รถยนต์ยี่ห้อโรลส์รอยซ์ ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปสามารถซื้อได้

เอารถยนต์โรลส์รอยซ์ทั้งเมืองจินหลิงมาร่วมกัน น่าจะมีประมาณหลายสิบคันเอง

และรถยนต์โรลส์รอยซ์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมานานแล้ว

รถยนต์โรลส์รอยซ์เก่าๆพวกนี้ อันที่จริงราคาไม่ได้แพงมาก เป็นรถยนต์ที่เปลี่ยนเจ้าของมาหลายคนแล้ว สุดท้ายรถยนต์พวกนี้ก็จะไปอยู่ในบริษัทพรีเวดดิ้ง เพื่อเป็นรถยนต์สำหรับรับส่งบ่าวสาวในงานแต่ง ซึ่งบริษัทพวกนี้จะเอารถยนต์ประเภทนี้ไปเช่าให้คนหนุ่มสาวที่อยากได้หน้าได้ตาทางสังคม

ดังนั้น คนที่สามารถขับรถยนต์โรลส์รอยซ์ได้นั้น มีน้อยมากๆ

ก่อนหน้านี้หัวหน้าหวังก็เคยคิด จะไปหารถยนต์ที่บริษัทพรีเวดดิ้งไหม เอารถยนต์โรลส์รอยซ์รุ่นเก่ามาคันหนึ่ง

เพราะถ้าเกิดความเสียหายขึ้นกับรถยนต์ รถยนต์เก่าๆพวกนี้ก็ถูกกว่าและซ่อมง่ายกว่า ถ้าต้องชดเชยก็คงชดใช้ไม่มาก

อย่างไรก็ตาม เขาก็เปลี่ยนความคิดทันที:”หลิวจ้านเป็นผู้ก่อการร้าย ไม่เพียงเป็นคนที่ฉลาดมากๆ และคงหลอกเขาได้ยาก ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือให้เขาออกไปจากเจินเป่าเก๋อให้เร็วที่สุด ถ้าให้ดีที่สุดคือให้เขาออกจากเมืองจินหลิงไปเลย เขาจากไปยิ่งเร็วก็ยิ่งดี ดังนั้นตอนนี้ไม่ควรเกิดเหตุการณ์อย่างอื่นอีก ถ้าหากพวกเขาหารถยนต์โรลส์รอยซ์เก่าๆมาให้เขา แล้วทำให้เขาโกรธ มันจะเกิดปัญหาอื่นๆได้ง่ายๆ!”

“และรถยนต์ที่เฉินจื๋อข่ายใช้อยู่ก็คือรถยนต์โรลส์รอยซ์ ในโรงแรมก็มีรถยนต์โรลส์รอยซ์สี่คันที่เป็นคนละรุ่น ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ส่วนใหญ่แล้วมีรถยนต์โรลส์รอยซ์เพียงคันเดียว และหวงรถยนต์มากๆ ดังนั้นถ้ายืมกับเขาคงมีโอกาสมากที่สุด…”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และโทรหาเฉินจื๋อข่ายทันที

ในเวลาเดียวกัน เฉินจื๋อข่ายพึ่งจะจอดรถที่หน้าประตูในคฤหาสน์หลังเก่าที่เย่เฉินกับพ่อแม่เคยพักอาศัย และเดินเข้าไปในคฤหาสน์พร้อมกับเย่เฉิน

เย่เฉินมองเห็นสภาพคฤหาสน์ที่ทรุดโทรม เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ:”สมัยนั้นตอนที่พ่อของฉันเช่าคฤหาสน์หลังนี้ ตอนนั้นคฤหาสน์หลังนี้ก็มีสภาพเก่าเหมือนตอนนี้เลย หลังจากนั้นพ่อแม่ของฉันก็ช่วยกันทำความสะอาดและซ่อมแซมทีละนิดๆ จนทำให้มันกลายเป็นคฤหาสน์ที่อบอุ่น…”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและพูด:”น้าตู้คนนั้น คงจะเหมือนพ่อกับแม่ของฉัน เธอคงทำความสะอาดและซ่อมแซมคฤหาสน์หลังนี้อย่างแน่นอน…”

เฉินจื๋อข่ายรีบพูดทันที:”คุณชายโปรดวางใจ คุณหนูรองของตระกูลตู้เป็นกุลสตรีที่อ่อนโยนและมีชื่อเสียงมากๆในเมืองจิงเฉิง หลังจากที่เธอซื้อคฤหาสน์หลังนี้แล้ว เธอคงตั้งใจบูรณะคฤหาสน์หลังนี้อย่างแน่นอน ฉันเชื่อว่าไม่เกินหนึ่งเดือน ตอนที่คุณกลับมาดูอีกครั้ง คฤหาสน์นี้คงเปลี่ยนไปเยอะมากๆอย่างแน่นอน”

เย่เฉินโบกมือ:”ช่างเถอะ ครั้งที่แล้วที่ฉันมาที่นี่ก็ถูกน้าตู้มองเห็นแล้ว และฉันจะไม่มาคฤหาสน์นี้อีก นอกจากว่าเธอจะกลับไปที่เย่นจิง”

เฉินจื๋อข่ายพูดอย่างจริงจัง:”คุณชาย อันที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องหลบหน้าคุณหนูรองของตระกูลตู้เลย เธอเป็นคนดีและเธอก็รักพ่อของคุณมานานหลายปี ถ้าคุณยอมไปพบเจอเธอ เธอก็คงดีกับคุณเหมือนคุณเป็นลูกในไส้ของเธออย่างแน่นอน”

“ถ้าเป็นอย่างนี้ฉันไม่เอาเด็ดขาด”เย่เฉินโบกมือและพูดอย่างจริงจัง:”ฉันไม่อยากให้เธอดีกับฉันเหมือนลูกชายตัวเองเพราะเธอรักพ่อของฉันมากๆ ความรู้สึกนั้นคงอึดอัดมากๆ”

ขณะพูด เย่เฉินก็พูดอีกครั้ง:”และตอนที่ฉันอยู่ญี่ปุ่น เคยช่วยชีวิตสองพี่น้องตระกูลซูไว้ ฉันไม่อยากมีความสัมพันธ์ใดๆกับสองพี่น้องตระกูลซูอีก”

“เห้อ…”เฉินจื๋อข่ายอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ:”คุณชาย แค่เรื่องที่คุณช่วยชีวิตซูจือเฟยกับซูจือหยูไว้ ไอ้แก่ของตระกูลซูมาคุกเข่าคำนับต่อหน้าคุณสามครั้งก็เป็นเรื่องปกติ!”

เย่เฉินหัวเราะอย่างเย็นชา:”ฉันไม่ต้องการให้เขามาคุกเข่าคำนับฉัน ถ้าถึงเวลาที่เหมาะสม ฉันจะให้เขา ให้ผู้ชายทั้งหมดของตระกูลซู ไปคุกเข่าคำนับที่หน้าหลุมศพพ่อแม่ของฉัน และสำนึกผิดที่ตอนนั้นจัดตั้งพันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่!”

เฉินจื๋อข่ายพูดด้วยความหนักแน่น:”คุณชาย ฉันเชื่อว่าด้วยความสามารถของคุณ เป้าหมายนี้จะสำเร็จในอนาคตอันใกล้นี้!”

เย่เฉินพยักหน้าเบาๆ สายตาของเขาก็มองไปที่คฤหาสน์ที่ทรุดโทรม

ในเวลานี้ จู่ๆโทรศัพท์ของเฉินจื๋อข่ายก็ดังขึ้น

เขารีบถอยหลังหลายก้าว เพราะกลัวจะรบกวนเย่เฉิน จากนั้นก็พูดกับเย่เฉินด้วยความเคารพ:”คุณชาย ฉันขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อน”

เย่เฉินรับปากและไม่ได้พูดอะไรอีก

เฉินจื๋อข่ายเดินมาถึงหน้าประตู แล้วค่อยกดรับสาย และถามทันที”เหล่าหวัง คุณโทรหาฉันมีธุระอะไรเหรอ?”

หัวหน้าหวังรีบพูดทันที:”ผู้จัดการทั่วไปเฉิน ฉันมีเรื่องที่อยากให้คุณช่วย เรื่องนี้มีเพียงคุณคนเดียวที่ช่วยฉันได้ และฉันหวังว่าคุณจะไม่ปฏิเสธฉัน!”