บทที่ 2467
คำพูดของไหม้เค่อ ทำให้ไหม้เฉิงซิน ฮึกเหิมขึ้นมา!
เขาศึกษาอี้จึงปากั้ว ฮวงจุ้ย ชวนชวนมาทั้งชีวิต ดูเหมือนจะบรรลุแล้ว แท้ห่จริงเขาเพิ่งชำนาญเรื่องฮวงจุ้ย ชวนชวน
ซวนชวนที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ฮวงจุ้ยกับปากั้ เรียกได้ว่าเป็นสำนักขนาดใหญ่ ที่ผสมผสานภูมิปัญญาและมรดกของบรรพบุรุษชาวจีนเข้า
ด้วยกัน
ในบรรดาคนพวกนี้ ผู้มีฝีมือด้านชวนชวนที่ล้ำลึกได้สูญหายไป และแทบไม่มีใครรู้อีกเลย
ชีวิตของไหม้เฉิงซิน ถึงจะเชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย แต่ก็โดนปรมาจารย์คนอื่นข่มอยู่เสมอ
คนที่ข่มเขาหนักที่สุด คือล่ายซิงหวา คนที่อายุมากกว่าเขาสิบปี
ในบรรดาชาวจินสัญชาติอเมริกา ล่ายชิงหวาป็นคนที่มิความรู้เชี่ยวชาญ เรื่องฮวงจุ้ยและซวนชวนสูงส่งมาก
นอกจากนี้ยังมีปรมาจารย์ที่มีฝีมือสูงส่งอีกสองท่าน แต่ตอนนี้ได้จากโลกนี้ไปแล้ว
ไหม้เฉิงชินรอคอยให้ล่ายซิงหวาตาย ตัวเขาจะได้เป็นผู้นำในด้านฮวงจุ้ยและซวนชวน
แต่ตอนนี้ตัวเขาอายุ 90 กว่าปีแล้ว คนอายุเกินร้อยอย่างล่ายชิงหวาก็ยังไม่ตาย
สองสามปีก่อนหน้านี้ ล่ายชิงหวาออกจากอเมริกา กลับมาจีนสามปี
และในสามปีนั้น เป็นสามปีที่ไหม้เฉิงซินรู้สึกประสบความสำเร็จที่สุด
เพราะใครก็หาล่ายชิงหวาไม่เจอ ดังนั้น เขาจึงกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านฮวงจุ้ยและซวนชวนในอเมริกาชั่วคราว
เขาเคยคิดว่า การที่ล่ายชิงหวากลับไปจีน เพราะเขาทำนายวันตายของตัวเองได้ จึงอยากกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่ป้านเกิด และไม่กลับ
มาที่อเมริกาอีก
แต่สิ่งที่ทำให้เขาคาดไมถึง ช่วงก่อนหน้านี้ ล่ายชิงหวากลับมาที่อเมริกา
สิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึง และรับไม่ได้คือ สภาพร่างกายของล่ายชิงหวาสมบูรณ์มาก ถึงอายุเกินร้อย แต่ยังดูกระปรี้กระเปร่ากว่าเขามาก
ระยะเวลาเพียงชั่ครู่ ล่ายชิงหวาที่ดูเด็กเหมือนอายุ 20 ปี กลายเป็นที่พูดถึง ในแวดวงคนเชื้อสายจีนในอเมริกา คนจำนวนมากนับถือล่า
ยชิงหวาเป็นเทพเซียน เพียงพริบตา เรื่องเล่าของเขาโด่งดังในแวดวงคนเชื้อสายจีน
ในช่วงนั้น ไหม้เฉิงซินจิตใจหดหู่มาก
ถึงจะหดหู่ใจ แต่เขาแปลกใจและอยากรั กับการเปลี่ยนแปลงของส่ายชิงหวา จึงตั้งใจแวะไปหาล่ายซิงหวาด้วยความถ่อมตน
ตอนแวะมาเยี่ยม เขาลองถามถึงสาเหตุที่ล่ายชิงหวาดูเด้กลง ล่ายชิงหวาพูดเพียงว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน”
ไหม้เฉิงซินเข้าใจที่เขาต้องการจะสื่อ เขารู้ว่าล่ายชิงหวากำลังบอกเขาว่าเจอยอดฝีมือที่จีน จึงโชคดีขนาดนี้
ถึงไหม้เฉิงซินจะไม่รู้ว่า ล่ายซิงหวาจอความโชดีอะไร แต่เขาเดาว่า ล่ายชิงหวาสามารถเปลี่ยนจากคนซรา กลายเป็นวัยรุ่นแบบนี้ น่า
จะได้เรียนรู้วิชาซวนซวนที่สูงขึ้นอีกระดับหนึ่ง
วิชาซวนซวนนอกจากวิชาฮวงจุ้ย ยังมียันต์และค่ายกล ที่บรรพบุรุษเรียกว่าเวทเก้าอักษร ได้แก่ หลิน ปีง โต่ว เจ่อ เจีย เจิ้น เลี่ย เฉียน
สิง(แปลว่า การมุ่งใจที่ไม่หวั่นไหว การทำให้มีอายุยืน ความกล้หาญที่จะยืนหยัดต่อสู้ การช่วยเยวยา รักษา หรือบ่าบัตผู้อื่น การเข้าใจจิตใจ
ของผู้อื่น การรู้จักชะตากรรมของตนเองและเปลี่ยนแปลมันได้ การมุ่งช่วยเหลือผู้อื่นเป็นหลักเพราะสำเร็จกิจของตนแล้ว การดิ่งลึกลงในการ
ช่วยเหลือผู้อื่น การเป็นพุทธะ) คือหัวใจสำคัญของเวทเก้าอักษร
แต่ว่านี่ไม่ใช่สุดยอดเทคนิคที่แท้จริงของวิชาซวนชวน
เพราะปัจจุบันในแวดวงวิชาชวนซวน มีตำนานหนึ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ นั่นคือปราณทิพย์!
ในเอกสารโบราณ พูดถึงปราณทิพย์อยู่บ่อยๆ รวมถึงการฝึกฝนปราณทิพย์ด้วย
ขนาดในตำนานฟื้นบ้าน นิทานที่โด่งดัง ก็มีการบันทึกเรื่องนี้เอาไว้เช่นกัน
ว่ากันว่าปราณทิพย์คือสิ่งสูงสุด ในบรรดาพละกำลัง เมื่อเรียนรู้ปราณทิพย์ ก็จะสามารถเรียนรู้ทุกอย่างได้
แต่ว่าเมื่อมาถึงยุคสมัยใหม่ ในแวดวงวิชาชวนซวน ไม่สามารถหาวิธีการฝึกปราณทิพย์ได้เลย
คนในแวดวงวิชาชวนซวนจำนวนมาก หากันแทบเป็นแทบตาย ก็ไม่สามารถหาร่องรอยหรือเบาะแส ที่สามารถนำมาใช้ได้เลย
ถึงไหม้เฉิงซินก็ปรารถนาเช่นกัน แต่เขารู้ดี ตัวเขาคงไม่โซคดีขนาดนั้น
แต่ว่า คำพูดของเหลนอย่างไหม้เค่อ เตือนสติเขา
ไม่แน่ เมืองจินหลิงอาจเป็นโอกาสของเขา!
มื่อคิดได้เช่นนั้น เขาพูดกับซูเฉิงเฟิงว่า “เฉิงเฟิง ลูกชายคนรองของนาย ภรรยาลูกชายคนโต รวมไปถึงหลานสาวคนโตของนาย หายตัว
ไปในเมืองจินหลิง ส่วนลูกชายของคุณ โดนยอดฝีมือสะกดจิตที่เมืองจินหลิง ฉันคิดว่า ต้องมียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่ที่เมืองจินหลิงแน่นอน ใน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันจะไปเมืองจินหลิงด้วยตัวเอง ดูว่าจะเจอเบาะแสอะไรหรือเปล่า!”