“หรือบางที อาจจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่เขาบุกเข้ามาในหอเพชรนิลจินดาก็ได้!”
คิดมาถึงตรงนี้ ซูจือหยูก็ได้บทสรุป “ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังหลิวจ้านแน่ๆ!ถ้าอย่างนี้ก็แปลว่าที่เขาบุกมาที่หอเพชรนิลจินดาในวันนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญน่ะสิ!”
“ถ้าทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แสดงว่าที่เขาจับตัวฉันกับแม่มาก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเหมือนกัน!”
“หรือว่า…หรือว่าเป้าหมายของเขาคือฉันกับแม่?!”
ซูจือหยูตะขิดตะขวงขึ้นมาในใจทันที
“ถ้าหลิวจ้านบุกเข้ามาในหอเพชรนิลลจินดาเพราะถูกไล่จับจริงๆ ขอแค่ฉันกับแม่ให้ความร่วมมือหนีไปกับหลิวจ้านดีๆ พอหลิวจ้านปลอดภัย ฉันกับแม่ก็จะมีโอกาสมีชีวิตรอด เพราะถึงยังไงเขาก็ประกาศต่อหน้าตำรวจแล้ว ว่าไม่มีความจำเป็นต้องฆ่าฉันและแม่เพื่อยั่วให้ตำรวจโมโห และสร้างประเด็นขึ้นมาในสังคม แบบนั้นมันไม่ส่งผลดีกับเขาต่อจากนี้แน่…”
“แต่ว่า ถ้าหลิวจ้านมีคนคอยบงการ แปลว่าที่เขาหนีการจับกุมไม่ใช่เรื่องจริง แต่เขาต้องการจับตัวฉันกับแม่ต่างหากถึงจะใช่ ถ้าเป็นอย่างนั้นพวกฉันก็คงมีโอกาสรอดยากแล้ว….”
คิดมาถึงตรงนี้ จู่ๆซูจือหยูก็เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “พี่หลิว ถ้านายปล่อยฉันกับแม่ไป ฉันจะให้นายห้าสิบล้านเป็นค่าตอบแทน ฉันพูดคำไหนคำนั้น!”
“ห้าสิบล้าน?!” หลิวจ้านนิ่งอึ้งไปในทันที
เงินจำนวนนี้ไม่ใช่น้อยๆ สำหรับเขาแล้ว มันมากพอที่จะทำให้เขาหวั่นไหวได้
อีกอย่าง เขาเชื่อว่าซูจือหยูหามาให้ได้
ถึงยังไงก็เป็นถึงคนตระกูลซู ห้าร้อยล้านยังหามาได้ง่ายๆ นับประสาอะไรกับห้าสิบล้าน
แต่ซูจือหยูกล้าให้ก็จริง แต่เขากลับไม่กล้ารับ
เพราะว่า ในใจเขารู้ดี คนที่ออกเงินให้เขากำจัดสองแม่ลูกนี้ จริงๆแล้วก็คือคนตระกูลซูนั่นแหละ
“อีกอย่าง เรื่องนี้มันซับซ้อนมากกว่าที่ฉันจินตนาการเอาไว้ก่อนหน้านี้เสียอีก!”
“เริ่มแรกมีคนติดต่อหาฉันให้กำจัดตู้ไห่ชิง วันนี้มีคนให้เพิ่มอีกยี่สิบล้าน ให้กำจัดซูจือหยูด้วย….”
“ทำไมตระกูลซูถึงได้ร้ายกาจกันขนาดนี้ ฆ่าตู้ไห่ชิงไม่เท่าไหร่ เพราะถือว่าเป็นคนนอก แต่ทำไมต้องฆ่าซูจือหยูด้วย?”
“ตระกูลที่แม้แต่คนในครอบครัวตัวเองแท้ๆยังไม่ปล่อยไป คำว่าอำมหิตก็ไม่พอบรรยายสันดานตระกูลนี้หรอก ถ้าฉันยอมทำตามคำสั่งของพวกนั้นดีๆ ก็พอจะมีโอกาสลักลอบหนีออกนอกประเทศได้ แต่ถ้าฉันเล่นตุกติกหาผลประโยชน์ลับหลังพวกเขา โดยการแอบรับเงินของซูจือหยูมา พวกนั้นก็คงไม่ปล่อยฉันไปแน่ๆ…”
“มากไปกว่านั้น ครอบครัวของฉันยังอยู่ในประเทศ ถ้าไปทำอะไรขัดใจตระกูลซูเข้าล่ะก็แทบไม่อยากจะคิดเลย ขนาดคนในครอบครัวของเขายังไม่เว้น แล้วคนในครอบครัวฉันจะเหลือเหรอ?!”
ซูจือหยูมองผ่านกระจก เห็นสีหน้าของหลิวจ้านเต็มไปด้วยความสับสน จึงเห็นท่าไม่ดี เธอเลยรีบพูดขึ้นมาว่า “พี่หลิว ฐานะของฉันนายก็น่าจะรู้ อย่าว่าแต่ห้าสิบล้านเลย หกสิบล้านแปดสิบล้านฉันก็ให้นายได้ ขอแค่นายยอมตกลง ถ้านายตกลง ฉันก็จะโทรให้คนโอนเงินเข้าบัญชีนายทันที!”
ขณะที่พูด ซูจือหยูมีแต่ความร้อนใจ “ฉันไม่ให้นายห้าสิบล้านหรือแปดสิบล้านแล้วก็ได้ ฉันจะเพิ่มให้นายเป็นหนึ่งร้อยล้าน ขอแค่นายพยักหน้าตกลง ฉันจะให้คนนำเงินสดไปขึ้นบัญชีให้นายภายในสิบนาที!”
เมื่อหลิวจ้านได้ยินว่าขอแค่ตัวเองพยักหน้า ก็จะมีเงินเข้าบัญชีถึงร้อยล้าน ชั่วขณะก็รู้สึกเหมือนมีของอร่อยมาล่ออยู่ตรงหน้า ทว่ากลับไม่กล้าอ้าปากลิ้มลอง
สิ่งนี้ทำให้อารมณ์ของเขาหงุดหงิดขึ้นมาทันที หลุดปากพูดออกไปว่า “อย่ามาเสียเวลาพูดจากับฉัน!เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับเงินเลยสักนิด!”
เมื่อหลิวจ้านพูดออกมาอย่างนี้ หัวใจของซูจือหยูก็พลันกระตุกวูบ รีบหันไปมองตู้ไห่ชิงที่อยู่ข้างๆ
ตู้ไห่ชิงเองก็สังเกตได้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าลูกสาวกำลังพูดจาหว่านล้อมหลิวจ้าน ในตอนที่ได้ยินคำพูดตอบกลับของหลิวจ้าน ก็พลันนึกถึงที่มาของปัญหานี้ได้
ดังนั้น เธอจึงเงยหน้าขึ้นไปมองซูจือหยูเช่นเดียวกัน
สองแม่ลูกสบตากัยโดยไม่ได้นัดหมาย ทั้งสองต่างก็มองเห็นความตื่นตระหนกในแววตาของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี!