บทที่ 2576
เฮ่อจื่อซิวถามว่า “คุณมีสิทธิ์อะไร! ฉันมีสิทธิ์เลือกไม่ให้คุณพาฉันไป!”
เย่เฉินชี้คามมิต แล้วย้อนถามว่า “ตอนพวกเขาจับตัวคุณ ทำไมคุณไม่พูดแบบนี้กับเขาล่ะ”
จู่ๆ เฮ่อจือชิวโดนถามจนพูดไม่ออก เธอพูดติดๆ ขัดๆ ว่า “ฉัน…ฉัน…
เย่เฉินพูดอย่างเย็นชา “ไม่ต้องพูดแล้ว ผมขี้เกียจพูดกับคุณ วันนี้ยังไงคุณก็ต้องไป ไม่ไปก็ต้องไป ถ้าคุณอยากตาย รอให้กลับไปจีน
ก่อน ถึงเมืองจินหลิงมื่อไร หลังจากผมส่งคุณถึงมือพ่ออย่างปลอดภัย คุณค่อยกลับมาก็ได้ เมื่อถึงตอนนั้น คุณจะอยู่หรือตาย ก็ไม่เกี่ยวอะไร
กับผม”
เฮ่อจื่อซิวพูดว่า “แต่ฉันไม่อยากกลับไป!”
เย่เฉินส่งเสียงหึ “ไม่อยากเหรอ คุณไม่อยากมากเกินไปแล้ว คุณไม่อยากไป ผมก็จะพาคุณไป!”
พูดจม เขาพูดกับไฟซาลว่า “ปิดปากเธอไว้ ฉันไม่อยากได้ยินเสียงเธอ!”
ไฟซาลรีบเก็บที่คลุมศีรษะ ที่เฮ่อจือชิวใส่ก่อนหน้านั้ ขึ้นมาจากพื้น จากนั้นเขาขย่ามันจนเป็นก้อน และยัดเข้าไปในปากเฮ่อจือชิว
เฮ่อจื่อซิวถูกอุดปากเอาไว้ เธอพูดอะไรออกมาไม่ได้ ทำได้เพียงขัดขืน พลางมองเย่เฉินด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา
เย่เฉินไม่มองเธอ และกวักมือให้ไฟซาล “พาออกไป!”
ไฟซาลรีบพาเฮ่อจือซิวไปที่ห้องข้างนอก
ที่เหลืออีกเจ็ดคนในห้อง เห็นเฮ่อจือชิวถูกพาตัวไป สีหน้าของแต่ละคนเริ่มโมโหและไม่พอใจ
เย่เฉินมองพวกเขา และพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ไม่ว่าพวกนายเจ็ดคน จะมีชีวิตอยู่อีกนานแค่ไหน ฉันหวังว่าพวกนายจะจำเอาไว้ กฎแห่ง
ธรรมชาติคือการเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนา! คนขี้ขลาด ความคิดแคมๆ มองอะไรตื้นๆ แบบพวกนาย ถึงเรียนสูงสักแค่ไหนก็เปล่าประโยชน์!
กากเดนแบบพวกนาย ถึงจะชุบตัวให้สูงส่งแค่ไหน ก๊ปกปิดความเหมินเน่าบนตัวพวกนายไม่ได้หรอก!”
พูดจบ เขามองคามมิต แล้วพูดว่า “จอมพลคามมิต รบกวนไปส่งพวกเราด้วย”
คามมิตไม่รอช้า รีบผายมือเชิญ แล้วพูดว่า “เชิญเลยน้องชาย!”
เย่เฉินพยักหน้า และเดินออกจากห้องพร้อมคามมิต จากนั้นจึงให้คนปิดประตู และล็อกเอาไว้อย่างแน่นหนา ไม่ว่าเจ็ดคนข้างในจะร้อง
โอตครวญยังไง ในใจเย่เฉินก็ไม่มีความสงสารใดๆ
จากนั้น คามมิตจึงทำตามสัญญาที่ให้ไร้ เขาสั่งลูกน้องผ่านวิทยุสื่อสาร ให้เอากระสุนปืนทั้งหมด ออกจากเซลิคอปเตอร์ติดอาวุธหนึ่งลำ
และให้เหล่าทหารยาม ที่ยืนประจำการอยู่ที่สูง แยกย้ายไปให้ห่มด จากนั้นเขาให้คนขับเฮลิคอปเตอร์ คนที่เขาไว้ใจที่สุด ซับเฮลิคอปเตอร์มา
จอดในลาน
เมื่อเสร็จเรียบร้อย คามมิตพูดกับเย่เฉินว่า “น้องชาย เตรียมเซลิคอปเตอร์เรียบร้อยแล้ว เราขึ้นไปข้างบนกันเถอะ”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดกับพวกไฟซาล “พวกนายอยู่ที่นี่ต่อ”
พวกนั้นรีบพูดอย่างไม่ลังเล “รับทราบ!”
เย่เฉินตึงเช่อจื่อชีว ที่โตนมัตมีอไพล่หลัง เข้ามาหาตัว จากนั้นจึงพูดกับตามมิตว่า “เราสามตนขึ้นไปกันเถอะ”
เช่อจื่อซิวพูดอะไรไม่ได้ เธอทำได้เพียงร้องห้ คามมิตเป็นฝ่ายเอาป็นพกของตัวเอง โยนลงพื้น แล้วพูดกับเย่เฉินว่า “น้องชาย ให้ฉันเดิน
นำหน้าเถอะ ในมือนายมิปืน ขาฉันก็เดี้ยง นายไม่ต้องกังวลว่าฉันจะหนิ”
เย่เฉินชื่นชมนิสัยใจคอของคามมิตเพิ่มขึ้น เขาพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “รบกวนพี่ชายด้วย!”