บทที่ 2369

ในช่วงตอนเย็น เมื่อเย่เฉินกลับถึงที่บ้าน ผู้ยอดฝืมือสิบนายของตระกูลซู แบ่งแยกออกเป็นหลายกลุ่ม และเริ่มลาดตระเวนทุกโรง
พยาบาลในเมืองจินหลิง

ในเวลาเดี๋ยวกัน ซูโสว่เต่อให้คนเตรียมอาหารเย็นสุดหรู เพื่อสร้างความบันเทิ้งให้กับ Steve ในร้านอาหารของห้องชุดประธานาธิบดีของ
เขา

แม้ว่าความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของตระกูล Steve จะด้อยไปกว่าตระกูลซูมากมาย แต่ในมุมมองของซูโสว่เต๋อ ไม่ว่ายังไงแม่ของ
Steve ก็เป็นสมาชิกของตระกูลรอรส์ไซลด์ ดั่งนั้นการที่มีความสัมพันธ์กับเขาบ้างจึงไม่มีใช่เรื่องแย่อะไรเลย

Steve รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากโดยธรรมชาติอยู่แล้ว

แม้ว่าแม่ของเขาจะเป็นผู้หญิงที่มาจากตระกูลรอธส์ไซลด์ก็จริง แต่เขาก็รู้ดีในใจว่า มีผู้หญิงอย่างน้อยหลายร้อยคนอยู่ในตระกูลรอธสั
ไซลด์ เหมือนกับแม่ของเขา

และสายของแม่และปู่ของเขา ไม่มีชื่ออยู่ในตระกูลรอธไชลด์เลย

การที่เป็นญาติของตระกูลรอธส์ไซลด์นั้น เป็นเพียงการสร้างชื่อขึ้นมาเท่านั้นเอง

ตอนนี้เขามีโอกาสได้ผูกมิตรกับตระกูลซูซึ่งเป็นตระกูลชาวจีนชั้นยอด สำหรับเขาแล้วจึงเป็นสิ่งที่มีค่ามากโดยธรรมชาติ บางทีใน
อนาคตเขาอาจสามารถพึ่งพาตระกูลชู เพื่อวางรากฐานในประเทศจีนได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

ดังนั้น ในขณะที่ Steve ตื่เต้น เขาก็ต้องปล่อยวางเรื่องที่จะตามหารองรอยของลูกชายของเขา Walter ที่หายตัวไปเวลานาน และนั่งลง
ที่โต๊ะเหล้าและแสดงบทบาทสุนัขเอาใจที่ซื่อสัตย์ของซูโสว่เต๋อขึ้นมา

ในขณะที่ทั้งสองกำลังสนุกสนานกันกับการดื่ม เย่ฉินก็ได้รับข้อความจากวีแชทที่เฉินจี๋อข่ายส่งมา เนื้อหาของข้อความในวิแชทคือ
“คุณชาย คนของตระกูลซูกำลังตรวจสอบภูมิหลังของตี๋เหากรุ๊ป ในขณะเดียวกันก็มีส่งผู้ยอดฝีมือไปแอบเข้าไปในโรงพยาบาลใหญ่ในเมืองจิน
หลิง และแอบคันหาร่องรอยของตู้ให่ชิงและซูจือหยูอย่างลับๆ”

เย่เฉินหัวเราะเยาะในใจ และตอบว่า “ซูโสว์เต่อสุดยอดนัก สืบสวนมาถึงที่ตี้เหากรุ๊ปแล้ว นี่คืออดรอไม่ไหวที่อยากจะตามผมออกมาพบ
หน้าสักครั้ง”

เฉินจื่อข่ายกล่าวว่า “คุณชายไม่ต้องกังวล โลกภายนอกรู้เพียงว่าตี้เหากรุ๊ปถูกตระกูลเยซื้อกิจการ แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นประธานของตี้เหา
กรุ๊ป ผมเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสืบสวนมาถึงตัวคุณในเวลาอันสั้นๆ แนนอน”

เย่เฉินตอบทันทีว่า “อย่าให้โอกาสเขา คืนนี้ก็พาเขาไปเยี่ยมฟารัมสุนัขที่หงห้าเลี้ยงไว้

เฉินจื่อข่ายรีบถามว่า “คุณชาย คุณเตรียมจะลงมือในคืนนี้แล้วใช่ไหม?”

เย่เฉินตอบว่า “ใช่ คืนนี้เลย คุณไปบอกกับซูรั่วหลี และให้นางเตรียมตัวไว้”

เฉินจื่อข่ายรีบพูดว่า “ครับคุณชาย งั้นมีอะไรที่ผมจะต้องเตรียมไหม?”

เย่เฉินกล่าวว่า “บอกหงห้า ให้ฟาร์มเลี้ยงเตรียมตัวไว้ก็พอแล้ว อย่างไรก็ตามซูโสว่เต๋อก็เป็นทานชายรองของตระกูลซู เขามีภูมิหลังตัว
ตนที่ไม่ธรรมดา ให้หงห้าแยกกรงสุนัขให้เขาต่างหาก”

เฉินจี่อข่ายก็เลยถามว่า “แล้ว Steve ล่ะ? ต้องเตรียมให้เขาไหม?”

เย่เฉินกล่าวว่า “รอให้ Steve ไปถึงฟาร์มเลี้ยงสุนัข มันก็คงต้องเป็นฉากที่พ่อลูกเจอหน้ากันอย่างประทับใจ ถึงเวลานั้นก็ปล่อยให้เขาพัก
อยู่ในกรงสุนัขเดียวกับลูกชายของเขา โฮใช่แล้ว คุณให้หงห้าเตรียมดอกไม้ไร้สักหน่อย ทำให้พอลูกมีบรรยากาศที่อบอุ่นหน่อยๆ”

“ครับคุณชาย ผมเข้าใจแล้วครับ!”

โรงแรมจินหลิงอินเตอร์เนชั่นแนล

ซูโสว์เต่อที่กินอิ่มพอประมาณแล้ว ยืนอยู่ที่หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานอันหรูหราของ Executive deluxe suite เพียงลำพัง มองดูวิว
ช่วงกลางคืนของเมืองจินหลิง

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้อารมณ์ของเขาไม่ค่อยจะดีเลย เพราะไม่รู้ร่องรอยของตู้ไหชิงและซูจือหยู เขากลัวว่าการวางแผนฆาซูจือหยู
ของเขาจะถูกเปิดเผยไป

จริงๆ แล้วเขารู้อยู่แก่ใจว่า “เม้ว่าคุณท่านจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่ความรักที่มีต่อซูจือหยูในหัวใจของคุณท่านนั้นมาจากหัวใจอย่าง
แท้จริง”

“ถ้าซูจือหยูเสียชีวิตไป สำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องที่น่ามีความสุขที่สุด หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ซูจือเฟยและซูโสว่เต้าต่างถูกเนรเทศไปยัง
ออสเตรเลีย และไม่มีใครในตระกูลซูที่จะสามารถคุกคามต่อสถานะของผมได้อีกต่อไป”

“ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าซูจือหยุตายไปแล้ว มันจะต้องส่งผลกระทบต่อคุณท่านอย่างหนักแน่นอน ดีไม่ดีมันอาจจะทำให้คุณท่านเสียชีวิตได้เร็ว
ขึ้น และมันก็จะช่วยให้ผมได้รับตำแหน่งหัวหน้าตระกูลซูเร็วขึ้นก่อนด้วย”

“อย่างไรก็ตาม ถ้าซูจือหยูม่ตาย สำหรับผมแล้ว มันก็เป็นภัยคุกคามต่อผมอย่างใหญ่หลวงเลยที่เดียว!”

ขณะที่คิดเช่นนี้ ผู้ช่วยก็มาเคาะประตูของเขา

หลังจากที่ซูโสว่เต่อปล่อยให้เขาเข้ามา เขาก็เอ่ยปากถามว่า “เรื่องถูกดำเนินการไปถึงไหนแล้ว?”