บทที่ 2510
“ใช่”เย่เฉินพยักหน้าและพูด”ฉันไม่รู้ว่าคุณรู้จักตระกูลซูมากน้อยแค่ไหน สมัยนั้นตระกูลซูกับพ่อของฉันไม่ค่อยถูกก้น และตระกูลซูยัง
ก่อตั้งพันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่ด้วย พวกเขารวมตัวกันหลายตระกูลเพื่อต่อสู้กับพ่อของฉัน ในสายตาของฉัน ตระกูลซูก็คือศัตรู ตอนนี้ธุรกิจ
การขนส่งทางทะเลของตระกูลชูหยุดชะงักอย่างสมบูรณ์ ฉันรู้สึกว่าตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะไปทำธุรกิจนี้ ดังนั้นฉันก็เลยมีความคิดที่จะทำ
ธุรกิจด้านนี้”
ขณะพูด เย่เฉินก็ถามทันที”เดิมที่ฉันจะให้ตงเเวี่ยนมาดูแลธุรกิจนี้ แต่เธอบอกว่าถ้าคนที่จะมาดูแลธุรกิจนี้จะต้องเข้าใจการค้าระหว่าง
ประเทศ กฎหมาย ข้บังคับและโยบายภาษีของประเทศต่าง เธอรู้สึกว่าตัวเองยังไม่มีความสามารถขนาดนี้ ดังนั้นเธอก็เลยแนะนำคุณให้กับ
ฉัน…”
“และบังเอิญ เมื่อคืนพวกเราก็พึ่งเจอกัน ดังนั้นวันนี้ฉันก็เลยมาหาคุณด้วยตัวเอง เพื่อขอให้คุณมาช่วยงานของฉัน และฉันก็คิดไม่ถึงจริงๆ
ว่าคุณจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับแม่ของฉัน
เฮ่อหย่วนเจียงนิ่งเงียบไปสักครู่และเอ่ยปากพูด:”เย่เฉิน ตอนนี้คุณเลือกที่เริ่มธุรกิจการขนส่งทางทะเล มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อ
งมากๆ”
“ในอนาคตสัดส่วนของการค้าระหว่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างแน่นอน เพราะบริษัทขนาดใหญ่ต่างๆก็ได้ริเริ่มห่วงโซ่อุปทานระดับ
โลกมากขึ้นเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่นอุตสาหกรรมรถยนต์ รถยนต์หนึ่งคัน จะใช้เหล็กกล้ที่ผลิตจากบราซิลและอสเตรเลีย ใช้ยางรถยนต์จะ
ผลิตจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้อุปกรณ์อิล็กทรอนิกส์และแผงควบคุมที่แม่นยำจากอเมริกา เยอรมนี และญี่ปุ่น จากนั้นก็ใช้แรงงานของ
ประเทศจีนในการประกอบรถยนต์”
“ในจำนวนนี้ การขนส่งวัตถุดิบ อะไหล่และรถยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่ต้องอาศัยการขนส่งทางเรือ”
“ไม่ต้องพูดถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ แม้แต่อุตสาหกรรมเสื้อผ้า ตอนนี้มันก็เป็นห่วงโซ่อุปทานระดับโลกเหมือนกัน เสื้อโค้ตที่
คุณซื้อมาในราคาสองสามร้อยหยวน มันอาจจะใช้ผ้าฝ้ายจากอเมริกา ใช้ผ้าที่ผลิตในประเทศจีน ใช้ซิปที่ผลิตจากญี่ปุ่น จากนั้นค่อยใช้แรงงาน
จากเวียดนาม ปังกลาทศและโรมาเนียเพื่อตัดเย็บ จากนั้นค่อยใช้เรือในการขนส่งจากประเทศผู้ผลิตเข้ามาในประเทศจีน จากนั้นค่อยขายให้
คุณ”
“หลังจากห่วงโซ่อุปทานของโลกยิ่งอยู่ยิ่งมาก ธุรกิจการขนส่งทางทะเลก็จะเติโตมากขึ้น ตอนนี้ตระกูลซูพึ่งถูกถอนใบอนุญาตการจน
ส่งทางทะเล มันจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการขนส่งทางทะเลภายในประเทศ
เย่ฉินพยักหน้าและถาม:”ต๊อกเตอร์เฮ่อ ไม่ทราบว่าคุณจะยอมช่วยฉันในเรื่องนี้ไหม? คุณต้องการอะไรก็บอกมาได้เลย!”
หันใดนั้น เฮ่อหย่วนเจียงก็รู้สึกโศกเศร้าและถอนหายใจ พูดว่า”เย่เฉิน ฉันขอพูดกับคุณตามตรงเลยนะ ถ้าฉันไม่ลาออกจากงาน ตอนนี้
ฉันคงเป็น CE0 ของบริษัทขนาดใหญ่ที่อยู่ในอันตับท็อป500 ของโลกไปแล้ว บางที่ฉันอาจจะเหมือนกับCE0 ของแอปเปิลอย่างทิมคุก ที่
สามารถทำเงินได้หนึ่งร้อยล้านตอลลาร์ต่อปีได้อย่างง่ายดาย เหตุผลที่ฉันยอมทิ้งรายได้จำนวนมาก และเลือกที่จะมาสอนหนังสือ เพราะฉันเคย
สาบานต่อหน้าหลุมฝั่งศพของกรรยา ชีวิตที่เหลือของฉันจะสอนแค่หนังสือเท่านั้น และไม่ทำงานต้านธุรกิจอีก และไม่ทำงานเพื่อหาเงินอีกต่อ
ไป…”
เย่เฉินถามด้วยความตกใจ:”ด๊อกเตอร์เฮ่อ กรรยาของคุณเสียชีวิตแล้วเหรอ?”
“อิ่ม…”เฮ่อหย่วนเจียงถอนหายใจยาวๆ”เห้อ สมัยนั้นฉันทะเยอทะยานมากจนเกินไป เพราะเพื่อนร่วมห้องที่อยู่รอบตัวต่างก็กลายเป็นผู้
บริหารและเป็นหุ้นส่วนของบริษัท และมีคนไม่น้อยประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจและเป็นเศรษฐีฟันล้านดอลลาร์ ฉันไม่เต็มใจที่จะตามหลังคน
อื่นๆ ดังนั้นฉันก็เลยทำงานอย่างหนัก ตลอดทั้งปี ฉันอยู่บ้านไม่ถึงหนึ่งเดือน…
“ในเวลานั้น ฉันนั่งอยู่ชั้นเฟิร์สคลาสทุกวันเพื่อบินไปทั่วโลก และฉันไม่มีเวลาเอาใจใส่ภรรยาและลูกเลย”
“มีอยู่ครั้งหนึ่ง ฉันไปคุยโปรเจกต์ที่ญี่ปุ่น ภรรยาโทรมาบอกฉัน บอกว่าช่วงนี้เธอปวดหัวบ่อย แต่ฉันไม่มีเวลาสนใจเรื่องนี้ ฉันก็เลยบอกให้
เธอกินยาไอบูโพรเฟน หรือไม่ก็ให้เธอไปหาหมอด้วยตัวเอง….”
“แต่ใครก็ไม่คาดคิด หลังจากผ่านไปครึ่งปี เธอก็จากฉันไปเพราะเป็นเนื้องอกในสมอง…”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของเฮ่อหย่วนเจียงแดงก่ำ พูดด้วยความรู้สึกผิด:”ตั้งแต่วันที่เธอได้รับการวินิจฉัย ฉันก็ตระหนักได้ทันที ฉันได้ทำ
เรื่องผิดพลาดตั้งมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”
“เงินเป็นสิ่งสำคัญ แต่มันไม่ได้สำคัญที่สุด เงินซื้อความรักไม่ได้ เงินซื้อครอบครัไม่ได้ และเงินก็ซื้อความแข็งแรงของสุขภาพไม่ได้”
“ถึงแม้ฉันจะสามารถหาเงินได้จำนวนมหาศาล แต่ก็แลกชีวิตของกรรยาไม่ได้ และไม่สามารถทำให้ลูกสาวยกโทษให้ฉันได้…”
“ดังนั้น ในเวลานั้น ฉันก็เลยสาบานกับเธอ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เฮ่อหย่วนเจียงจะสอนแค่หนังสือ และจะไม่ยอมเป็นทาสของเงินอีก!”