรรดิไม่เต็มใจจะสอนเรื่องการบริหารประเทศ เรื่องของอำนาจและการใช้แผนการต่างๆให้องค์ชายคนอื่นๆ ก็เพราะเกรงกลัวว่าในอนาคตองค์ชายคนอื่นๆจะคุกคามความปลอดภัยขององค์ราชทายาท