ในเวลาเดียวกัน ฮอล์ลำหนึ่งบินออกจากตัวเมือง มุ่งตรงไปยังเขตภูเขาแถบชานเมืองจินหลิงด้วยความเร็ว

บนเครื่อง เฉินจื๋อข่ายรายงานให้เย่เฉินฟังว่า “คุณชาย เป้าหมายอยู่ห่างจากเราสิบกิโลเมตร เนื่องจากรถของอีกฝ่ายไม่ได้วิ่งอยู่บนทางตรง ดังนั้นเราน่าจะตามทันครับ”

เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยพูดว่า “ยังมีอีกเรื่องที่ฉันไม่เข้าใจ”

เฉินจื๋อข่ายเอ่ยถามขึ้นมาว่า “คุณชาย เรื่องอะไรเหรอครับ?”

เย่เฉินเอ่ยพูดว่า “ฉันไม่เข้าใจว่าหลิวจ้านจะเหลือทางไว้ให้ตัวเองแบบไหนกันแน่ เขาออกตัวเคลื่อนไหวถึงขนาดนี้ ฉันเชื่อว่า ถึงตอนนี้จะไม่มีตำรวจไล่ตามมา แต่ทางข้างหน้าก็ต้องจะมีตำรวจซุ่มโจมตีอยู่แล้วแน่ๆ ต่อให้โรลด์รอยซ์ที่เขาขับจะแพงขนาดไหน แต่ก็เป็นแค่รถคันหนึ่งเท่านั้น ในสถานการณ์แบบนี้ต่อให้เขาติดปีกก็หนีไม่รอด”

“ใช่ครับ” เฉินจื๋อข่ายพยักหน้า เอ่ยพูดอย่างเห็นด้วยว่า “บางทีหลิวจ้านอาจจะไม่ได้คิดหนี เพราะเดิมทีเขาก็เป็นนักโทษหนีคดีอยู่แล้ว ถ้าถูกจับคราวนี้ ก็คงหนีเอาตัวรอดได้ยาก ดังนั้นสู้ใช้ชีวิตที่เหลือให้มันสุดโต่งจะไม่ดีกว่าเหรอ ส่วนเงินที่ได้มาจากตระกูลซูก็ให้ครอบครัวไว้กินไว้ใช้”

เย่เฉินเดาะลิ้น “นายหมายความว่า หลิวจ้านถอดใจแล้วว่าตัวเองอาจจะหนีไม่รอด ถูกไหม?”

“ใช่ครับ!” เฉินจื๋อข่ายเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ผมคิดว่าแบบนี้มีความเป็นไปได้มากที่สุดแล้ว”

เย่เฉินส่ายหน้า พูดว่า “ถ้าเขาเตรียมตัวที่จะตาย งั้นเขาก็ไม่เห็นต้องลำบากจัดฉากออกมาแบบนี้ เขาแค่หาข้ออ้างกับเหตุผลมาฆ่าตู้ไห่ชิงกับซูจือหยูทิ้งตั้งแต่ตอนอยู่ที่หอเพชรนิลจินดาก็น่าจะพอแล้ว ทำไมต้องเรียกร้องจะเอารถโรลด์รอยซ์ เพื่อขับมาที่นี่กันล่ะ?”

เฉินจื๋อข่ายครุ่นคิด “ในเมื่อจัดฉากขึ้นมาแล้วก็ต้องเล่นให้สุดหรือเปล่า?”

“ไม่จำเป็นมั้ง?” เย่เฉินพูดนิ่งๆว่า “ไหนๆก็จะตายแล้ว ยังจะมีอารมณ์มาเล่นละครก่อนตายอีกเหรอ มันจะไปมีความหมายอะไร? ถ้าเขาแค่เล่นละครตบตา ไม่ให้ทุกคนสงสัยไปถึงตระกูลซู อย่างนั้นตอนที่เขาฆ่าคนที่หอเพชรนิลจินดา แค่เขาเบนปลายกระบอกปืนนิดหน่อย ก็สามารถฆ่าตู้ไห่ชิงได้แล้ว และทุกคนก็จะไม่สงสัยด้วย”

เฉินจื๋อข่ายเอ่ยถามขึ้นมาว่า “คุณชาย ความหมายของคุณคือ หลิวจ้านมีวิธีหนีเอาชีวิตรอดเหรอครับ?”

เย่เฉินแสยะยิ้ม “หลิวจ้านมีวิธีหนีเอาชีวิตรอดหรือไม่นั้น ตอนนี้ฉันยังยืนยันไม่ได้หรอก แต่ที่ฉันมั่นใจก็คือ ถ้าคนที่ให้สัญญากับเขาว่าจะช่วยให้เขาหนีรอดคือตระกูลซูล่ะก็ ตระกูลซูไม่มีทางทำอย่างที่พูดแน่ๆ!”

เฉินจื๋อข่ายรีบเอ่ยถามขึ้นมาว่า “คุณชาย ถ้าเป็นอย่างที่คุณพูด ก็แปลว่าตระกูลซูเตรียมจะเอาชีวิตหลิวจ้านน่ะสิ!”

“ใช่” เย่เฉินพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “ฉันว่าจากวิธีการแก้ปัญหาของตระกูลซู ต้องหลีกเลี่ยงการปล่อยให้เรื่องมันยืดเยื้ออยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาต้องหาทางกำจัดหลิวจ้านทิ้งให้เร็วที่สุดในขอบเขตที่สมเหตุสมผลแน่นอน”

เฉินจื๋อข่ายครุ่นคิด แล้วเอ่ยพูดว่า “ถ้างั้นสถานที่ที่ตระกูลซูเลือก น่าจะเป็นจุดที่ไร้ทางออกบนเส้นทางสายนี้”

เย่เฉินตอบอืมในลำคอ แล้วออกคำสั่งว่า “เร่งความเร็ว ล็อกเป้าพวกเขาเอาไว้ให้เร็วที่สุด”

“ได้ครับคุณชาย!”

หลังจากที่ฮอล์ใช้เวลาบินไม่กี่นาที เฉินจื๋อข่ายก็ชี้ไปที่รถหรูสีดำตรงทางข้างหน้าแล้วพูดว่า “คุณชาย ล็อกเป้ารถคันนั้นได้แล้ว!เป็นรถคันข้างล่าง!”

เย่เฉินก้มมอง จึงพบว่าเป็นรถโรลด์รอยซ์ของเฉินจื๋อข่ายจริงๆ

แต่ว่า เนื่องจากฮอล์บินสูงเกินไป รถคันนั้นจึงดูเล็กเหมือนเล็บมือ

ในตอนนี้เอง เฉินจื๋อข่ายก็ถามเขาว่า “คุณชาย เราต้องบินต่ำลงเพื่อไล่ตามไหมครับ?”

เย่เฉินโบกมือ “ไม่ต้อง อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น ตามสังเกตไกลๆไปก่อน”