บทที่ 2607

ห้องของซูรั่วหลี ห่างจากห้องของตู้ใหชิงและซูจือหยูไม่ใกล้ไม่ไกลมาก ล้วนแต่อยู่ในพื้นที่ของชั้นห้องเอ็กเซ็กคูทีฟเดียวกันหมด เพียง
แต่ระหว่างกลางห่างกันกว่าสิบห้อง

เธอในตอนนี้ ไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่ห้องของซูจือหยู

ช่วงระยะนี้ เธอรีบที่จะฝึกศิลปะการต่อสู้อยู่ตลอด

ก่อนหน้านี้เยเฉินยกระดับเส้นเริ่นของเธอจาก40%ขึ้นถึง 100%เลยอย่างเห็นได้ช้ด ทำให้พละกำลังของเธอเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่ง
ใหญ่แล้ว เพราะงั้นเธอแทบจะอดใจรอไม่ไหที่จะใช้ประโยชน์จากรากฐานที่ดีของเย่เฉินเพื่อพิชิตให้ตัวเอง ยกระดับพละกำลังของตัวเองอย่าง
รวดเร็ว

ในเวลานี้ซูรั่วหลี กำลังสวมชุดออกกำลังกายออกกำลังกายตอนเช้าในห้อง หันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกริ่ง รูโดยทันทีว่าเป็นเย่เฉิน วิ่งไปที่
หน้าประตูอย่างตื่นเต้นมาก

กำลังที่จะเปิดประตูห้อง ก็ได้ยินเสียงของเฉินจี่อข่ายแผ่ซ่านเข้ามาจากทางด้านนอก : “คุณหนูซูตื่นแล้วยัง? ”

ซูรั่วหลีที่มือกำลังจะแตะลูกบิดประตูก็หยุดลงทันที ถามอย่างค่อนข้างผิดหวังว่า : “ผู้จัดการทั่วไปเฉินมีธุระอะไรเหรอ? ”

เฉินจื่อข่ายพูดอย่างเกรงใจว่า : “คืออย่างนี้นะครับ คุณชายของพวกเรามาแล้ว กำลังเจอคนคุ้นเคยสองสามคนอยู่ที่อีกห้องหนึ่ง อยาก
จะเชิญคุณไปสักหน่อย ไม่ทราบว่าคุณสะดวกหรือไม่”

ซูรั่วหลีได้ยินว่าเย่เฉินเรียกหาตัวเอง ความรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อตะกี้นี้ทันใดนั้นก็ดีใจอย่างมากที่สุด มีความสุขอย่างมากราวกับสาว
น้อยที่เพิ่งจะมีความรักยังไงอย่างนั้น ดังนั้นเธอก็ยิ่งพูดด้วยความรีบร้อนว่า : “ผู้จัดการทั่วไปเฉินรอสักครู่ ฉันเปลี่ยนชุดแปปหนึ่งจะออกไป
เดี๋ยวนี้! ”

พูดจบ รีบกลับไปยังห้องนอน เม้ว่าทั้งตัวจะเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่ว่าก็ไม่ได้สนใจที่จะไปอาบน้ำ รีบเช็ดตัวๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป
แล้ว

ก่อนที่กำลังจะออกจากบ้าน ยังเดินที่ไปกระจกโดยเฉพาะเพื่อส่องดูอย่างละเอียด เห็นตัวเองในกระจกแม้ว่าสีหน้าสดชื่น ปากแดงฟัน
ขาว แต่ยังขาดความรู้สึกที่งดงามของการแต่งหน้าไปเล๊กน้อย ในใจก๊อดไม่ได้ที่จะหดหู่เล็กน้อย คิดอย่างเงียบๆ : “โร่ ก่อนหน้านี้ก้ไม่ได้หัดแต่ง
หน้า แม้แต่สิปสติกและที่เขียนคิ้วก็ไม่มีเลย ไม่เช่นนั้นยังพอได้แต่งหน้าสักหน่อย…”

ภายใต้ความจนใจ เธอก็ทำได้เพียงขจัดความคิดนี้ออกไป รีบออกจากห้อง

มาถึงหน้าห้องแล้ว เฉินจื่อขายกำลังรออยู่ที่หน้าประตู

เห็นซูรั่วหลีออกมา เขาก็ทำท่าทางเชิญ พูดกล่าว : “คุณหนูชู กรุณามากับผม”

ซูรั่วหลีพยักหน้าแล้ว เดินตามหลังเฉินจื่อข่ายไปยังห้องที่เย่เฉินอยู่

ในเวลานี้ นอกจากเย่เฉินแล้ว ซูโสว่เต้ ซูจือหยูและตู่ไห่ชิง ต่างก็ไม่รู้ว่าแขกอีกท่านหนึ่งที่เยเฉินพูดถึง คือใครกันแน่
เพราะงั้น ในใจของทั้งสามคนอยากรู้อย่างมาก

อย่างรวดเร็ว เสี่ยงกริ่งที่นอกประตูดั่งขึ้น เฉินจี๋อข่ายพูดกล่าวที่ข้างนอกประตู : “คุณชาย แขกที่เชิญมาแล้วครับ”
เย่เฉินพูดเสียงอืม พูดว่า : “ให้เธอเข้ามาเถอะ”

เฉินจื่อข่ายรีบเปิดประตูทันที พูดกับซูรั่วหลีที่อยู่ข้างๆว่า : “คุณหนูซูเชิญครับ”

ซูรั่วหลีเดินก้าวเข้ามา เห็นเย่เฉินที่ยืนอยู่ที่ต้านในก่อน ในใจก็รู้สึกซอบอย่างมาก แต่รอหลังจากที่เธอมองเห็นคนอื่นๆที่อยู่ข้างกายของ
เย่เฉินอย่างชัดเจน คนทั้งคนอึ้งไปครู่หนึ่ง

ให้เธอฝันก็ยังคาดคิดไม่ถึงว่า พ่อของตัวเองซูโสว่เต้ พี่สาวที่พ่อเดียวกันแต่คนละแม่อย่างซูอหยู และแม่ที่ให้กำเนิดซูจือหยูตู้ไห่ซิง
ล้วนแต่อยู่ที่นี่ทั้งหมด!

ซูโสว่เต้า ซูจือหยูและตู้ห่ชิงทั้งสามคนเห็นซูรั่วหลีเดินออกมา ล้วนแต่ตกใจกันอย่างสุดขีด

ใครก็คิดไม่ถึงว่า ชูรั่วหลีหายตัวไปที่ญี่ปุ่น จู่ๆก็ยังมีชีวิตอยู่!

ทั่ทั้งญี่ปุ่นเพื่อที่จะตามหาเธอ สามารถพูดได้ว่าพยายามคิดหาทุกวิถีทาง กรมตำรวจนครบาลบุกค้นหาทั่วทุกพื้นที่ภายในประเทศ
ทหารของกองกำลังป้องกันตนเองบุกค้นหาทั่ทุกเมืองในประเทศ ว่างแผ่นกับซูเฉิงเฟิงอย่างลับๆคิดอยากประสบความสำเร็จ กลับว่าไม่ระวัง
กองกำลังป้องกันตนเองล้มเหลวแล้ว เพื่อกอบกู้หน้าตากลับมา นำความดีความชอบมาชดเชยให้กับความประมาท ยิ่งไปกว่านั้นก็คันหาแถว
ชายฝั่งของญี่ปุ่นกันให้ทั่ว แต่ว่า ไม่มีใครพบที่อยู่ของซูรั่วหลีเลย

คนญี่ปุ่นเคยคิดว่า ซูรั่วหลีน่าจะตายกลางทะเล ถึงอย่างไร อยากจะหาคนๆหนึ่งกลางทะเลอันกว้างใหญ่ มันก็ยากมากเหมือนกับปีนขึ้น
บนฟ้า

คนตระกูลซูก็คิดว่า90%ซูรั่หลีตายแล้ว และมีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกฝังอยู่ใต้ทะเล ไม่เช่นนั้นล่ะก็ เธอสามารถหนีรอดออกมาจาก
การรายล้อมอย่างหนาแน่นของชาวญี่ปุ่นได้อย่างไร? !

แต่ตอนนี้ จู่ๆซูรั่วหลีก็ปรากฏตัวต่อหน้าของพวกเขาตัวเป็นๆ!

อีกอย่าง ที่นี่ก็ไม่ใช่ญี่ปุ่น!

ที่นี่คือหัวเชี่ย คือจินหลิง!

อีกอย่าง ในเมื่อเธอเป็นแขกของเย่เฉิน นั่นก็เป็นเย่เฉินที่ช่วยเธอกลับมาแน่นอน

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว เย่เฉินคนนี้มีความสามารถระดับสูงมากเลยทีเดียว!

ถ้าหากไม่มีความสุมารถระดับสูง จะพาตัวซูรั่วหลิมาจากศัตรูที่โหดเหี้ยมอย่างเงียบๆได้อย่างไรกัน? !

นี่ ก็เป็นสิ่งที่คาดคิดไม่ถึงเลย!

คนที่ตื่นเต้นมากที่สุด แน่นอนว่าเป็นซูโสว่เต้า

เขาเห็นว่าชูรั่วหลียังมีชีวิตอยู่ อารมณ์ยิ่งเพิ่มความตื่นเต้น ร้องไห้พร้อมพูดว่า : “ถั่วหลี! รั่วหลี เป็นลูกจริงๆด้วย พ่อตามหาหนูอย่าง
ยากลำบากมาก!