บทที่ 2419
สิ่งที่พุ่งเข้ามาในดวงตาของซูจือหยู เป็นห้องดิลักข์ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ตัวเองกำลังนอนอยู่เตียงที่นุ่มสบายซึ่งมีความกว้างสองเมตรกว่า
ในชั่วพริบตาเดียวนี้ เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นวิญญาณหลังความตาย
ดังนั้นเธอก็อยากจะตามหาที่อยู่ของแม่ในทันที เมื่อมองไปรอบๆ ถึงได้พบว่าแม่ก็นอนอยู่ที่ข้างกายของตัวเอง!
ในเวลานี้เธอก็ไม่สนว่าเป็นความฝันหรือความจริง แทบรอไม่ไหวที่จะยื่นมือออกไป เขย่าร่างของแม่ และในปากกิตะโกนว่า: “เม่…แม่ค่ะ
แม่ตื่นเถอะ…”
ตู่ให่ชิงที่ยังคงหลับอยู่ ถึงได้ค่อยๆตื่นขึ้นมา หลังจากที่ฟื้นคืนมา เธอมองดูซูจือหยูที่อยู่ตรงหน้า และอุทานว่า: “จื่อหยู…ลูกไม่เป็นไรใช่
มั้ย?!”
ซูจือหยูรีบพูดว่า: “แม่ค่ะ หนู…หนูก็ไม่รู้ว่าหนูเป็นอะไรหรือเปล่า…
ตู่ให่ซิงมองไปรอบๆ และถามโดยไม่รู้ตัว: “พวกเรา…พวกเราอยู่ที่อุโมงค์ไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้…
ซูจือหยูก็ส่ายหน้าต่อเนื่องอย่างไม่รู้ตัว: ” หนูก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นโรงแรมแห่งหนึ่ง…
ขณะนั้น ซูจือหยูนึกถึงใบหน้าของเย่เฉินอย่างกะหันหัน!
ทันทีที่นึกถึง ก่อนหน้าที่ตัวเองจะหมดสติ สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าของตัวเอง ก็เป็นผู้มีพระคุณ ที่ตัวเองถวิลหาทุกเช้าค่ำ และพยายามตาม
หาอย่างสดความสามารถ
ดังนั้นเธอถึงได้เข้าใจเรื่องหนึ่ง ละอุทานว่า: “แม่ค่ะ! ต้องเป็นมีพระคุณช่วยพวกเราไว้อย่างแน่นอน!”
“ผู้มีพระคุณเหรอ?!”ตู้ให่ชิงถามโดยไม่รู้ตัวว่า: “ลูกหมายถึง ผู้มีพระคุณที่ช่วยลูกในประเทศญี่ปุ่นเหรอ”
“ใช่แล้ว! ก็คือเขา!”ซูจื่อหยูตื่นเต้นจนน้ำเสียงก็สั่นเทาเล็กน้อย น้ำตาก็ไหลอาบแก้มอย่างควบคุมไม่ได้ และพูดด้วยความสะอีกสะอิ้นว่า:
“แม่ค่ะ…ความทรงจำสุดท้ายก่อนหน้าที่หนูจะหมดสติไป ก็คือตัวเองใกล้จะตายแล้ว สติสัปชัญญะก็กระเจิดกระเจิงถึงขอบแล้ว ต่อจากนั้น…ต่อ
จากนั้นหนูก็เห็นผู้มีพระคุณ!”
ตู่ให่ซิงอดไม่ได้ที่จะถาม: “ในเวลานั้นเพราะว่าสติเลื่อนรางเกิดภาพหลอนหรือเปล่า? คนคนนั้นอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอ? จะปรากฏ
ตัวที่เมืองจินหลิงได้ยังไง?”
ซูจือหยูพูดอย่างแน่วแน่ว่า: “แม่ค่ะ เป็นเขา เป็นเขาจริงๆ! หนูไม่มีทางจำผิดหรอก!”
จากนั้น เธอรีบตรวจสอบดูร่างกายของตัวเอง
ในไม่ช้า เธอก็พบว่า เดิมที่ร่างกายของตัวเองที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้กลับไมได้บาดเจ็บ ก็ยิ่งพูดอย่างตื่น
เต้นว่า: “แม่! จะต้องเป็นผู้มีพระคุณช่วยพวกเราออกจากในอุโมงค์อย่างแน่นอน! ยั่งมีอาการบาดเจ็บบนตัวของพวกเราด้วย เขาจะต้องรักษา
หายดีอย่างแน่นอน”
ตู่ไห่ชิงถึงได้ตระหนักว่า ร่างกายของตัวเอง ในเวลานี้ไม่มีความรู้สึกผิดปกติอะไรทั้งนั้น
ต้องรู้ว่า ก่อนหน้านี้ เธอและลูกสาวประสบอุบัติเหตุทางรถยนตโดยฝีมือคนอยู่ในอุโมงค์ และได้รับบาดเจ็บสาหัส
เธออดไม่ได้ที่จะอุทานอยู่ในกันบึ้งของหัวใจ: “ในอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ร้ายแรงขนาดนั้น แทบจะไม่มีใครรอดชีวิตมาได้เลย!”
“แต่ว่า ตอนนี้ฉันและจือหยูกลับไมได้รับบาดเจ็บ…นี่มันเหลือเชื่อจริง…
ดังนั้น เธอจึงรีบถามว่า: “จือหยู ผู้มีพระคุณคนนั้นของลูก ทำไมต้องมาช่วยพวกเราด้วย?”
“หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน”ซูจือหยูส่ายหน้าอย่างไม่รู้อะไรเลย และพูดว่า: “หนูตามหาเขามานานมาก ตามหาไม่เจอสักที นี่ก็เป็นครั้งที่สองที่หนู
เจอเขาเท่านั้นเอง…”
จากนั้น เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ: “แม่ค่ะ ผู้มีพระคุณเขาช่วยหนูอีกครั้งแล้ว…ยิ่งไปกว่านั้นไม่เพียงแค่ช่วยหนู ยังช่วยแม่ด้วย คิดดู
แล้ว พวกเราสองแม่ลูก และยังมีพี่ชายของหนูด้วย สามคนติดค้างหนี้ชีวิตผู้มีพระคุณสี่ชีวิต….
ต่อจากนั้น ซูจือหยูก็อตไม่ได้ที่จะบ่นว่า: “แม่ค่ะ! ปรมาจารย์ชวงจุ้ยคนนั้นที่คุณตาหามา พูดจาไร้สาระ! เขาให้หนูไม่ต้องตามหาผู้มี
พระคุณ บอกรำดวงชะตาของหนูกับดวงชะตาของผู้มีพระคุณชงกันจะมีหายนะครั้งใหญ่ แต่เขาคงจะคาดไม่ถึงอย่างแน่นอนว่า ผู้มีพระเป็นคน
คุณช่วยหนูอีกครั้ง! ตอนนั้นหนูบอกว่าสิ่งที่เขาทำนายเชื่อไม่ได้ แม่ยังด่าหนู….”